‘ทนายเขากระโดง’ หวั่น DSI ลงพื้นที่ผิดสังเกต มีนัยการเมือง-กระทบ ปชช.ผู้บริสุทธิ์
เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความคดีเขากระโดง กล่าวถึงการทำงานของชุดสืบสวนสอบสวนคดีที่ดินเขากระโดง ที่ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อรวบรวมหลักฐานพิจารณาจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กำลังถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองหรือไม่ เรื่องเขากระโดงไม่ใช่คดีพิเศษอะไร เป็นเพียงข้อพิพาทสิทธิในที่ดินที่กฎหมายกำหนดช่องทางไว้ชัดเจน คือให้พิจารณาตาม มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และศาลปกครอง ชี้แล้วว่าอำนาจเพิกถอนโฉนดเป็นของอธิบดีกรมที่ดิน ไม่ใช่ของ DSI แต่กลับเห็นความพยายามเร่งเรื่องให้เป็นคดีพิเศษ ทั้งที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ เพียงเพราะต้องการสร้างแรงกดดันทางการเมือง
นายชนินทร์ กล่าวว่า การนำเอกสารอย่าง ร.ว.9 หรือ ส.ค.1 มาโบกเป็นธง ทั้งที่รู้กันดีว่าไม่ใช่เอกสารกรรมสิทธิ์ เป็นเพียงแจ้งการครอบครองแบบเดียวกับประชาชนทั่วไป แถมยังมีปัญหามาตราส่วนผิดเพี้ยนในแผนที่ ก็สะท้อนเจตนาชัดว่าไม่ได้ทำเพื่อหาความจริงทางกฎหมาย แต่ทำเพื่อสร้างเรื่องให้สังคมเชื่อว่าประชาชนคือผู้บุกรุก ทั้งที่ประชาชนถือโฉนดถูกต้องตามกฎหมาย
"สิ่งที่น่ากังวลคือการเร่งทำคดีนี้ให้กลายเป็นคดีพิเศษเกิดขึ้นหลังเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมือง กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถูกกดดันให้เร่งปิดเกม ทั้งที่ความจริงปัญหาคาราคาซังมาหลายสิบปี ทำไมเพิ่งจะเร่งเอาตอนนี้ คำตอบมีเพียงข้อเดียวนี่คือการเมือง ไม่ใช่ความยุติธรรม" นายชนินทร์ กล่าว
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า หลักกฎหมายชัดเจนว่าถ้ารัฐต้องการเพิกถอนโฉนด ต้องดำเนินการผ่านคณะกรรมการสอบสวนตาม มาตรา 61 ให้ครบถ้วน ให้ประชาชนมีสิทธิโต้แย้ง ไม่ใช่ใช้ DSI มาย่ำยีสิทธิของประชาชนโดยไม่มีเหตุอันควร การกระทำแบบนี้ไม่ใช่การปกครองโดยกฎหมาย แต่เป็นการปกครองโดยอำนาจทางการเมืองที่พยายามใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ.