จนท. แพทย์และพยาบาล รพ.พระมงกุฎเกล้า ร่วมใจกันรักษาทหารกล้าจนอาการดีขึ้น
จาก เฟซบุ๊ก ของคุณ Anantaya Kungkaew เล่าว่า เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 68 เราได้รับเคสน้องทหารที่บาดเจ็บหนักจากการสู้รบ ส่งด่วนมาจากชายแดน หลังจากทราบว่าเฮลิคอปเตอร์นำส่งกลับลงจอด เราทุกคนรีบเตรียมความพร้อมในทุกด้านอย่างรวดเร็ว ห้องผ่าตัดและอุปกรณ์ต่างๆก็พร้อมสำหรับรับเคสน้องรออยู่แล้ว (วันนั้นส่งมา 3 นาย ส่วนรับผิดชอบห้องผ่าตัด ENTมี 1 นาย)
ร่างกายน้องบอบช้ำจากเเรงระเบิดและเสียหายหลายจุด การผ่าตัดผ่านไปด้วยดีในระยะเวลา 5-6 ชั่วโมง ตอนปลุกตื่นจากยาสลบ ฉันเห็นได้ถึงความอ่อนโยนจากทุกคน
“น้องทหารค้าบ ตื่นได้แล้วครับคนเก่ง”
“ได้ยินมั้ยลูก ผ่าตัดเสร็จแล้วนะ กลับไปพักต่อ icu นะค้าบ”
สิ้นเสียงปลุกตื่น 4-5 ครั้ง น้องก็ลืมตาปรือๆ ค่อยๆให้สัญญาณถึงการรู้สึกตัว
ระหว่างนำส่งกลับ icu มีหญิงคนหนึ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาจับแขนฉัน และสอบถามอาการน้อง
พร้อมกับบอกฉันว่า "แม่ของน้องมาจากต่างจังหวัด ไม่เคยเข้ากรุงเทพเลย และไม่รู้ว่าจะไปนอนที่ไหน พอจะมีพื้นที่เล็กๆให้อยู่ไหมคะ"
ก้อนร้อนๆจุกตรงคอหอย เหมือนน้ำตาตกข้างใน
"ไม่เป็นไรนะคะคุณป้า เดี๋ยวหนูจะสอบถามความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ให้นะค้า คุณแม่ของน้องจะไม่ถูกทอดทิ้งแน่นอนค่ะ"
หลังจากส่งน้องกลับ icu เสร็จก่อนออกมา ฉันยืนข้างๆ เตียงและชูมือ 2 นิ้วให้น้อง น้องที่พูดไม่ได้เพราะกล่องเสียงน้องบาดเจ็บจากแรงระเบิด ได้แต่พยักหน้าเล็กน้อยให้ฉัน
น้ำตาคลอเบ้า เอ็นดูที่สุด
ฉันสอบถามและเเจ้งเรื่องไปที่หัวหน้าเวร icu ถึงเรื่องที่แม่ของน้องไม่มีที่อยู่ ภายหลังได้รับตอบกลับมาว่า
"ท่านผู้ใหญ่ ผอ.รพ.รร.6 ได้เตรียมที่พักและอาหารทุกมื้อทุกวัน ไว้รับรองแล้วตั้งแต่ตอนนั้น"
เห็นมั้ย น้องและครอบครัวไม่ถูกทอดทิ้งแน่ๆ
ถึงน้องอาจจะไม่แข็งแรงเหมือนเดิม
แต่อย่าได้หมดกำลังใจนะ
เพราะสิ่งที่น้องได้ทำมันยิ่งใหญ่เกินกว่าจะสรรเสริญ
น้องจะมีคุณค่าอย่างมากที่สุดทั้งตอนมีชิวิต หรือตอนลูกหลานเราในวันข้างหน้าเรียกน้องว่า "วีรชน"
ขอบคุณที่ปกป้องรักษาแผ่นดินนี้ให้ทุกคน
ตอนนี้พวกพี่จะรักษาน้องกลับคืนเช่นกัน
ที่นี่จะปลอดภัยสำหรับน้อง
ไม่มีใครมาทำร้ายน้องอีกแล้วนะคับ
ขอบคุณจากใจ