เอกชน ไม่ห่วงคดีนายก ขออย่าทะเลาะกัน แก้ปัญหาปากท้อง-ดันธุรกิจเดินต่อ
เอกชน ไม่ห่วงคดีนายก ขออย่าทะเลาะกัน แก้ปัญหาปากท้อง-ดันธุรกิจเดินต่อ
นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อิตัลไทย และผู้ก่อตั้ง ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) เปิดเผยว่า ความไม่แน่นอนทางการเมือง กรณีคำตัดสินนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า มีความผิดฐานฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงจากคลิปเสียงหลุดหรือไม่นั้น เบื้องต้นไม่ว่านายกจะได้อยู่หรือไม่ ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ธุรกิจยังต้องอยู่และเดินหน้าต่อเหมือนเดิม ส่วนผลกระทบในด้านความเชื่อมั่นหรือภาพลักษณ์คงเป็นระยะสั้นเท่านั้น เพราะประเทศไทยมีการเปลี่ยนตัวนายกบ่อยอยู่แล้ว ขอเพียงอย่าให้มีความรุนแรงมาก มีการชุมนุมประท้วงหนักเกินไป
“สิ่งที่รัฐบาลต้องทำตอนนี้คือ เลิกทะเลาะกัน มองประเทศชาติมากขึ้น ว่าต้องการอะไร ทั้งความสมานฉันท์ การเดินไปข้างหน้า และปากท้องของประชาชน เพราะคนทำงานเหนื่อยมาก รวมถึงผู้ประกอบการด้วย เพราะหากคนทำงานเหนื่อยแล้ว เจ้าของกิจการก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เนื่องจากกำลังซื้อลดลง” นายยุทธชัย กล่าว
นายยุทธชัย กล่าวว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในปี 2568 นี้ มองว่ายังไปถึงเป้าหมายที่จำนวน 35 ล้านคนไม่ได้ ส่วนปี 2569 หวังว่าจะดีกว่านี้ แต่ก็ยังมองว่าคงทรงตัว จำนวนคงไม่ได้พุ่งเหมือนช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คงอยู่ประมาณนี้ต่อไป วอลุ่มมาจากตลาดเดิมๆ ธุรกิจทั่วโลกไม่ได้ดีมากนัก กำลังซื้อของคนส่วนใหญ่ลดลง รวมถึงคนไทยที่ตอนนี้เหนื่อยกันหมด ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า แม่ค้าหรือธุรกิจส่วนใหญ่ เพราะปัญหาหลักคือ การหารายได้ ทำให้ไตรมาส 3/2568 เริ่มมีหลายบริษัทในหลายเซกเตอร์ที่เริ่มลดคนทำงานแล้ว รวมถึงการตั้งงบประมาณในปี 2569 ก็มีการลดในเรื่องพนักงานด้วย ภาวะปัจจุบันจึงเป็นการรัดเข็มขัด และบริหารจัดการต้นทุนคงที่ของธุรกิจให้ดี เพราะรายได้ข้างหน้ายังมองไม่ชัดเจน ทำให้ธุรกิจยังอยู่ในจุดที่ต้องระมัดระวัง
นายยุทธชัย กล่าวว่า ในธุรกิจโรงแรมคงยังไม่เห็นการเลิกจ้างพนักงาน เพราะส่วนใหญ่ยังต้องการแรงงานภาคบริการที่มีทักษะในการให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ แต่จากการที่รัฐบาลประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ธุรกิจต้องปรับตัวในส่วนของการจ้างแรงงานใหม่ หันมาในพนักงานที่มีอยู่แบบทำงานหลายหน้าที่มากกว่าเดิม เป็นการบริหารจัดงานให้ดีมากขึ้น ส่วนกรณีแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศต้นทาง เพราะข้อพิพาทกับไทย ยังไม่ได้มีผลกระทบต่อแรงงานในภาพรวม เพราะแรงงานส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจก่อสร้าง ภาคบริการใช้แรงงานจากเมียนมาที่มีจำนวนมากกว่าและอยู่มานานแล้วเป็นหลัก
นายยุทธชัย กล่าวว่า ด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ประเทศไทยยังต้องมีการพัฒนาอีกหลายส่วนมาก โดยเฉพาะสิ่งท่องเที่ยวสร้างเอง (แมนเมด) เนื่องจากหากเทียบกับประเทศที่มาแรงอย่างเวียดนาม จะเห็นว่าช่วงหลังๆ พัฒนาได้เร็วมาก มีการลงทุนแมนเมดเพิ่มขึ้นหลายแห่ง รวมถึงอาจลงทุนด้านเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ด้วย ประเมินว่าประเทศไทยคงไม่สามารถดำเนินการอย่างรวดเร็วได้เท่าเวียดนาม เพราะรูปแบบการบริหารแตกต่างกัน หลายโครงการที่จะเกิดขึ้น อาทิ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ของไทยก็ยังอยู่ในอากาศ อย่างไรก็ตาม มองว่าท่องเที่ยวเวียดนามยังสู้ประเทศไทยไม่ได้ โดยเฉพาะภาคบริการ ธรรมชาติที่สวยงาม และคุณภาพที่มีมากกว่า
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เอกชน ไม่ห่วงคดีนายก ขออย่าทะเลาะกัน แก้ปัญหาปากท้อง-ดันธุรกิจเดินต่อ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th