ตรวจยึดแพะเถื่อน“ฉก.พญานาคราช”ตามจับได้ในพื้นที่จังหวัดตาก
พ.ฮ. รวิรักษ์ สัตตบุศย์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจพญานาคราช (ฉก.พญานาคราช) เปิดเผยว่า ฉก.พญานาคราช โดยเจ้าหน้าที่สารวัตรกรมปศุสัตว์ ด่านกักกันสัตว์ตาก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 3502 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่เมย บูรณาการปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมายในพื้นที่จังหวัดตาก โดยได้ตรวจยึดแพะเพศผู้ในพื้นที่จังหวัดตาก 2 จุด รวม 255 ตัว โดยเมื่อเวลา 00.40 น.วันที่ 14 ส.ค.ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบนำเข้าแพะจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงออกลาดตระเวนบนถนนหมายเลข 105 จนกระทั่งพบรถกระบะต้องสงสัยจำนวน 2 คัน ขับออกจากบ้านแม่ตื่น ตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก มุ่งหน้าสู่ถนนหมายเลข 105 จึงได้แสดงตนและเข้าตรวจสอบ พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ยพ 7768 เชียงใหม่ บรรทุกแพะมีชีวิตเพศผู้ 56 ตัว ซากแพะ 3 ตัว รวม 59 ตัว รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ยม 2766 เชียงใหม่ บรรทุกแพะมีชีวิตเพศผู้ 56 ตัว ซากแพะ 4 ตัว รวม 60 ตัว รวมของกลางเป็นแพะเพศผู้ 112 ตัว และซากแพะ 7 ตัว ทั้งสิ้น 119 ตัว ภายหลังการตรวจสอบผู้ขับขี่ไม่สามารถแสดงใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตเฝ้าระวังโรคระบาด (ร.3) และสัตว์ทั้งหมดไม่มีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ โดยผู้ขับขี่ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากบุคคลไม่ทราบชื่อให้บรรทุกแพะจากบ้านแม่ตื่นไปยังตำบลบ้านไร่ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยได้รับค่าตอบแทน 3,500 บาท (ยังไม่ได้รับเงิน) และไม่ทราบแหล่งที่มาของแพะ เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ในข้อหาเคลื่อนย้ายสัตว์ในเขตเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ชนิดปากและเท้าเปื่อยโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 22 และบทลงโทษตามมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พร้อมยึดสัตว์และซากสัตว์ไว้เป็นของกลาง
จากนั้น เวลา 01.30 น. เจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนบริเวณ บ้านแม่ตื่น หมู่ 1 ตำบลท่าสองยาง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก พบคอกแพะต้องสงสัยและได้ดำเนินการตรวจสอบคอกแพะดังกล่าว ตั้งอยู่กลางไร่ข้าวโพดของชาวบ้านล้อมรั้วด้วยสแลนสีดำทึบไม่พบอาหารหรือรางน้ำเลี้ยงสัตว์ ภายในมีแพะอยู่ในพื้นที่ไม่มีหลังคากันฝน ซึ่งไม่เหมาะสมต่อการเลี้ยงและอาจทำให้สัตว์ป่วยได้ง่ายและพบแพะบางส่วนมีอาการไอ จึงเชื่อว่าเป็นคอกพักชั่วคราวเพื่อรอการเคลื่อนย้าย โดยแพะทั้งหมดเป็นเพศผู้ จำนวน 136 ตัว (มีชีวิต 135 ตัว ตาย 1 ตัว) จากการสอบถามชาวบ้านและผู้นำชุมชนไม่พบว่ามีเกษตรกรรายใดเลี้ยงแพะเพศผู้จำนวนมากในลักษณะดังกล่าวจึงน่าสงสัยว่าเป็นแพะลักลอบนำเข้า
จากการตรวจสอบข้อมูลกับปศุสัตว์อำเภอประจำท้องที่ ไม่พบว่ามีเกษตรกรรายใดเลี้ยงแพะเพศผู้จำนวนมากในลักษณะดังกล่าว รอบคอกพบร่องรอยยานพาหนะขับเคลื่อน 4 ล้อ จำนวนมาก ลักษณะใกล้เคียงกับรถที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้ โดยระหว่างการตรวจสอบตั้งแต่เวลา 01.30 น. จนถึงเวลาตรวจยึดไม่พบผู้ใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของหรือผู้ดูแลสัตว์แพะส่วนใหญ่มีป้ายห้อยคอสีชมพูเหมือนแพะที่ตรวจยึดได้ก่อนหน้านี้ จึงเชื่อว่าเป็นสัตว์ชุดเดียวกัน ซึ่งพบแพะบางตัวมีเครื่องหมายประจำตัวสัตว์ที่ไม่ใช่ของประเทศไทยจึงเชื่อว่าเป็นสัตว์ลักลอบนำเข้า ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 41 (6) แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ทำการตรวจยึดแพะเพศผู้ จำนวน 135 ตัว ไว้เป็นของกลาง เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นสัตว์ลักลอบนำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน และได้ส่งมอบให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าสองยาง เพื่อดำเนินการตรวจสอบแหล่งที่มาประกาศตามหาเจ้าของเป็นเวลา 45 วัน และกักกันเพื่อตรวจโรคตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องต่อไป