ประวัติ ขจรเกียรติ รักพานิชมณี อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่

เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รู้จัก ขจรเกียรติ รักพานิชมณี ข้าราชการอาวุโสจากสายมหาดไทย สู่ตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดินปี 2568 พร้อมประวัติการศึกษา-เส้นทางรับราชการครบถ้วน

ประวัติ ขจรเกียรติ รักพานิชมณี อธิบดีกรมที่ดิน ปี 2568

นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี เกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2508 มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชร เป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยที่มีประสบการณ์บริหารงานภาครัฐกว่า 30 ปี และเพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมที่ดิน เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 แทนนายพรพจน์ เพ็ญพาส

วุฒิการศึกษาและการอบรม

รัฐศาสตร์บัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
พัฒนบริหารศาสตรมหาบัณฑิต (พบ.ม.) จากสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
หลักสูตรนายอำเภอ รุ่นที่ 54
หลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นที่ 59 จากวิทยาลัยมหาดไทย

เส้นทางข้าราชการ

นายขจรเกียรติ เริ่มต้นรับราชการในปี 2537 ในตำแหน่งปลัดอำเภอที่อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ก่อนจะไต่เต้าผ่านตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงมหาดไทย อาทิ

เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป
เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน
หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสุพรรณบุรี

ต่อมาได้ดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ในหลายพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต, นครศรีธรรมราช และนครปฐม ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด ในหลายแห่ง ได้แก่

อ่างทอง (1 ต.ค. 2563)
อุทัยธานี (21 ก.ย. 2564)
ฉะเชิงเทรา (1 ต.ค. 2565 และกลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งเมื่อ 25 พ.ย. 2567)
นครศรีธรรมราช (1 ต.ค. 2566)

โดยเฉพาะช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ท่านมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้เมืองเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ สมาร์ทซิตี้ อย่างเป็นรูปธรรม

ก้าวสู่ตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน

เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2568 คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ขึ้นดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมที่ดิน แทนนายพรพจน์ เพ็ญพาส ซึ่งได้รับการโยกย้ายเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย

การแต่งตั้งครั้งนี้มีนัยสำคัญ เนื่องจากกรมที่ดินอยู่ระหว่างรับมือกับหลายประเด็นสำคัญ เช่น กรณีที่ดินเขากระโดง ที่เป็นคดีระดับประเทศและต้องการผู้บริหารที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ และความมั่นคงทางจริยธรรมมาดูแล

ลักษณะเด่นและจุดแข็ง

ผ่านประสบการณ์ในกระทรวงมหาดไทยมากกว่า 3 ทศวรรษ

เป็นผู้ว่าฯ ที่ได้รับความไว้วางใจจากหลายรัฐบาล
มีความเข้าใจลึกซึ้งทั้งในเชิงพื้นที่และเชิงนโยบาย
เคยเผชิญปัญหาใหญ่ระดับจังหวัดและระดับชาติ เช่น การพัฒนาเมือง, การจัดการที่ดิน และการประสานงานกับภาคเอกชนและประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง