Saab เล็งสร้างศูนย์วิจัยในไทย ให้สามารถพัฒนาซอฟท์แวร์ได้เอง
นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ของบริษัท Saab AB ผู้ผลิตอากาศยานขับไล่ Gripen โดยมีนาย Micael Johansson ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Saab AB ให้การต้อนรับ และนำชมความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีความมั่นคงของบริษัท ภายหลังจากที่ประเทศไทยลงนามจัดซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 เสร็จสิ้นแล้ว
Saab AB ยืนยันว่า Gripen E/F เป็นอากาศยานที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเฉพาะเรดาร์ AESA (Active Electronically Scanned Array) ที่สามารถตรวจจับและติดตามเป้าหมายได้พร้อมกันหลายเป้าหมาย อีกทั้งยังเพิ่มจุดติดตั้งอาวุธถึง 10 จุด รองรับการบรรทุกอาวุธที่หลากหลายมากขึ้น
นาย Micael Johansson เปิดเผยว่า ความร่วมมือในระยะเริ่มต้นจะมุ่งเน้นการถ่ายโอนเทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้านการเชื่อมโยงระบบต่าง ๆ (Link Capability) เพื่อให้สามารถบูรณาการการปฏิบัติการระหว่างแพลตฟอร์มของไทย เช่น เรือรบ เครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ และเครื่องบินขับไล่ Gripen ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือด้านการซ่อมบำรุง การอัปเกรดเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรไทยด้านการบินและอวกาศในประเทศสวีเดน
ที่สำคัญ Saab AB มีแผนจัดตั้ง สำนักงานวิจัยและพัฒนา (R&D Office) ในประเทศไทย เพื่อสนับสนุนให้วิศวกรไทยสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานกับเครื่องบิน Gripen ได้ด้วยตนเอง อันเป็นคุณสมบัติเด่นของเครื่องบิน Saab ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเสริมสร้างระบบซอฟต์แวร์เพิ่มเติมได้ พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความร่วมมือในระยะยาวและการเสริมสร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระหว่าง Saab และประเทศไทย