หัวเรือใหญ่ อ.ส.ค. ยันไม่ทอดทิ้งเกษตรกรโคนม เร่งช่วยเหลือเพื่อเกษตรกรอย่างยั่งยืน
องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่า “จะไม่ทอดทิ้งเกษตรกรโคนม” ท่ามกลางสถานการณ์น้ำนมดิบล้นตลาดที่เป็นผลกระทบต่อเนื่องจากหลายปัจจัยทั้งด้านต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ความต้องการบริโภคที่ปรับเปลี่ยน และการปรับราคาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ตลาด
แม้ในปัจจุบันจะมี ปริมาณสต็อกผลิตภัณฑ์นมสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณน้ำนมดิบเข้าสู่ระบบมากเกินกว่าความต้องการในช่วงที่ผ่านมา แต่ อ.ส.ค.ยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง รับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรตามราคากลางที่ประกาศอย่างเป็นทางการโดยคณะกรรมการโคนม และผลิตภัณฑ์นม เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้ที่เหมาะสมและยุติธรรม โดยไม่ได้ลดราคาแม้จะมีแรงกดดันจากภาวะตลาด
อ.ส.ค. เชื่อมั่นว่า ความมั่นคงของอาชีพเกษตรกร คือ หัวใจของความยั่งยืนในอุตสาหกรรมโคนมไทย จึงได้เตรียมแผนชำระเงินค่าน้ำนมดิบในระบบให้แก่เกษตรกร โดยใช้งบจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร วงเงิน 200 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อให้การช่วยเหลือดำเนินอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด
อ.ส.ค. ยังยืนยันถึงความตั้งใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมนมไทยให้เดินหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้ความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อสร้างสมดุลในระบบการผลิตและการตลาด ลดความเหลื่อมล้ำ และขับเคลื่อนประเทศด้วยพลังของคนเลี้ยงโคนมไทย
โดย นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "เราเข้าใจและห่วงใยทุกความเดือดร้อนของเกษตรกร การรับซื้อน้ำนมดิบทุกหยดในราคายุติธรรม ไม่ใช่แค่การทำธุรกิจ แต่คือคำมั่นสัญญาของเราในการอยู่เคียงข้างคนไทยที่เลี้ยงวัวด้วยหัวใจ"
ทั้งนี้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ขอยืนยันว่า ทุกนโยบายและมาตรการที่ดำเนินการในขณะนี้ ล้วนมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพของอาชีพการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยอย่างแท้จริง แม้เส้นทางอาจจะไม่ง่ายในช่วงเวลานี้ แต่ทุกก้าวที่ อ.ส.ค. เดินไป จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญของอุตสาหกรรมนมไทย และแผนการชำระหนี้ที่ทาง อ.ส.ค. เร่งดำเนินการคือยื่นเรื่องขอใช้เงินกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ในโครงการรับซื้อน้ำนมดิบเพื่อการผลิต ในวงเงิน 200 ล้านบาท ทาง อ.ส.ค. ได้รีบดำเนินการในทุกขั้นตอนเพื่อยื่นเรื่องทาง ครม.อนุมัติเห็นชอบ หากผลมีการอนุมัติ อ.ส.ค. จะได้เงินจำนวนนี้มาภายใน 60 วัน และจะเร่งดำเนินการจ่ายให้พี่น้องเกษตรกรต่อไป
สำหรับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) แล้วนั้น “น้ำนมทุกหยดของพี่น้องเกษตรกร คือความตั้งใจในการทำอาชีพการเลี้ยงโคนมนี้ และน้ำนมทุกลิตรที่ อ.ส.ค. รับซื้อ ก็คือความรับผิดชอบที่ทางเราก็ไม่อาจละเลยได้ เช่นกัน” นายสมพร ศรีเมืองกล่าวทิ้งท้าย