ผวา! หุ้นไหน? กระทบภาษีสหรัฐฯ 19%
หุ้นวิชั่น
อัพเดต 4 สิงหาคม 2568 เวลา 17.42 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HoonVision | หุ้นวิชั่น - หุ้น ข่าวหุ้น หุ้นไทยวันนี้ หุ้นวันนี้ หุ้นเด่น วิเคราะห์หุ้น ธุรกิจ การเงิน เศรษฐกิจ การลงทุน ดัชนีราคาหุ้นหุ้นวิชั่น - บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ข้อแลกเปลี่ยนไทยปิดดีลภาษีสหรัฐฯ 19% กระทบกลุ่มอุตสาหกรรมไหนบ้าง ? (PART 1)ผลกระทบข้อแลกเปลี่ยนไทยปิดดีลภาษีสหรัฐฯ 19% สำสรุปได้ดังนี้
กลุ่มพลังงาน : PTT. เตรียมนำเข้า LNG ล็อตใหม่ 1ล้านตัน/ปี จากสหรัฐฯ ในปี 2569 ส่วนความร่วมมือในการจัดหาLNG ระหว่างกระทรวงพลังงานร่วมกับรัฐอะแลสกา (ALASKA LNG) ปัจจุบันยังไม่ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันเนื่องจากกระทรวงฯต้องพิจารณาราคาที่มีความเหมาะสมและแข่งขันได้ด้วย โดยฝ่ายวิจัยมีมุมมองเป็นกลางเนื่องจากอยู่ในแผนการจัดหาด้านพลังงานของ ปตท.ไว้ในช่วงก่อนหน้านี้อยู่แล้ว โดยจะเป็นการทดแทนการนำเข้าก๊าซ LNG จากแหล่ง MIDDLE EAST ที่น้อยลงในกรณีของการสนับสนุนเว้นภาษี 5% 2ปี ให้ GOOGLE CLOUD : ส่งผลให้มีการดึงดูด และช่วยขยายการลงทุนภาคเอกชน ในธุรกิจ CLOUD, DATA CENTER ถือเป็นมุมมองเชิงบวกต่อผู้ประกอบการที่มีธุรกิจเนื่องเกี่ยวเนื่องกับกลุ่มดังกล่าว อาทิ GULF ที่มีความร่วมมือกับ GOOGLE CLOUD , BGRIM ที่กำลังเริ่มต้นเข้าธุรกิจ DATA CENTER เป็นต้น
กลุ่มวัสดุก่อสร้าง : SCC จะมีการนำเข้า ETHANE สำหรับใช้เป็น FEEDSTOCK ให้กับโรงงานปิโตรเคมีในประเทศเวียดนาม ซึ่งจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากกรณีที่เวียดนามยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐทั้งหมด ส่วนประเด็นปัญหาความตึงเครียดไทย-กัมพูชา หากคลี่คลายลง จะส่งผลบวกต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่มีการค้าชายแดนได้แก่ปูนซีเมนต์ (SCC,SCCC,TPIPL) กระเบื้อง (SCGD,DCC) ผลิตภัณฑ์ก่อสร้างต่างๆ (TASCO) รวถึงการขนส่งข้ามชายแดน (SJWD)
กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ : คาดจะยังไม่เห็นผลในระยะสั้นต่อยอดส่งออกไปสหรัฐ เนื่องจากคาดว่าน่าจะมีการเร่งสั่งซื้อ สินค้าตั้งแต่ 1H68 เพื่อให้ดำเนินการผลิตและขนส่งทันในต้น 3Q68 ก่อนที่จะมีภาษีตอบโต้จะมีผลบังคับใช้อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผู้ประกอบการจะต้องมีการเจรจากับลูกค้าในสหรัฐเพิ่มเติมจากเดิม โดยเฉพาะ DELTA และ KCE ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าที่นำเข้าจะยอมรับอัตราภาษีที่เพิ่มขึ้นได้เพียง 10%-15% ซึ่งต้องติดตามผลการเจรจาต่อไป โดยหากผู้ประกอบการไม่สามารถลดต้นทุนอื่นๆได้ ระยะถัดไปอาจจะเห็นผลกระทบต่อยอดขายอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2569
กลุ่มโรงพยาบาล : ได้ผลบวกเล็กน้อยจากความตึงเครียดไทย-กัมพูชาที่คลี่คลายลง เนื่องจากลูกค้ากัมพูชา คิดเป็น 1-4% ของรายได้ รพ. ส่วนการนำเข้าเครื่องมือแพทย์จากสหรัฐฯ ที่ได้รับการยกเว้นภาษี ไม่ค่อยได้ผล
บวก เนื่องจากรายการดังกล่าวได้รับการยกเว้นภาษีอยู่แล้วในปัจจุบัน หากคาบเกี่ยวรายการวัสดุ/อุปกรณ์ทางการแพทย์ น้ำยา หรือ ยาที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ด้วย มองได้ประโยชน์บ้างเล็กน้อย เนื่องจาก รพ.ไทยส่วนใหญ่ใช้ยาน้ำยา นำเข้าจากสหรัฐฯไม่เกิน 10% ผ่าน AGENCY จะมีแต่ KLINIQ ที่เน้นเครื่องมือ/อุปกรณ์ น้ำยา นำเข้ามาจาก US FDA โดยเฉพาะ ทำให้ภาพรวมต้นทุนอาจได้ประโยชน์มากสุดในกลุ่ม