“ทรัมป์” หวังเอาหน้า ศึกไทย-เขมร
การตัดสินใจของประธานาธิบดี "โดนัลด์ ทรัมป์" แห่งสหรัฐฯ ในการเข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา ด้วยการนำประเด็นการเจรจาการค้าเรื่องอัตราภาษีนำเข้า มาเป็นเงื่อนไขในการต่อรอง โดยให้ทั้ง 2 ประเทศหยุดยิง
"นายธนิต โสรัตน์" รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย หรือ อีคอนไทย กล่าวกับสำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.ว่า ตอนนี้ภาษีทรัมป์ซึ่งเป็นเรื่องเศรษฐกิจถูกนำมาโยงกับความขัดแย้งระหว่างไทย กับกัมพูชา ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่า การที่ประธานาธิบดี "ทรัมป์" เข้ามาเป็นตัวกลางเช่นนี้ เป็นทางลงให้กับกัมพูชา เพราะการสู้รบในช่วงที่ผ่านมานั้น ก็ไม่เป็นผลดีต่อกัมพูชามากนัก
"ทรัมป์ก็คือเรื่องภาษี เรื่องของเศรษฐกิจ ตอนนี้ก็เอามาโยงกับเรื่องความขัดแย้งภูมิภาค ไทยกับกัมพูชา ก็เอามาเป็นเรื่องเดียวกัน คราวนี้ก็ดึงเอาประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาเป็นกรรมการทั้ง 2 ฝ่าย ก็ฟังดูแล้ว ก็คงอยากหาทางลง ผมว่ากัมพูชาเองเค้าก็อยากหาทางลงเหมือนกัน ที่ผ่านมา 3-4 วันนี้ เราก็ดูก็ไม่ได้ เป็นประโยชน์ต่อเค้า ซึ่งก็อยากหาทางลง ขณะที่ประเทศไทยเรา เศรษฐกิจก็อ่อนแอเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว เราก็ไปผูก กับเรื่องของภาษี TARIFF ของสหรัฐอเมริกา ผมคิดว่าก็เข้ามาบรรจบตรงกันถ้าผมเดาใจ ทางไทยเราก็อยาก จะจบเรื่องนี้เหมือนกัน ทางกัมพูชาก็อยากจะจบเรื่องนี้เหมือนกัน"
"นายธนิต" กล่าวอีกว่า การหยุดยิงเป็นทางออกที่ดี และอาจเป็นข่าวดีสำหรับการเจรจาการค้าภาษีทรัมป์กับ ประเทศไทย เพราะงานนี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ได้หน้า จากการทำให้ทั้ง 2 ประเทศหยุดยิง แต่อย่างไรก็ตาม หากกัมพูชาไม่หยุดยิง ก็เป็นอำนาจความชอบธรรมของฝ่ายไทยในการที่จะต่อสู้ต่อไป ซึ่งดูแล้ว ไทยเหนือกว่า
"การเจรจาเรื่องของภาษีทรัมป์ ก็อาจจะง่ายขึ้น ทรัมป์ก็ได้หน้า เพราะเค้าเป็นคนกลาง ไทยเราเองก็ YES เลย ทรัมป์ก็ได้หน้า เราก็ได้เรื่องภาษี สองก็คือว่าเราก็หยุดยิง ถ้าเค้าหยุดยิง มันก็จบ ผมคิดว่าทางกัมพูชาเค้าจะอยากหยุดยิง เพราะรู้ว่า สู้ไปเค้าก็สู้เราไม่ได้อยู่แล้ว เศรษฐกิจเขาก็พัง ซึ่งก็เป็นทางออก แต่ที่จะให้เค้าเดินมาถือทองขาวก็คงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็ไม่มีใครเสียหน้า แต่ว่าเราจะได้มากกว่า เพราะว่าภาษีทรัมป์มีผลต่อประเทศไทยจริงไหม อเมริกาเค้าไม่ค่อยมีผลหรอก เพราะเค้าไม่ได้เป็นประเทศที่เศรษฐกิจ อิงกับการส่งออก แล้วก็สายตาโลกจะดีด้วย แต่ถ้าเค้าไม่ยอมหยุดยิง อันนี้ก็เป็นอำนาจชอบธรรมของเรา เราก็สู้กันต่อไป ซึ่งเราดูแล้ว เราก็เหนือกว่า"
และเมื่อถาม "นายธนิต" ถึงภาษีทรัมป์ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. 2568 ว่า ภาคเอกอยากเห็นตัวเลขภาษี ทรัมป์ที่เท่าไร โดยเจ้าตัวกล่าวว่า ขอให้ใกล้เคียงกับเวียดนามที่ 20% หลังจากก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทยที่ 36%
"เราก็อยากได้ตัวเลขที่มันไม่สูงกว่าประเทศคู่แข่งคือเวียดนาม แต่จะต่ำกว่าเนี่ย คงยาก แค่เราได้ภาษีเท่ากับเวียดนามหรือเท่ากับฟิลิปปินส์ 19% เวียดนามเค้า 20% เพราะว่าภาษีที่ฝั่งการ ค้าสินค้าไทยเวลานำเข้าอเมริกา มันก็แข่งกันไม่ได้อยู่แล้ว ต่างกัน ตอนนี้เรา 36% เวียดนามเค้า 20% ต่างกัน 16% เราสู้เค้าไม่ได้อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ง่าย ก่อนหน้านั้นเราก็ดูไม่ง่าย เพราะว่าเรามีอะไรดี ที่จะไปเท่ากับเวียดนาม"
จากนี้ต่อไปจะต้องจับตาสถาการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทย -กัมพูชาอย่างใกล้ชิด เพราะกองทัพบก ยืนยันว่า จะมีการหยุดยิง ก็ต่อเมื่อ กัมพูชาจะต้องเป็นฝ่ายมา ขอเจรจาเองเท่านั้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews