“ทักษิณ”ลุยอุบลฯ พรุ่งนี้ ช่วยผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 ก.ค. 2568 เวลา 08.00 น. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะออกเดินทางลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบไทย-กัมพูชา พร้อมรับฟังปัญหาและให้กำลังใจประชาชนและเจ้าหน้าที่
เบื้องต้น เวลา 09.00 น. นายทักษิณ จะเดินทางไปยังโรงครัวที่ศูนย์พักพิงหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองเดชอุดม ซึ่งเป็นของ สส.พรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมจัดทำข้าวกล่องกระจายไปศูนย์พักพิงประชาชน 4-5 จุด ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี ทั้งนี้ วันที่ 26 ก.ค.ตรงกับวันคล้ายวันเกิดนายทักษิณครบ 76 ปี
ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือเยียวยา แก่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเน้นย้ำให้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยการบูรณาการระหว่างหน่วยงานในระดับพื้นที่ และส่วนกลาง
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ใน 4 จังหวัด ได้แก่
-นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์
- นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
-พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
-นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับการอำนวยความสะดวกแก่คนไทยในกัมพูชาที่ได้รับผลกระทบ และประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ประชุมทางไกลร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนจากสายการบินพาณิชย์สัญชาติไทย 7 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ บางกอกแอร์เวย์ส ไทยเวียตเจ็ท นกแอร์ และไทยไลอ้อนแอร์
“ทุกสายการบินแสดงความพร้อม ที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการจัดเที่ยวบินพิเศษในกรณีจำเป็น เพื่อรับคนไทยกลับประเทศอย่างปลอดภัย ซึ่งถือเป็นภารกิจเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุด โดยคำนึงถึงสวัสดิภาพ และความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก
“คณะรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายจะลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมประชาชน รับฟังปัญหา และติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งประสานความช่วยเหลือในทุกมิติ ทั้งด้านความปลอดภัย การดูแลผู้ได้รับผลกระทบ และการฟื้นฟูในระยะต่อไป ทั้งนี้ ขอให้คนไทยในกัมพูชาติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และหากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ โทร. +855 77 888 114 สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ โทร. +855 86 608 999 และ Call Center กรมการกงสุล โทร. +66 2572 8442 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายจิรายุ กล่าว