บิ๊กเต่า ซัดสำนักพุทธฯหมกเม็ดไม่จริงใจ ปล่อยเรียกเมียจ๋าผัวขา ใช่เหรอ!
บิ๊กเต่า ลั่นฝีระเบิดแล้ว ซัดสำนักพุทธฯหมกเม็ดปัญหา พระฉาว ไม่จริงใจร่วมแก้ปัญหา ขอเดินหน้าบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง
16 ก.ค. 68 ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ในฐานะรองหัวหน้า “ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย” ได้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อกำหนดทิศทางและกรอบการทำงานในการปราบปรามการทุจริตในวงการสงฆ์ พร้อมเน้นย้ำให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม เผย 2 วันแรก (14-15 ก.ค. 68) ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาแล้ว 26 กรณี
ศูนย์ฯ แห่งนี้จะทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนกรณีพระสงฆ์กระทำผิดพระธรรมวินัย โดยมีทั้งหมายเลขโทรศัพท์และเพจเฟซบุ๊กสำหรับรับเรื่องร้องเรียน ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนต้องเตรียมขยายคู่สายโทรศัพท์เป็น 10 สาย เพื่อรองรับการแจ้งข้อมูลที่เพิ่มขึ้น โดยภารกิจหลักของศูนย์ฯ คือการเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดวินัยสงฆ์ การทุจริตของสงฆ์ รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการธำรงไว้ซึ่งพระธรรมวินัย โดยเชื่อว่าการดำเนินการนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการสงฆ์อย่างจริงจัง
ที่ผ่านมาการทำงานร่วมกับสำนักพุทธฯ มักจะไม่ราบรื่นและล่าช้า เนื่องจากสำนักพุทธฯ มีแนวโน้มที่จะปกปิดปัญหาและขาดความเข้มงวดกวดขัน ทำให้ตำรวจมองว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำงานร่วมกันได้หากปราศจากความจริงใจ จึงจำเป็นต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง ไม่อยากปล่อยไว้ให้กลายเป็นมะเร็งร้ายจนทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อม และยืนยันว่าการดำเนินการครั้งนี้จะไม่มีการอ่อนข้อใดๆ ทั้งสิ้น โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ที่ควรจะต้องละซึ่งกิเลส
พล.ต.ต.จรูญเกีบรติ เปิดเผยต่อว่า ในส่วนของอำนาจหน้าที่ ตำรวจจะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและส่งต่อให้สำนักพุทธฯ พิจารณาเป็นรายบุคคล เนื่องจากตำรวจไม่มีอำนาจในการไล่พระให้สึก พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้สำนักพุทธฯ รวบรวมข้อมูลเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักของพระสงฆ์ทั้งกว่า 3 แสนรูป เพื่อนำมาตรวจสอบประวัติว่าเคยมีการกระทำความผิดหรือไม่ นอกจากนี้ กรณีที่มีคนของสำนักพุทธฯ เข้าไปเป็นมัคทายกวัดและให้ความช่วยเหลือพระที่ประพฤติไม่เหมาะสม ทางตำรวจจะนำเข้าหารือในที่ประชุมวันพรุ่งนี้เพื่อรายงานให้ผู้ใหญ่ในสำนักพุทธฯ รับทราบและแก้ไขปัญหาต่อไป
หลังจากนี้ ตำรวจจะรื้อคดีที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ที่เคยถูกสำนักพุทธฯปัดตกไป และกองซุกอยู่ใต้โต๊ะ ขึ้นมาปัดฝุ่นใหม่ทั้งหมด โดยหลังจากเปิดศูนย์ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีพระผู้ใหญ่หลายรูปที่มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกรณีสีกากอล์ฟ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขอเวลาในการตรวจสอบก่อน