นาซาเตรียมสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์บนดวงจันทร์
ฌอน ดัฟฟี่ รักษาการผู้บริหารองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือนาซา (NASA) ได้ประกาศแผนที่จะสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันสำหรับติดตั้งบนพื้นผิวดวงจันทร์ในปี 2030 ซึ่งจะนำไปสู่การปูทางให้สหรัฐอเมริกา มีฐานที่มั่นบนดวงจันทร์ได้ทันเวลา ในช่วงที่จีนวางแผนที่จะส่งนักบินอวกาศคนแรกของตน ไปลงจอดที่นั่นภายในปี 2030 เช่นกัน
นอกเหนือจากความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์แล้ว อีกหนึ่งในเหตุผลสำคัญของความเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือ 'แหล่งพลังงานนิวเคลียร์' นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะพามนุษย์โลกไปเหยียบ 'ดาวอังคาร' เนื่องจากพลังงานแสงอาทิตย์มีกำลังที่อ่อนกว่า และการสร้างฐานบนดวงจันทร์ จะช่วยให้มนุษย์สามารถผลิตพลังงานได้อย่างต่อเนื่องแม้ในคืนที่อากาศหนาวเย็น
ขณะที่มนุษย์เดินทางออกไปสู่ดาวเคราะห์ดวงอื่นในระบบสุริยะ การเรียนรู้การใช้ทรัพยากรในพื้นที่เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิตนอกโลก โดยเริ่มต้นจากดวงจันทร์ที่อยู่ใกล้เคียง นาซาจึงวางแผนที่จะให้ความสำคัญกับเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิชชันเพื่อการสกัดและกลั่นทรัพยากร
แล้วจะวางเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไว้ตรงไหนของดวงจันทร์?
ในช่วงทศวรรษ 1990 ยานอวกาศที่โคจรรอบดวงจันทร์ได้ค้นพบหลุมอุกกาบาตสีดำบริเวณที่มีเงาถาวรบนขั้วเหนือและใต้ของดวงจันทร์เป็นครั้งแรก นักวิทยาศาสตร์คาดว่าหลุมอุกกาบาตเหล่านี้อาจมีน้ำที่อยู่ในรูปของน้ำแข็ง และมันอาจเป็นทรัพยากรสำคัญสำหรับการสร้างฐานที่มั่นมนุษย์บนพื้นผิวดวงจันทร์ในระยะยาว ซึ่งโครงการอาร์ทิมิส (Artemis) ของนาซา มีเป้าหมายที่จะส่งมนุษย์ไปยังดวงจันทร์อีกครั้ง โดยมุ่งเป้าไปที่ขั้วใต้ของดวงจันทร์เพื่อใช้ประโยชน์จากน้ำแข็งบริเวณดังกล่าว
และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์จะต้องถูกสร้างใกล้กับแหล่งน้ำแข็งที่สามารถเข้าถึงได้ สกัดได้ และกลั่นได้ ปัญหาคือขณะนี้นาซายังไม่มีข้อมูลรายละเอียดที่มากพอในการระบุตำแหน่งดังกล่าวอย่างชัดเจน และกำลังอยู่ระหว่างการใช้ภารกิจโคจรรอบดวงจันทร์เพื่อรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติม
ปัญหายังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะเมื่อนาซาทราบตำแหน่งที่ดีที่สุดในการติดตั้งเครื่องปฏิกรณ์แล้ว พวกเขายังต้องหาวิธีป้องกันเครื่องปฏิกรณ์ไม่ให้เสียหายจากการลงจอดของยานอวกาศ เช่น การพัฒนาแท่นปล่อยและลงจอดโดยเฉพาะ ซึ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนและการลงทุนมูลค่ามหาศาล
ปัจจุบัน การสำรวจอวกาศของมนุษย์นั้นยังคงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและซับซ้อน การสะสมทรัพยากรบนดวงจันทร์อย่างระมัดระวังจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถขยายการสำรวจไปยังดวงจันทร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และอาจนำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยให้มนุษย์สามารถอยู่รอดและเติบโตนอกโลกได้ในระยะยาว