เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ จัดพิธีปล่อยตัวผู้ต้องขังได้รับพระราชทานอภัยโทษ
เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ณ เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานกล่าวให้โอวาทแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ. 2568 โดยมี นายทวีสิทธิ์ สำรวมจิตร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอำนาจเจริญ นายปุริมปรัชญ์ จันทร์กองกวิน อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดอำนาจเจริญ นายนาวิน แก้วจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ และผู้ผ่านการฝึกอบรมโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว "โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์" เข้าร่วมในพิธี
นายนาวิน กล่าวถึงผลการดำเนินโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว "โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์" รุ่นที่ 7/1 ณ เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ ว่า ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการฝึกโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว "โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์" รุ่นที่ 7/1 ให้แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปี พ.ศ.2568 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 จำนวน 92 คน ระหว่างวันที่ 13 - 26 สิงหาคม 2568 เป็นการประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน และสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็กสามารถดำเนินการปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ให้พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น โดยในระหว่างดำเนินการจะมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนทัศนคติ แนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติแก้ปัญหาจริง โดยในการจัดอบรม จำนวน 14 วัน สำหรับครั้งนี้ มีผู้ต้องขังได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2568 ปล่อยตัว จำนวน 60 คน
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญได้กล่าวให้โอวาทแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2568 ในครั้งนี้ว่า นับเป็น พระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อให้โอกาสแก่ทุกท่านได้กลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป การได้รับโอกาสครั้งสำคัญนี้ มาพร้อมกับเงื่อนไขอันทรงคุณค่า นั้นคือการที่ทุกท่านจะต้องผ่านการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ซึ่งโครงการ "โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง" นี้ คือเครื่องมืออันล้ำค่าที่พระองค์ท่านได้พระราชทานให้ เพื่อเป็นเข็มทิศนำทางชีวิตให้แก่ทุกท่านในโอกาสที่ทุกท่านกำลังจะก้าวเดินออกจากที่แห่งนี้เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ กระผมขอให้โอวาทเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน ดังนี้ ประการแรก จงน้อมนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมโครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ ไปปฏิบัติให้เกิดผลจริง ความรู้ในตำราจะไร้ค่าหากไม่ลงมือทำ ขอให้ท่านใช้ความวิริยะอุตสาหะ เปลี่ยนความรู้ให้กลายเป็นการกระทำที่สร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิต ประการที่สอง จงยึดมั่นในการพึ่งพาตนเองและดำรงตนเป็นพลเมืองดีของสังคมขอให้ท่านใช้ชีวิตอย่างมีสติ ประกอบสัมมาอาชีพที่สุจริต และเป็นที่พึ่งให้แก่ครอบครัว เมื่อท่านยืนหยัดได้อย่างมั่นคงแล้ว ท่านจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติต่อไป และประการสุดท้าย จงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่นี้เสมอ การตอบแทนที่ดีที่สุด คือการประพฤติตนเป็นคนดี ไม่หวนกลับกระทำความผิดซ้ำอีก และใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างมีคุณค่า เพื่อตนเอง ครอบครัว และแผ่นดินเกิด และสุดท้าย กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ ได้โปรดดลบันดาลประทานพรให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมทุกท่าน พร้อมด้วยครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็ง มีสติปัญญาที่สว่างไสวในการดำเนินชีวิต และประสบความสำเร็จในเส้นทางชีวิตใหม่ทุกประการ
ซึ่งบรรยากาศที่หน้าเรือนจำคึกคักไปด้วยบรรดาญาติผู้ต้องขังที่ต่างมารอรับ ทันทีที่ผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกมา ต่างโผกอดญาติและร่ำไห้ด้วยความปลาบปลื้ม ทั้งญาติที่มารอรับและผู้ต้องขังต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้