น้องมาร์ค เด็กยอดกตัญญู เดินเท้าฝ่าโคลนเกือบ 6 กม. ทุกวันดูแลปู่ย่าป่วยหนัก
เรื่องราวสุดสะเทือนใจของ น้องมาร์ค หรือ ด.ช.ศุภสิทธิ์ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนปากท่อพิทยาคม ได้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 หลังจากผู้ใช้ชื่อ Nirun Tuptimorn โพสต์ขอความช่วยเหลือระบุว่า น้องมาร์คต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก อาศัยอยู่กับปู่ย่าที่ป่วยหนัก ในบ้านไม้เก่าแก่ที่ใกล้จะพัง และต้องเดินเท้าไปโรงเรียนวันละเกือบ 6 กิโลเมตร บนถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและโคลนในหน้าฝน
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 มีการลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านเลขที่ 63 หมู่ 5 ตำบลยางหัก อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นที่อยู่ของน้องมาร์ค พบว่าจากปากซอยเข้าไปถึงบ้านมีระยะทางเกือบ 3 กิโลเมตร เป็นถนนลูกรังที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อและน้ำขัง ทำให้การเดินเท้าเป็นไปอย่างยากลำบาก โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตก น้องมาร์คต้องถอดรองเท้าเดินฝ่าโคลนทุกวันเพื่อไม่ให้ชุดนักเรียนเพียงชุดเดียวของเขาเปื้อน
สภาพบ้านของน้องมาร์คเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูงที่ทรุดโทรม ตัวบ้านเอียงจนต้องใช้ท่อนไม้จำนวนมากค้ำยันไว้เพื่อไม่ให้ล้มลงมา ซึ่งสร้างความหวาดเสียวแก่ผู้ที่อาศัยอยู่ ภายในบ้านมีหลอดไฟให้แสงสว่างเพียงดวงเดียว ส่วนห้องน้ำไม่มีแม้แต่ประตู ใช้เพียงผ้าผืนหนึ่งปิดบังไว้
ภาพจาก เฟซบุ๊ก : Nirun Tuptimorn
โดยน้องมาร์คอาศัยอยู่กับ นางลัดดา วัย 75 ปี ซึ่งเป็น ยายทวด ซึ่งป่วยหลายโรคและเดินไม่ค่อยไหว และ ตาทวด ที่ป่วยด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ไม่สามารถเดินได้ ต้องนั่งรถวีลแชร์ นางลัดดาเล่าว่า เธอเลี้ยงน้องมาร์คมาตั้งแต่แรกเกิด เนื่องจากพ่อแม่ของน้องแยกทางกันและไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ไหน เดิมตาทวดเป็นคนทำงานหาเลี้ยงครอบครัว แต่เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา ตาทวดล้มป่วย ทำให้ครอบครัวประสบความลำบากอย่างหนัก
แม้จะเผชิญความยากลำบาก แต่ครอบครัวของน้องมาร์คก็ได้รับความเมตตาจาก หลวงพ่อวัดไทยประจันต์ ที่อยู่ใกล้บ้าน ซึ่งได้นำข้าวและอาหารมาให้ รวมถึงช่วยออกค่าใช้จ่ายในการเรียนให้กับน้องมาร์คด้วย นอกจากนี้ ลูกสาวของนางลัดดาที่ป่วยเป็นมะเร็งที่คอ ก็ยังคงให้ความช่วยเหลือตามกำลัง
น้องมาร์คเป็นเด็กเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3.50 และเป็นเด็กดีที่รักตาทวดกับยายทวดมาก ทุกวันที่กลับจากโรงเรียน น้องจะเข้ามาสวมกอดและหอมยายทวดเสมอ นางลัดดากล่าวด้วยความเป็นห่วงว่า เธอจะสอนน้องมาร์คไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือการลักขโมย และยังไม่รู้ว่าหากเธอไม่อยู่แล้ว น้องมาร์คจะอยู่อย่างไร
ภาพจาก เฟซบุ๊ก : Nirun Tuptimorn
น้องมาร์คเล่าถึงกิจวัตรประจำวันของเขาว่า ทุกเช้าจะต้องตื่นตั้งแต่เวลา 04.00 น. หลังจากอาบน้ำแต่งตัวและกินข้าวแล้ว จะต้องเดินออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 05.30 น. เพื่อไปขึ้นรถรับส่งนักเรียนที่ปากซอยในเวลาประมาณ 06.00 น. ซึ่งห่างจากบ้านเกือบ 3 กิโลเมตร แม้ถนนจะเละเทะจากฝนตก
เขาจะต้องถอดถุงเท้าและรองเท้าเดินข้ามไป แล้วไปล้างเท้าที่ร้านค้าปากซอยก่อนจะใส่รองเท้าใหม่เพื่อเดินทางต่อไปยังโรงเรียนที่อยู่ห่างไปกว่า 50 กิโลเมตร น้องมาร์คยืนยันว่าเขาไม่เคยไปไม่ทันรถรับส่ง และไม่เคยท้อแท้กับการเดินทางที่ยากลำบากนี้ เขาจะขอรอดูที่อนาคตอีกครั้ง
ภาพจาก เฟซบุ๊ก : Nirun Tuptimorn
เรียบเรียงเนื้อหาโดย สยามนิวส์