"บิ๊กเต่า" เผย "อลงกต" หนีทหาร - บัญชีหมอบี เงินบริจาคหลั่งไหลหลักพันล้าน
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมสอบปากคำ "หลวงพ่ออลงกต" อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ก่อนที่ "หลวงพ่ออลงกต" จะยินยอมลาสิกขา เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา
โดยพลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่าวันนี้ตำรวจได้เข้าตรวจค้น 17 จุด และขณะนี้ก็ยังไม่เสร็จสิ้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ เมื่อมีความชัดเจนว่ามีความเกี่ยวข้องเกี่ยวโยงกับบุคคลใดอย่างไร ก็จะมีการแถลงข่าวในภายหลัง
แต่เบื้องต้น "อดีตพระอลงกต" ให้ความร่วมมือในหลายเรื่องที่ตำรวจตั้งข้อสงสัย ตำรวจก็ได้พูดถึงความดีที่ท่านสร้างมา และอธิบายว่าเมื่อได้เงินเข้ามาจำนวนมหาศาล และได้กระทำในสิ่งที่ผิด ท่านแยกระหว่างพระธรรมวินัยกับเรื่องกฎหมายบ้านเมืองได้ แยกได้ว่าสิ่งที่ทำบางสิ่งก็มีประโยชน์กับประชาชน บางสิ่งก็ผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ยอมรับโดยดี ยินดีเข้าสู่กระบวนการ ยอมลาสิกขาโดยไม่มีการถูกบังคับขู่เข็ญ
ทั้งนี้ก่อนการสึกได้เทศน์ให้ประชาชนและพระให้การปฏิบัติตนหรือใช้ชีวิตด้วย ซึ่งตำรวจก็จะเผยแพร่คลิปดังกล่าวต่อไป
สำหรับพฤติการณ์นั้นมีก้อนเงินเข้ามามากมาย ซึ่งมีการนำไปใช้จ่ายซื้อที่ดิน ทำสนามฟุตบอล ลงทุนในรูปแบบบริษัทที่มีทั้งกำไร และขาดทุน ทั้งนี้คาดว่าเงินที่ใช้กระทำความผิดมีมูลค่ามากหลักพันล้านบาท แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน และรายการที่มีผู้ศรัทธามากมาย ก็จะมีเงินเข้ามาจำนวนมาก
การยับยั้งชั่งใจในการขอรับบริจาคและนำมาใช้มันไม่ตรงกับความเป็นจริง เลยทำให้พระเกิดกิเลส เอาเงินไปใช้ในทางที่ผิด โดยช่วงแรกท่านทำด้วยจิตศรัทธา แต่ในช่วงหลังเงินมันเยอะ เลยผ่านไปทำรูปแบบอื่น ซึ่งทำมา 10 กว่าปีขึ้นไป
ส่วนใบสุทธิที่ใช้บวช พบแล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด โดยจะเปิดเผยทีเดียวและขอให้หลักฐานชัดเจนก่อน โดยจะตรวจสอบตั้งแต่เกิดเรื่อง จนถึงวันนี้ และยืนยันว่าทางเจ้าหน้าที่ก็มีหนังสือสุทธิเล่มใหม่แล้ว รวมถึงเห็นใบสุทธิดังกล่าวแล้ว
เมื่อถามถึงไทม์ไลน์ของตัวพระอลงกตที่หายไปประมาณห้าถึงหกปี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า เขาไม่ได้คัดเลือกทหาร ซึ่งเรื่องนี้พระอลงกตได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ขอไปตรวจสอบก่อน รวมถึงจะต้องมีการสอบปากคำญาติพี่น้อง คนใกล้ชิด หรือพยานที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้นมาประกอบ
การปลอมใบสุทธิถือเป็นความผิดทางอาญา ส่วนช่วงเวลาที่หายไปนอกจากปรากฏเรื่องของการหนีทหารแล้วยังมีคดีอาญาอื่นด้วยหรือไม่ ทางชุดทำงานได้มีการตั้งธงเอาไว้ ขอเวลาตรวจสอบก่อน
สำหรับเงินหลักพันล้านบาทเกี่ยวข้องกับหมอบีเท่าไหร่ นั้น พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. บอกว่า การดำเนินการเรื่องบัญชีใจฟ้า เป็นสารตั้งต้น คือมีเงิล 300 ล้านบาทเป็นคดีหลัก หลังจากนี้ เรื่องของการที่จะต้องขยายผล
1.คนที่เกี่ยวข้องว่าบัญชีใจฟ้าว่าตามวัตถุประสงค์เพื่อบริจาคเป็นเงินของวัดพระบาทน้ำพุ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง
2.ขยายผลเกี่ยวกับทรัพย์สิน ที่คนใกล้ชิด ทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดหรือทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดหรือไม่ก็ จัดการแจ้ง ปปง. เพื่อยึด และดำเนินการตามกฏหมาย ปปง.
่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการปิดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง วันที 8 สิงหาคม และมีการถอน กว่า 1,000,000 กว่าบาทมีการโอนให้กับวัดหรือไม่ ข้อมูลเบื้องต้นมีการปิดบัญชีแล้ว แต่จำวันที่ไม่แน่ใจ ซึ่งตอนนี้ปิดบัญชีแล้ว เปลี่ยนบัญชีเป็นบัญชีวัดแล้ว โดยเปลี่ยนจากบัญชีของบุคคลภายนอกกลับมาเป็นบัญชีวัด ส่วนรายละเอียดว่าเปลี่ยนอย่างไรนั้น เดี๋ยวขอไปดูรายละเอียดอีกทีนึง
จากการประเมิน มีประเด็นมีความผิดปกติ ซับซ้อนอย่างไรบ้าง ก็พบว่า ด้านการทำธุรกรรม เส้นเงิน เค้าโอนใช้เงินสด โอนจากบัญชีเป็นเงินสดเพราะฉะนั้นการใช้จ่ายของเคสนี้ เค้าใช้เงินสดเกือบทั้งหมด เราต้องทำการบ้าน และใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ไม่เหมือนเคสอื่น ที่มีเส้นธุรกรรมการเงินไปเชื่อมต่อ
พล.ต.ต.วิทยา ยังกล่าวด้วยว่า ยอดเงินที่หลวงพ่อพกติดตัว ขณะถูกจับกุม เบื้องต้นที่รับรายงานประมาณ100,000 ถึง 200,000 บาท ส่วนจะทำอะไรนั้นยังไม่ทราบ โดยทั้งคู่ยังไม่ได้มีการยื่นประกันตัว ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งตามหลักก็ต้องพิจารณาอีกทีว่าจะมีการคัดค้านการประกันตัวหรือไม่
ส่วนการไปทำธุระตอนตีหนึ่งกว่านั้น พล.ต.ต.วิทยาบอกว่า เอาเป็นว่าเราได้เฝ้าติดตามพฤติการณ์ และมีพฤติการณ์ที่อาจจะหลบหนี จึงต้องดำเนินการจับกุมตามหมายจับ ส่วนที่อ้างว่าไปทำธุระนั้นก็เป็นข้ออ้าง
สำหรับ ตอนเช้าไม่ยอมสึก แล้วเจรจาอย่างไร พล.ต.ต.วิทยา กล่าวว่า ก็ให้บิ๊กเต่ามา ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เราพูดถึงคุณงามความดีของท่าน ใช้เวลาเจรจาไม่เกิน 20 นาที ประโยคที่ทำให้ยอมคือสิ่งที่ท่านสร้างมาเป็นเรื่องของการทำคุณงามความดี ช่วยเหลือประชาชน สิ่งที่จะทำให้เป็นบุญกุศลแก่ท่าน ก็คือการดูแลรักษาพระพุทธศาสนาให้เดินต่อไป โดยการกระทำอะไรก็ได้ไม่ทำให้ศาสนาเสื่อมเสียท่านจึงบอกว่าท่านจะลาสิกขา
ส่วนการทำดี แล้วเปลี่ยนมาทำไม่ดีท่านได้อธิบายหรือให้เหตุผลอย่างไร ซึ่งพล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าได้มีการอัดคลิปตอนท่านเทศน์
ส่วนวงเงิน 1000 ล้านบาท เกี่ยวข้องกับ 17 จุด เลยไหม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า เราพบว่ามีเงินหลายหมุนเวียน หลัก 1000 ล้านบาทขึ้นไป แต่ขอให้ชุดสอบสวนทำงานก่อน ตอนนี้ให้รายละเอียดไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่เกิดขึ้นมาร่วม 30 ปีแล้ว ตรวจย้อนหลังไป ถ้าให้ไปเดี๋ยวข้อมูลผิดพลาด และเสียหายกับหน่วยงาน ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำงานแล้วจะเปิดการแถลงข่าวอีกครั้ง
การไปเอาเอกสารจากทางวัดก็พบบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมากหลาย 10 คน ต้องใช้เวลา โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกองบัญชาการตำรวจตรวจสอบสวนกลาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาช่วยกันดำเนินการประคับประคองเรื่องนี้
โดยในกลุ่ม 10 คนมี สถานะอย่างไรกับหลวงพ่อนั้น ก็คือเกี่ยวพันเกี่ยวกับเรื่องเงิน การถือครองทรัพย์การบริหาร จัดการเรื่องที่ดินต่างๆที่เกี่ยวพัน บริษัท ตอนนี้ภาพที่เราเห็น ยังเป็นกลุ่มของวัดอยู่ ส่วนของหมอบี ยังอยู่ระหว่างการให้การอยู่ แต่ว่ายังให้การเป็นประโยชน์เท่าไหร่
ด้านนายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ปปท. บอกว่า ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการจนถึงวันนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เบื้องต้นที่พอจะกล่าวได้มีเข้าไปเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์เกี่ยวกับบุคคลรายบุคคล ยอดจำนวนเงินต้องใช้คำว่า “มหาศาล” ไม่ใช่หลัก 10 ล้านบาทหรือ 100 ล้านบาท แต่เป็นหลักมหาศาล ซึ่งในชั้นนี้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ และ ปปง. ได้ร่วมกันปฏิบัติดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติก่อน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังบอกเพิ่มเติม ถึงกรณีที่อดีตพระอลงกต ลาสิกขาว่า เป็นการยอมลาสิกขาเองภายหลังจากที่ตนเองได้พูดคุยถึงการที่ท่านทำความดีและการทำบุญครั้งสุดท้าย ก่อนลาสิกขา ซึ่งตนเองได้พูดคุยกับท่านว่าท่านอยากจะให้ข้อมูลครั้งสุดท้ายในการสอนประชาชน สอนพระ กับความเสื่อมศรัทธาอย่างไรหรือไม่ ท่านก็เลยอยากจะพูดให้ฟัง แล้วท่านได้เทศนาธรรม เพราะเหตุผลที่ท่านอยากเทศนา
เนื่องจากอยากสอนให้ประชาชนและพระเข้าใจในหลักธรรมเรื่องพระธรรมวินัยและเรื่องทางโลกว่าควรไม่ควรอย่างไร โดยเนื้อหาคำเทศนา จะเป็นคำสอนเรื่องกิเลสคนและความประพฤติของพระ