โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ค่าเงินบาท” แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย! อะไรคือปัจจัยเบื้องหลังในไตรมาสนี้?

เดลินิวส์

อัพเดต 11 สิงหาคม 2568 เวลา 23.19 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เดลินิวส์
ค่าเงินบาทแกร่งสุดในเอเชีย! เจาะลึกปัจจัยเบื้องหลัง ทำไมค่าเงินบาทถึงสวนกระแสและแกร่งที่สุดในภูมิภาค?

ในช่วงนี้ ตลาดการเงินไทยกำลังร้อนแรง ด้วยค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างโดดเด่น จนกลายเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียช่วงไตรมาสนี้ อะไรคือปัจจัยเบื้องหลังความแข็งแกร่งนี้ และนักลงทุนควรจับตาอะไรบ้างในสัปดาห์ข้างหน้า?

ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นโดดเด่น

สัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 ส.ค. 2568) ค่าเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างชัดเจน โดยปิดตลาดที่ 32.36 บาทต่อดอลลาร์ จาก 32.86 บาทต่อดอลลาร์ ในสัปดาห์ก่อนหน้า และเคยแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 สัปดาห์ที่ 32.25 บาทต่อดอลลาร์ ปัจจัยหลักที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่ามาจากหลายสาเหตุ

1.สัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐ อ่อนแอ ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐ (การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน) ที่ออกมาต่ำกว่าคาดมาก รวมถึงข้อมูล ISM ภาคบริการที่มีสัญญาณอ่อนแรง ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนนี้ ซึ่งส่งผลให้เงินดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ

2.ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประเด็นความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับ Fed ก็เป็นอีกปัจจัยที่กดดันเงินดอลลาร์

3.ฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลเข้า นักลงทุนต่างชาติยังคงเดินหน้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยอย่างต่อเนื่อง โดยระหว่างวันที่ 4-8 ส.ค. 2568 มีการซื้อสุทธิหุ้น 6,454 ล้านบาท และพันธบัตร 2,883 ล้านบาท ซึ่งช่วยหนุนให้เงินบาทแข็งค่า

4.ราคาทองคำและน้ำมัน ราคาทองคำในตลาดโลกที่สูงขึ้นและราคาน้ำมันดิบที่ลดลง (หลังกลุ่ม OPEC+ ประกาศเพิ่มการขุดเจาะ) ก็เป็นปัจจัยเสริมที่ส่งผลให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า

จับตาการประชุม กนง. 13 ส.ค. นี้

ตลาดการเงินกำลังจับตาผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยในวันที่ 13 ส.ค. 2568 อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะเป็นการกำหนดทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย การตัดสินใจครั้งนี้ จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทและตลาดหุ้นไทยอย่างมีนัยสำคัญ

แนวโน้มค่าเงินบาทและตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (11-15 ส.ค. 2568)

สำหรับค่าเงินบาท

ธนาคารกสิกรไทย คาดการณ์กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทไว้ที่ 32.10-32.80 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB FM) มองว่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องในระยะสั้น โดยให้กรอบที่ 32.00-32.50 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วง 1 เดือนข้างหน้า เนื่องจากการลดดอกเบี้ยของ Fed และแนวโน้มเงินทุนเคลื่อนย้ายสู่เอเชีย แต่การแข็งค่าอาจไม่มากนัก เพราะเงินทุนที่ไหลออกจากสหรัฐ เริ่มชะลอ และความไม่แน่นอนของนโยบายภาษียังคงอยู่

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม

  • ผลการประชุม กนง. (13 ส.ค.)
  • ทิศทางฟันด์โฟลว์ของนักลงทุนต่างชาติ
  • ราคาทองคำในตลาดโลก
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ (เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค, ดัชนีราคาผู้ผลิต, ยอดค้าปลีก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.ค. และตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน)
  • ข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อเดือน ก.ค. ของจีน
  • ตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2568 ของอังกฤษ ยูโรโซน และญี่ปุ่น

สำหรับตลาดหุ้นไทย

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา แตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือนที่ 1,280.78 จุด ก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อย โดยปิดที่ 1,259.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.34% จากสัปดาห์ก่อนหน้า แรงหนุนหลักมาจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติและผลประกอบการที่ดีของหุ้นกลุ่มใหญ่บางกลุ่ม

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองแนวรับดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 1,230 และ 1,215 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,280 และ 1,300 จุด ปัจจัยที่ต้องจับตาคือ ผลการประชุม กนง., ผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ของบริษัทจดทะเบียนไทย และทิศทางเงินทุนต่างชาติ

ค่าเงินบาทของไทยกำลังอยู่ในช่วงที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ หลังเศรษฐกิจสหรัฐ มีสัญญาณชะลอตัว และเงินทุนต่างชาติที่ยังคงไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การประชุม กนง. ในวันที่ 13 สิงหาคมนี้ และตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่กำลังจะประกาศ ถือเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนควรจับตาอย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินทิศทางของตลาดการเงินไทยในระยะต่อไป..

ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ธนาคารกสิกรไทย, กลุ่มงานตลาดการเงิน ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB FM)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก เดลินิวส์

วันแม่ยังสำคัญ! ผลสำรวจช้คนไทยกว่า 84% มอง “วันแม่” มีความหมายในยุคปัจจุบัน

24 นาทีที่แล้ว

สกัดจับรถยนต์ 3 คันจอดริมป่าเขานาค ผงะซุก 55 เมียนมาหลบหนีเข้าเมือง

25 นาทีที่แล้ว

เฮทั้งบ้าน! ‘นาตาลี-ฟลุค’ เตรียมเป็นคุณพ่อคุณแม่ลูก3 ประกาศข่าวดีเตรียมต้อนรับสมาชิกใหม่!

28 นาทีที่แล้ว

ผู้ป่วยภาวะเป็นพิษจากกัญชาในสหรัฐเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเด็ก-วัยรุ่น

30 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ลุยเมืองหลวง! BONUS SUKI บุกกรุงเทพฯ เตรียมเปิดสาขาแรก “พาซิโอ รามคำแหง “

SMART SME

STA ชี้ดีมานด์ยางธรรมชาติรับผลบวกหลังภาษีสหรัฐ ชัดเจน ไทยไม่เสียความสามารถแข่งขัน

ฐานเศรษฐกิจ

สหการประมูล เปิดรายได้ไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลง 15.2% พิษหนี้ครัวเรือนยังสูง

Khaosod

กู้เงินออมสินเริ่มต้น 50,000 บาท กับสินเชื่อสวัสดิการ สมัครง่าย ไร้คนค้ำ ล่าสุด ออมสินเฉลยแล้ว

sanook.com

ชาวสวนลำไยร้องราคาดิ่งเหว ล้งไม่รับซื้อ วอนรัฐยื่นมือช่วย

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

บทบาท “ดอลลาร์สหรัฐ” ในฐานะสกุลเงินสำรองโลก เริ่มถูกท้าทาย เสี่ยงเข้าสู่ยุคพหุสกุลเงิน

การเงินธนาคาร

เวียตเจ็ท ฉลองวันแม่ บินเริ่มต้น 12 บาท เส้นทางฮิตทั่วไทย-เอเชีย

ประชาชาติธุรกิจ

“จตุพร” ผนึก กทม. ดัน “ทรงวาดย่านนี้ มีดีทุกยุค” บูมเป็นแหล่งเช็กอินใหม่ ดึงดูดท่องเที่ยว

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ด่วน!หมอเตือน 4 พฤติกรรมเสี่ยง “เส้นเลือดในสมองแตก” ไม่ใช่แค่เรื่องของคนแก่

เดลินิวส์

ข่าวดี! รัฐบาลเปิดจ้างงานคนดูแลผู้มีภาวะพึ่งพิง 18,000 อัตรา

เดลินิวส์

‘เจนนี่ รัชนก’ สุดปลื้ม ส่ง ‘น้องยูจิน’ เรียนเต้น แต่ดันเจอดราม่ากดดันลูกเกินไป!

เดลินิวส์
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...