รำลึก30ปีวันช็อกโลก! ‘สมาน’ เผยก่อนโค่น ‘กอนซาเลซ’ ขึ้นเวทีโดยไม่วอร์ม-โดนต้อนจนเปาให้อีกยกเดียว
รำลึกไฟต์แห่งความทรงจำวงการกีฬาไทย สมาน ส.จาตุรงค์ พลิกล็อกช็อกโลก คว่ำ ฮุมเบอร์โต "ชิกิตา" กอนซาเลซ ยอดมวยแห่งยุคชาวเม็กซิกัน เมื่อวันที่ 15 ก.ค.1995(พ.ศ.2538) ผงาดคว้าแชมป์ ไลต์ฟลายเวต สภามวยโลก (WBC) และ สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) อย่างยิ่งใหญ่
ในยุคนั้น กอนซาเลซ คือยอดมวยรุ่นเล็กของโลก เป็นแชมป์โลก 3 สมัย เป็นต่อ สมาน อย่างขาดลอย และตลอดการชก กอนซาเลซ ก็คุมเกมได้ ต่อจน สมาน หน้าบวมปูด อย่างไรก็ตาม เกิดพลิกล็อกสนั่นโลก ในยก 7 เมื่อ "หมาน ข้าวมันไก่" ปล่อยขวา ส่ง กอนซาเลซ ร่วงนับ 8 แม้ลุกขึ้นมาก็หมดสภาพแล้ว เลยโดน สมาน ยำต่อ กรรมการยุติการชก ทำให้ สมาน ชนะน็อก คว้าเข็มขัด 2 เส้น แบบโลกตะลึง
ในโอกาสครบ 30 ปี สมาน ส.จาตุรงค์ ได้เขียนเล่าเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์โดยละเอียด ช่วงไฮไลต์ตั้งแต่วันชั่งน้ำหนัก และวันแข่ง ใจความดังนี้
โดยวันชั่งน้ำหนัก วันที่ 14 ก.ค.38 สมาน ระบุว่า เช้าตื่นมาน้ำหนัก เกิน 108 ปอนด์เล็กน้อย แต่ไม่มีปัญหา ซึ่งถึงเวลาชั่ง ได้ 107.8 ปอนด์ ตอนแอ็คชั่นจับมือกัน ไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวหรือหวั่นไหวอะไรเลย รู้สึกอยากจะชกเร็วๆ อาจเป็นเพราะได้ชกกับนักชกที่มีชื่อเสียง และใครๆก็ไม่ได้ตั้งความหวังไว้ นอกจากทีมงาน
ชั่งน้ำหนักเสร็จ ไปร้านอาหารไทย สั่ง ผัดเนื้อน้ำมันหอย, ข้าว, ไข่เจียว, ต้มยำไม่เผ็ด
ถึงวันชก 15 ก.ค.38 ตื่นมาโดยที่หลับได้ดี นอนยาวๆ เต็มอิ่ม ถึงเวลาเดินทางไปสังเวียน พอเข้าห้องพักได้ พนักงานของเวทีก็มาบอกว่า เตรียมตัวได้เลย เพราะมวยเจ้าถิ่นน็อกเร็วคู่อุ่นเครื่องมาหลายคู่แล้ว คู่ของ สมาน จึงเร็วกว่ากำหนด ต้องรีบๆ เปลี่ยนชุดทันที ก่อนที่จะให้ พี่จิว พันมือ ทาง สหสมภพ ศรีสมวงษ์ เอากระดาษคาถา มาให้อ่าน และคู่รองคู่เอก ก็น็อกเร็วอีก
พนักงานเวทีก็เข้ามาบอกให้เตรียมตั้งแถวออกไปเวทีได้ ตอนนั้นไม่มีเวลาวอร์มอัพก่อนขึ้นเวทีเลย ตั้งใจว่าไปวอร์มบนเวที แล้วได้ขึ้นเวทีก่อน ถ้าใครดูเทปย้อนหลัง จะเห็นว่าที่ สมาน ขึ้นเวทีแล้ววอร์มออกหมัดไปเรื่อยๆ นั่นเพราะไม่มีเวลาวอร์มที่ห้องพัก
สำหรับการชก ยก 2 สมาน ได้นับก่อน แต่ กอนซาเลซ ไม่เจ็บมาก ที่ล้มเพราะเสียหลัก พอขึ้นยก 4 สมาน บอกว่าเริ่มแรงแผ่ว เพราะ 3 ยก เต้นเยอะ ก่อนที้ยก 4 โดนต่อยท้องจังหวะหายใจเข้าพอดี ไม่ทันเกร็งหน้าท้อง รู้สึกจุก แน่นท้อง จนโดนไล่ต้อน ก่อนระฆังช่วย
ยกที่ 5 สมาน ยอมรับว่า แรงลดลงระดับหนึ่ง ตาขวาเริ่มบวมปิด มีจังหวะโดนหมัด รู้สึกมึนเล็กน้อย แต่เลือกที่จะนั่งให้กรรมการนับ หลีกเลี่ยงการโดนหมัดหนักตามมา พอยกที่ 6 กอนซาเลซ บุกหนัก ฝั่ง สมาน ตาขวาเริ่มปิดมากขึ้นจนจะสนิทแล้ว แม้ดักบวกได้เต็มๆ หลายหมัด แต่ กอนซาเลซ ทรหดมากๆ ช่วงใกล้หมดยก กอนซาเลซ ต่อยเข้าเต็มหน้าอย่างจัง สมาน ยอมให้กรรมการนับ เพราะถ้ายังยืนต่อกรรมการอาจจะจับแพ้หรือโดนหมัดชุดใหญ่
หลังโดนนับ 8 กอนซาเลซ รุกหนัก รู้ดีว่าถ้าโดนรัวหมัดอีกสักชุดกรรมการต้องจับแพ้แน่ๆ แต่หมัดของ กอนซาเลซ ไม่ค่อยเข้าเป้า กรรมการอยู่ใกล้ๆ มองเห็นชัดกว่าคนอื่น ฝั่ง สมาน ต้องตอบโต้ไป 1 หมัด เพราะถ้าไม่ตอบโต้จะโดนจับแพ้
สมาน เล่าว่า ระฆังหมดยก ทั้งที่กรรมการจะจับแพ้แล้ว กรรมการพากลับมาที่มุมแล้วไปคุยกับแพทย์สนาม ระหว่างพักยก แพทย์สนามที่กรรมการเดินไปปรึกษา เดินมาที่มุม ทางพี่เลี้ยงมุมสมาน รู้ว่าแพทย์จะมาบอกให้ยอมแพ้ รีบเตือน สมาน ว่า "หมานๆ ถ้าหมอมาบอกว่าสู้นะ เราขอสู้" เมื่อแพทย์มา สมาน ก็ยกนวมบอกสู้ๆๆ ส่วน น่ยสหสมภพ บอก "วันมอร์ราว" หรือ "ขออีก 1 ยก" ฝั่งแพทย์สนามเห็นสภาพ สมาน ตาขวาก็ปิดไปข้างแล้ว ก็ได้แต่ส่ายหน้าแล้วเดินกลับไป
สมานบอกว่า เข้าใจดีว่า สภาพแบบนี้ กรรมการจะจับแพ้แน่ ถ้าดูแล้วสู้ไม่ได้ จึงคิดว่าเป็นไงเป็นกัน โดนหมัดแพ้น็อก ยังดีกว่าโดนกรรมการจับแพ้ มีเวลา 3 นาทีต้องทำให้ได้ เสียงพี่จิวบอก "หมาน…สู้ตายนะ" คุณสหสมภพบอก "ไม่มีถอยนะ …"
เมื่อยก 7 เริ่ม กอนซาเลซ ลุยแลกหมัด เพราะหวังเอาใจแฟนด้วย มีการแลกหมัดกันแบบใครโดนก่อนก็หล่น แล้วเป็นจังหวะที่ สมาน ปล่อยขวา โดน กอนซาเลซ เต็มๆ หงายหลังลงไปกองกับพื้น กรรมการนับถึง 8 ซึ่ง สมาน เล่าว่า เรี่ยวแรงของตัวเองที่เหมือนจะหมด กลับคืน ไม่รู้มาจากไหน ตาข้างขวาที่ปิดสนิททำให้กะระยะใกล้ไกลไม่ได้ พอกรรมการบอกชกแค่นั้นตาเห็นเป็นต่อยอย่างเดียว ถูกบ้างผิดบ้าง
ฝั่ง กอนซาเลซ ก็ไม่มีเต้นหนี ไม่มีกอด ไม่มีอู้ ยืนแลกหมัดตลอด สมาน ก็ใส่ไม่มียั้งช่วงจังหวะนาทีทอง โรมรันพันตูชุดใหญ่ ก่อนกรรมการโบกมือจับ กอนซาเลซ แพ้ ทั้งที่ยกก่อนหน้า เพิ่งจะจับ สมาน แพ้
"ความรู้สึกตอนนั้น..มันอธิบายให้รู้ได้ยาก ปีติมันมาแบบกระทันหัน วาบมาแบบนั้น…เราเป็นแชมป์โลกแล้ว….คือสิ่งที่เราคาดหวัง และพยายามทำให้ได้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายๆปีที่ทั้งลำบากต้องทนเหนื่อยทนเจ็บต้องอดทนแสนสาหัส เพื่อสิ่งนี้ เพื่อวันนี้ มันสำเร็จแล้ว…" สมาน ระบุความรู้สึก
ทั้งนี้สามารถอ่านบันทึกไฟต์ประวัติศาสตร์ ที่เฟซบุ๊ก สมาน ส.จาตุรงค์.
(ขอบคุณภาพ-เรื่อง เฟซบุ๊ก สมาน ส.จาตุรงค์)