มาเลเซีย ทุ่ม 1.5 แสนล้านดอลล์ จับมือยักษ์ใหญ่สหรัฐ แลกลดภาษีนำเข้าเหลือ 19%
มาเลเซีย เผยแผนจัดซื้ออุปกรณ์จากบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐในภาคเซมิคอนดักเตอร์ อวกาศ และดาต้าเซ็นเตอร์ มูลค่า 150,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี หวังแลกกับการลดภาษีนำเข้าเหลือ 19%
วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เวลา 14.18 น. เว็บไซต์ Yahoo Finance รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้ามาเลเซียระบุว่าจะใช้งบประมาณสูงสุด 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า เพื่อจัดซื้ออุปกรณ์จากบริษัทข้ามชาติของสหรัฐในภาคเซมิคอนดักเตอร์ อุตสาหกรรมการบิน และดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงกับรัฐบาลวอชิงตันเพื่อแลกกับการลดภาษีนำเข้า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สหรัฐประกาศจะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากมาเลเซียในอัตรา 19% เริ่มมีผลวันที่ 8 สิงหาคม ซึ่งต่ำกว่าระดับ 25% ที่เคยขู่ไว้เมื่อเดือนก่อน
บรรษัทพลังงานแห่งชาติของรัฐมาเลเซีย Petroliam Nasional Berhad (Petronas) จะจัดซื้อน้ำมันก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐ มูลค่าปีละ 3.4 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รัฐบาลมาเลเซียจะลงทุนข้ามพรมแดนในสหรัฐฯ มูลค่า 70,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 5 ปี เพื่อช่วยลดความไม่สมดุลทางการค้า รัฐมนตรีเตงกู ซาฟรูล อะซีซ กล่าวต่อรัฐสภา
ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐระบุว่า ในปี 2567 สหรัฐขาดดุลการค้าสินค้ากับมาเลเซียอยู่ที่ 2.48 หมื่นล้านดอลลาร์
เตงกู ซาฟรูล ระบุว่าทั้งสองประเทศกำลังอยู่ระหว่างการสรุปถ้อยแถลงร่วมเพื่อยืนยันพันธสัญญาต่าง ๆ ที่ตกลงกันไว้ หลังจากใช้เวลาหลายสัปดาห์เจรจาเกี่ยวกับภาษีนำเข้าที่รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เป็นผู้กำหนด
เตงกู ซาฟรูล กล่าวว่า“แม้ในเบื้องต้นจะคาดว่าจะได้อัตราภาษีที่ต่ำลงกว่านี้ แต่กระทรวงมองว่าการเจรจาในครั้งนี้สามารถบรรลุผลที่สมเหตุสมผลสอดคล้องกับข้อเสนอของฝ่ายมาเลเซีย”
สัมปทานเพิ่มเติมที่มาเลเซียมอบให้กับสหรัฐ ได้แก่ การลดหรือยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐถึง 98.4% การผ่อนคลายอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีบางประการ และการยกเลิกข้อกำหนดให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและผู้ให้บริการคลาวด์ของสหรัฐต้องแบ่งรายได้บางส่วนในมาเลเซียเข้าสู่กองทุนของรัฐ
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตงกู ซาฟรูล ระบุว่ามาเลเซียได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสำหรับสินค้ากลุ่มยาและเซมิคอนดักเตอร์ที่ส่งออกไปยังสหรัฐแล้ว และกำลังดำเนินการเจรจาเพื่อขอยกเว้นเพิ่มเติมสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น โกโก้ ยางพารา และน้ำมันปาล์ม
อย่างไรก็ตามในวันจันทร์เขาเตือนว่าชิปเซมิคอนดักเตอร์ยังอาจต้องเผชิญกับมาตรการภาษีเพิ่มเติมภายใต้กฎหมายความมั่นคงของสหรัฐ
“ดังนั้น เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับความเป็นไปได้ที่จะมีภาษีเพิ่มเติมสำหรับอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์”
อ้างอิง : finance.yahoo.com