ครั้งแรกของไทยเพาะพันธุ์ “ปลาสลิดหินโรลแลนด์” -“ปลาสลิดหินคูปัง” สำเร็จ
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ ภายใต้สังกัดกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ ปลาสลิดหินที่มีศักยภาพเชิงการค้าได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ได้แก่ “ปลาสลิดหินโรลแลนด์ (Chrysiptera rollandi)” และ “ปลาสลิดหินคูปัง (Chrysiptera hemicyanea (Weber, 1913) ” ถือเป็นก้าวสำคัญของวงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย เนื่องจากปลาทั้งสองชนิดนี้จัดเป็นปลาทะเลสวยงามที่มีสีสันสดใส จึงได้รับความนิยมสูง ในการนำมาเลี้ยงในอควาเรียมทั้งในและต่างประเทศ การเพาะพันธุ์ปลาทั้ง 2 ชนิดนี้ได้เอง จะช่วยลดการจับ และทำลายทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติตลอดจนเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ในการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้สนใจสร้างอาชีพด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้
สำหรับ ปลาสลิดหินโรลแลนด์ (Roland’s Damselfish) เป็นปลาทะเลสวยงามขนาดเล็ก ส่วนหัวมีสีเทาหรือเทาอ่อน ส่วนหางมีสีเหลืองอ่อน อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม อาศัยอยู่ตามแนวหินและปะการัง การเพาะพันธุ์เริ่มจากการคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่มีขนาด 5 เซนติเมตรขึ้นไป เลี้ยงในบ่อปูนหรือถังไฟเบอร์กลาส โดยใส่วัสดุเพื่อให้ปลาวางไข่ เช่น แผ่นกระเบื้อง หรือท่อพีวิซี จากนั้นเมื่อปลาวางไข่แล้ว ให้ย้ายวัสดุที่มีไข่ปลาติดอยู่ไปฟักในบ่ออนุบาล ซึ่งควบคุมให้มวลน้ำเคลื่อนที่ตลอดเวลาด้วยการให้อากาศผ่านหัวทรายคล้ายกับตอนที่ปลาใช้ครีบโบกพัด ไข่จะฟักตัวภายใน 72–78 ชั่วโมง ลูกปลาเริ่มกินอาหารได้หลังจากฟักแล้ว 1 วัน ได้แก่ โรติเฟอร์และนอเพลียสโคพีพอด จากนั้นเมื่ออายุ 15 วัน ให้อาร์ทีเมียแรกฟัก และเมื่อปลาอายุ 35 วันขึ้นไป จะเริ่มฝึกกินอาหารเม็ดสำเร็จรูปขนาด 300–500 ไมครอน และเมื่ออายุ 60 วันขึ้นไป ให้อาหารเม็ดชนิดจมน้ำได้วันละ 2 ครั้ง ควบคู่กับการดูแลด้านคุณภาพน้ำ ได้แก่ ความเค็ม pH และอุณหภูมิอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ ปลาเจริญเติบโตแข็งแรง มีอัตรารอดสูง ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ พบว่า ลูกปลาที่อายุ 36–60 วัน มีอัตรารอดสูงถึง 100%
ปลาสลิดหินคูปัง (Half-blue Damselfish) เป็นปลาทะเลสวยงามขนาดเล็ก ด้านบนลำตัวมีสีน้ำเงินเข้ม ส่วนด้านล่างของลำตัวพาดด้วยแถบยาวสีเหลืองตั้งแต่คางจรดโคนหางด้านบน พบได้ทั่วไปในเขตร้อนของมหาสมุทรอินเดียและแถบอินโดแปซิฟิก ปลาชนิดนี้มีนิสัยรักสงบ ไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงร่วมกับปลาทะเลสวยงามชนิดอื่นได้ โดยปลาสลิดหินคูปังมีพฤติกรรมวางไข่ติดกับวัสดุ เช่น แผ่นกระเบื้อง หรือท่อพีวิซี วางไข่ครั้งละ 500–1,200 ฟอง ในทุกๆ 15 วัน ตลอดทั้งปี ไข่จะฟักภายใน 3–4 วัน ปลาตัวผู้มีหน้าที่ดูแลไข่ปลา ซึ่งในช่วงฟักควรควบคุมการให้ออกซิเจนเบา ๆ เพื่อให้ไข่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เมื่อลูกปลาเริ่มฟัก สามารถให้อาหารมีชีวิตในรูปแบบเดียวกันกับปลาสลิดหินโรลแลนด์ ได้แก่ โรติเฟอร์ นอเพลียสโคพิพอด อาร์ทีเมีย และอาหารเม็ดสำเร็จรูปตามช่วงอายุ ในการเลี้ยงปลาอายุ 16-35 วัน มีอัตรารอดตาย 80-90% ด้วยสีสันสดใส เลี้ยงง่าย และมีแนวโน้มเป็นชนิดปลาที่มีศักยภาพด้านการตลาดทั้งในและประเทศปลาสลิดหินคูปัง จึงเป็นอีกหนึ่งความหวังใหม่ของเกษตรกรและผู้ประกอบการด้านสัตว์น้ำไทย
การเพาะพันธุ์ปลาสลิดหินทั้งสองชนิดนี้ นอกจากจะช่วยลดการจับจากธรรมชาติแล้ว ยังช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ ให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการส่งออกสัตว์น้ำ ตลอดจนนักเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในการนำองค์ความรู้นี้ไปต่อยอด ปลาทะเลสวยงามที่ได้มาจากการเพาะเลี้ยงจะเป็นสัตว์น้ำที่ได้รับการสนับสนุนจากการตลาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่องแทนที่ปลาที่ถูกจับจากธรรมชาติเพราะเป็นประโยชน์ในมิติของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปลาสลิดหินคูปัง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีเศษ จะมีขนาดโตเต็มวัยราว 4 เซนติเมตร มีราคาจำหน่ายในต่างประเทศอยู่ที่ 13–15 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัว (ประมาณ 455–525 บาท)
ดังนั้น เพื่อการเจริญเติบโตทางด้านธุรกิจของเกษตรกรและผู้ประกอบการที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต กรมประมงซึ่งดำเนินการในกิจกรรมเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตพันธุ์ปลาฯ ได้อยู่ระหว่างการประกาศราคาจำหน่ายปลาสลิดหินคูปัง ขนาด 1-6 เซนติเมตร อยู่ที่ราคา 40-700 บาท และปลาสลิดหินโรลแลนด์ ขนาด 1-2 เซนติเมตร อยู่ที่ราคา 20 บาท เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งกระบี่ เบอร์โทร 075- 662 -059 ในวันและเวลาราชการ