ทรัมป์จ้องจะยึดกรุง วอชิงตันดี.ซี. อ้างเมืองหลวงไม่ปลอดภัย สั่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิประจำการแล้ว
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าเขาต้องการจะใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ National Guard เข้ามาลาดตระเวนตามท้องถนนในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รวมไปถึงจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางภายในสัปดาห์นี้ โดยเป็นหนึ่งในขั้นตอนของแผนการที่ทรัมป์กล่าวว่าเขาและรัฐบาลกลางจะเข้าควบคุมการบริหารจัดการและยึดครองกรุงวอชิงตัน ดี.ซี เมืองหลวงของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของรัฐบาลกลาง
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า สหรัฐฯ มีเมืองหลวงที่ไม่ปลอดภัยอย่างมาก ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นหน้าที่ที่เขาต้องเป็นผู้ดูแล ที่ทรัมป์ย้ำว่าเมืองหลวงจะต้องเป็นเมืองที่มีการบริหารจัดการรได้ดีที่สุดในประเทศ เช่นเดียวกับ แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวที่กล่าวว่า วอชิงตัน ดี.ซี. มีปัญหาอาชญากรรมทั้งเล็กและรุนแรงคุกคามมานานเกินไป และประธานาธิบดีทรัมป์ก็มุ่งมั่นที่จะทำให้เมืองกลับมาปลอดภัยอีกครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า รายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการต่าง ๆ ที่รวมถึงการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางในกรุงวอชิงตันดี.ซี. ยังอยู่ในระหว่างการจัดทำให้สมบูรณ์
ขณะที่ CNN รายงานว่า เจ้าหน้าที่จาก FBI, กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ, เจ้าหน้าที่จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ (ICE) และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จะเริ่มปฏิบัติงานในกรุงวอชิงตันดี.ซี.ตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ในวันนี้ (7 สิงหาคม)
ก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยขู่ว่าจะให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมกรุงวอชิงตันหลายครั้ง เขาเคยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องอาชญากรรมในเมืองนี้ อีกทั้ง ยังเคยลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังในกรุงวอชิงตันด้วย และทรัมป์จริงจังเรื่องนี้มากขึ้น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในกระทรวงเสริมประสิทธิภาพการบริหารรัฐบาล หรือ ดอจ ถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ฝั่งอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีและอดีตที่ปรึกษาของทรัมป์ ผู้ที่เคยเข้ามาดูแลกระทรวงดอจ อยู่ช่วงหนึ่งออกมากล่าวว่า “ถึงเวลาที่ต้องให้รัฐบาลกลางเข้าควบคุมดี.ซี.เสียที”
อย่างไรก็ตาม เมอร์เรียล บาวเซอร์ โฆษกนายกเทศมนตรีของดี.ซี. ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ รอยเตอร์สรายงานว่าหากทรัมป์ต้องการเข้าควบคุมกรุงวอชิงตันดี.ซี.โดยสมบูรณ์ สภาคองเกรสจะต้องผ่านกฎหมายเพิกถอนกฎหมายที่เรียกว่า Home Rule Act และทรัมป์จะต้องลงนามในกฎหมายนั้น ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า ขณะนี้ทีมกฎหมายของเขากำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการยกเลิกกฎหมาย Home Rule Act แล้วเช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทรัมป์เพิ่มภาษีอินเดียอีก 25 เปอร์เซ็นต์ รวม 50 เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดในทุกชาติที่สหรัฐฯ เรียกเก็บ
- ทรัมป์อาจพบ ปูติน-เซเลนสกี เร็ว ๆ นี้ หลังส่งทูตพิเศษเจรจาออกมา "อย่างสร้างสรรค์"
- 3 เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
- "วิทคอฟ" พบปูติน ก่อนกำหนดเส้นตายหยุดยิงยูเครนของทรัมป์
- รัสเซียประณามสหรัฐฯ ใช้ภาษีกดดันอินเดีย กรณีซื้อพลังงานรัสเซีย