“วันนอร์” นัดประชุมพิจารณางบฯ 13-15 ส.ค.
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 10 สิงหาคม 2568 เวลา 22.38 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 10 ส.ค.-“วันนอร์” นัดประชุมพิจารณางบประมาณ 13-15 ส.ค. เปิดรายงาน กมธ.งบฯ พบรายการปรับลดเกือบ 9 พันล้าน โยกให้ 7 หน่วยงาน – 2 แผนงานทำภารกิจสำคัญ พร้อมพบรายการเปลี่ยนแปลง ลดงบ สธ. 70 ล้าน โยกให้ 13 อบจ. พบ อบจ.พะเยา ได้เติมงบเกือบ 10 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ wด้นัดประชุมสภาวาระพิเศษ ระหว่างวันที่ 13-15 ส.ค. เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน กมธ. ได้พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระ 2 และวาระ 3
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในรายงานของกรรมาธิการระบุว่า งบประมาณปี 2569 ที่ตั้งไว้ 3,780 ล้านล้านบาท กมธ.มีมติปรับลดทั้งสิ้น รวม 8,920 ล้านบาท โดยทุกกระทรวงและส่วนราชการถูกปรับลดงบประมาณ
ทั้งนี้มีกระทรวงและส่วนราชการที่ปรับลด สูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ 1.กระทรวงมหาดไทย ปรับลด 2,148 ล้านบาท สำหรับรายการที่ปรับลดส่วนใหญ่เป็นค่าครุภัณฑ์ ค่าที่ดิน สิ่งก่อสร้าง อาคารต่างๆ ของส่วนราชการ 2.หน่วยงานรัฐสภา 880 ล้านบาท 3.กระทรวงคมนาคม 795 ล้านบาท 4.กระทรวงสาธารณสุข 693 ล้านบาท และ 5.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 459 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับงบประมาณที่ปรับลดดังกล่าว ตามรายงานของ กมธ. ได้จัดสรรให้ส่วนราชการตามที่คณะรัฐมนตรี เสนอตามความเหมาะสมและจำเป็น รวม 8,690 ล้านบาท และจัดสรรให้หน่วยงานของรัฐสภา ศาล องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และองค์กรอัยการ รวม 230 ล้านบาท
สำหรับส่วนราชการที่ได้รับงบประมาณเพิ่มเติม ประกอบด้วย 1.รัฐวิสาหกิจ ตั้งเพิ่มจำนวน 4,914 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างงานโยธาตามสัญญาสัมปทานฯโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – ศูนย์วัฒนธรรม กทม.
2.กระทรวงการคลัง ตั้งเพิ่มจำนวน 1,568 ล้านบาท เพื่อใช้ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569
3.งบกลาง ตั้งเพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรณีป้องกันและแก้ไขสถานการณ์ที่กระทบต่อความสงบเรียบร้อย ความมั่นคง ภัยพิบัติสาธารณะร้ายแรง และภารกิจจำเป็นเร่งด่วนของรัฐ
4.กระทรวงแรงงาน ตั้งเพิ่มจำนวน 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินสมทบกองทุนประกันสังคม สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และ มาตรา 39
5.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งเพิ่มจำนวน 153 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินสนับสนุนการปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
6.หน่วยงานของศาล ตั้งเพิ่มจำนวน 83 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินงานการพิจารณาพิพากษาคดีที่รวดเร็ว มีคุณภาพ
7.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งเพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อใช้ในปฏิบัติการดัดแปรสภาพอากาศแก้ปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ส่วนของวัสดุเชื้อเพลิงและหล่อลื่น
นอกจากนั้นยังได้ตั้งเพิ่มในส่วนของ 2 แผนงาน ได้แก่ แผนงานบูรณาการ ตั้งเพิ่มจำนวน 20 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ติดสารเสพติดที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดและพัฒนาพฤตินิสัย
แผนงานบุคลากรภาครัฐ จำนวน 160 ล้านบาท เพื่ออุดหนุนค่าใช้จ่ายบุคลากร 6 หน่วยงาน เช่น สำนักงานอัยการสุงสุด 78 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 32 ล้านบาท สำนักงานศาลปกครอง 27 ล้านบาท สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) 13 ล้านบาท สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) 6.9ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายงานของ กมธ. ยังได้แจ้งรายละเอียดถึงงบประมาณในส่วนของรายการเปลี่ยนแปลง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย ที่ปรับลดงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลง 114 ล้านบาท และได้เติมให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาลเมืองโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา 35 ล้านบาท เทศบาลเมืองประโคนชัย อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ 21 ล้านบาท เทศลาลเมืองลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ 23 ล้านบาท และเทศบาลตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา 33 ล้านบาท
กระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับลดงบส่วนของสำนักปลัดกระทรวงสาะธารสุข 70 ล้านบาท ไปจัดสรรให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 13 แห่ง เช่น อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ 8.6 ล้านบาท อบจ.ยะลา 5 ล้านบาท อบจ.ร้อยเอ็ด 6 ล้านบาท อบจ.พะเยา 9.7 ล้านบาท อบจ.ตาก 7.8 ล้านบาท เป็นต้น.-314.-สำนักข่าวไทย