ชัวร์ก่อนแชร์ : 10 วิธีแก้อาการเมารถ จริงหรือ ?
บทความนี้เรียบเรียงโดยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence : AI)โดยมีเนื้อหาหลักจากคลิปวิดีโอ
15 มิถุนายน 2568
ตามที่มีการแชร์ข้อมูลแนะนำว่า 10 วิธีแก้อาการเมารถ ง่าย ๆ ใช้ได้จริง เช่น นั่งแถวหน้า มองไกล ๆ อย่าสูบบุหรี่ หรือ ผลไม้รสเปรี้ยวนั้น
สรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม
บางข้อเป็นเรื่องจริง แต่บางข้อยังเป็นเรื่องที่ยังเป็นข้อโต้แย้งกันอยู่ หากจะแชร์ข้อมูลออกไปควรอธิบายเพิ่มเติมและดูความเหมาะสมในแต่ละบุคคล
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบกับ พญ.นวรัตน์ อภิรักษ์กิตติกุล อาจารย์ประจำภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล (สัมภาษณ์เมื่อ 4 เมษายน 2568)
อาการเมารถ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ เป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญเมื่อต้องเดินทางไกล แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีแก้เมารถที่แชร์กันในโลกออนไลน์นั้น วิธีไหนใช้ได้ผลจริง วิธีไหนเป็นแค่ความเชื่อ ? บทความนี้จะสรุปข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มาไขข้อข้องใจในรายการ “ชัวร์ก่อนแชร์” เพื่อให้คุณเตรียมตัวรับมือกับอาการเมารถได้อย่างมั่นใจ
สาเหตุของอาการเมารถ
อาการเมารถเกิดจากการที่สมองได้รับข้อมูลที่ไม่สัมพันธ์กันจากอวัยวะ 3 ส่วน คือ ตา หู และร่างกายที่รับรู้การเคลื่อนไหว ทำให้ระบบประสาททำงานสับสนและเกิดอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ในที่สุด
10 วิธีแก้เมารถตามที่แชร์มา
- ✅เลือกที่นั่งให้ถูกตำแหน่ง : ควรเลือกนั่งบริเวณหน้ารถหรือโซนกลางของรถ เพราะเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างนิ่ง ทำให้สายตาไม่ต้องปรับตัวมากนัก
- ✅ทอดสายตามองไปไกล ๆ หลับตา และนั่งนิ่ง ๆ : การมองวิวทิวทัศน์ไกล ๆ จะช่วยให้สายตาของคุณนิ่งขึ้น ลดอาการเวียนศีรษะได้ดี ส่วนการหลับตาและนั่งนิ่ง ๆ หากเริ่มรู้สึกไม่ดี การหลับตาและพยายามอยู่นิ่ง ๆ จะช่วยลดการรับรู้ข้อมูลที่สับสนของสมองได้
- ✅งดอ่านหนังสือและเล่นโทรศัพท์ : การจ้องมองวัตถุที่อยู่นิ่ง ๆ ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนไหว จะยิ่งกระตุ้นให้อาการเมารถกำเริบ
- ✅ตั้งศีรษะให้ตรงและนิ่ง : พยายามพิงศีรษะกับเบาะและไม่หันไปมาบ่อย ๆ เพื่อให้สัญญาณจากหูและการรับรู้การเคลื่อนไหวของร่างกายสอดคล้องกัน
- ✅อย่าสูบบุหรี่ หรือหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ : สารนิโคตินในบุหรี่มีส่วนกระตุ้นให้อาการเมารถรุนแรงขึ้นได้
- ⚠️อย่ากินอาหารอิ่มเกินไป : การกินอาหารจนอิ่มไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรง แต่หากมีอาการเมารถอยู่แล้ว อาจทำให้อาเจียนได้ง่ายขึ้น
- ⚠️ใช้ยาหอม ยาดม หรือลูกอม: การใช้ยาหอมหรือยาดมอาจเป็นเพียงการเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการ ส่วนลูกอมรสขิงหรือเปปเปอร์มินต์อาจช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้บ้าง
- ⚠️จิบ หรือดื่มน้ำอัดลม: แม้บางคนเชื่อว่าช่วยลดอาการมวนท้องได้ แต่ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน และอาจระคายเคืองกระเพาะอาหารในผู้ที่มีปัญหาอยู่แล้ว
- ⚠️กิยผลไม้รสเปรี้ยว: เช่นเดียวกับน้ำอัดลม ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดและอาจส่งผลเสียต่อผู้ที่เป็นโรคกระเพาะได้
- ✅กินยาแก้เมารถ : ควรกินยาก่อนออกเดินทางประมาณ 30 นาที เช่น ยาดรามามีน (Dramamine) ซึ่งเป็นชื่อการค้าของยาชื่อสามัญคือยาไดเมนไฮดริเนต (Dimenhydrinate) สามารถช่วยป้องกันอาการได้ดี แต่มีข้อควรระวังคืออาจทำให้ง่วงนอน จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องขับรถ
บทสรุป
การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอาการเมารถ โดยเลือกที่นั่งที่เหมาะสม พักผ่อนสายตา งดเล่นโทรศัพท์ และเตรียมยาแก้เมารถไว้ล่วงหน้า จะช่วยให้คุณเดินทางได้อย่างราบรื่นและมีความสุขตลอดทริป
ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย : พีรพล อนุตรโสตถิ์
ตรวจสอบบทความโดย : ชยานิษฐ์ ผ่องใส