น้อมนำพระราชดำรัส
คณะรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ½ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่แล้ว โดยมีรัฐมนตรีหน้าใหม่และรัฐมนตรีที่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่ง หรือแต่งตั้งเพิ่มอีกตำแหน่ง
ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม นายอรรถกร ศิริลัทธยากร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อีกตำแหน่ง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอนุชา สะสมทรัพย์ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชัยชนะ เดชเดโช เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยน.ส.แพทองธาร ที่ถูกคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน โดยหลังจากนี้นายภูมิธรรมจะทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีต่อไป
ทั้งนี้ไม่ว่า คณะรัฐมนตรีชุดนี้ จะทำหน้าที่ได้นานเท่าไหร่หรืออยู่จนครบวาระหรือไม่ แต่สิ่งที่คณะรัฐมนตรีต้องตระหนักและยึดปฏิบัติ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานแด่คณะรัฐมนตรี ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568
“ในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีใหม่ได้มาถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ข้าพเจ้าก็ขอแสดงความชื่นชม ในความตั้งใจของทุกท่าน ที่จะปฏิบัติงาน โดยมีชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด ประชาชนทุกคน ต่างก็ต้องการความสุข และความมั่นคงปลอดภัย การที่ท่านทั้งหลาย ซึ่งมีหน้าที่บริหารกิจการบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนได้ตั้งปณิธานไว้อย่างถูกต้อง ว่าจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และประกาศปณิธานนั้นอย่างหนักแน่นเข้มแข็ง ก็จะเป็นการเพิ่มพูนกำลังใจให้แก่ตนเอง และเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนได้ ข้าพเจ้าจึงขอเอาใจช่วยทุกท่าน และขอให้ท่านปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรู้ความสามารถ และความคิดจิตใจที่เป็นสุจริต เพื่อนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่ความเจริญมั่นคงอย่างยั่งยืน ขออำนวยพรให้ทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ได้ด้วยดี และมีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน”