สภากทม. ถกงบปี 69 ร่ายยาว 6 ชม. ส.ก. ชี้ใช้งบซ้ำซ้อน-แอบพีอาร์ปูพรมหาเสียงล่วงหน้า ด้านชัชชาติยันไม่มีคำว่าหาเสียง แค่ทำงานให้ดีที่สุด
วานนี้ (1 สิงหาคม) การประชุมสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2569 ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ได้อภิปรายในหลากหลายประเด็น โดยใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง
อาทิ ด้านการศึกษา การจัดสรรพื้นที่สาธารณะ ศูนย์กีฬาและนันทนาการที่ทรุดโทรม โครงการจัดการขยะ ‘ไม่เทรวม’ ที่ส.ก.หลายคนสนับสนุน แต่อยากให้เพิ่มการอบรมบุคลากร และชี้ว่าจำนวนถังขยะที่จัดซื้อยังไม่เพียงพอและไม่มีการแยกประเภทถังอย่างชัดเจน
ส.ก. เขตบางกอกน้อย ยังได้ทวงถามความคืบหน้าสถานีดับเพลิงสายไหมและทวีวัฒนา และตั้งข้อสังเกตว่าการถอนโครงการสถานีทวีวัฒนาโดยไม่แจ้งเจ้าของงบถือว่าผิดขั้นตอน ส่วน ส.ก. ในพื้นที่ร่วมอภิปรายเรื่องความเหมาะสมของที่ตั้งสถานีดับเพลิงทวีวัฒนา
ด้าน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ได้ชี้แจงว่า การดำเนินโครงการสถานีดับเพลิงทวีวัฒนา มีปัญหาสื่อสารคลาดเคลื่อนระหว่างสำนักการโยธาธิการและผังเมือง กับสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อีกทั้งแบบเดิมไม่สามารถก่อสร้างได้เนื่องจากพื้นที่อยู่ในเขตเมืองและใกล้ที่อยู่อาศัย รวมถึงค่าถนนทางเข้าสูงถึง 18 ล้านบาท ทำให้ต้องถอนเรื่องเพื่อนำกลับไปทบทวน หากดำเนินการแล้วเสร็จจะเสนอแปรงบกลับเข้าแผนปีงบประมาณ 2569
นอกจากนี้ ณภัค เพ็งสุข ส.ก. เขตลาดพร้าว ตั้งข้อสังเกตว่า งบประชาสัมพันธ์ของสำนักปลัด กทม. ถูกแยกย่อยหลายโครงการจนดูเหมือนเบี้ยหัวแตก แต่เมื่อนำมารวมกันกลับมีมูลค่าสูงถึง 106 ล้านบาท ยังไม่รวมไปอยู่สำนักอื่นอีก การใช้จ่ายขาดความชัดเจน ไม่มีตัวชี้วัดผลที่แท้จริง หลายโครงการมีเนื้อหาคล้ายกัน เช่น นโยบาย 9 ด้าน 9 ดี และการสื่อสารผ่านทีวีที่ตั้งงบถึง 4.5 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อสงสัยว่าโครงการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการฟังเสียงประชาชนจริงหรือเป็นเพียงการสร้างภาพ
“ผู้ว่าฯ ของเราดูพร้อมจะเลือกตั้งที่สุดแล้ว ถ้าดูงบประมาณ ใครอยากรู้บ้างว่าผู้ว่าฯ จะลงสมัยหน้าหรือไม่ ผมคิดว่าดูงบประมาณประชาสัมพันธ์ลงแน่นอน ลงแน่ๆ”
ด้าน ชัชชาติชี้แจงว่า การสื่อสารเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาเมือง เพราะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนที่เข้าใจและเดินไปพร้อมกับนโยบายของ กทม. ยืนยันว่าเนื้อหาประชาสัมพันธ์ไม่มีเรื่องการหาเสียง และไม่มีคำว่า ‘ชัชชาติ’ อยู่ในร่างงบประมาณดังกล่าวเลย พร้อมย้ำว่า การหาเสียงที่ดีที่สุดคือการทำงานให้ดีที่สุด ไม่ใช่การโปรโมตตนเอง
ขณะที่ ส.ก. เขตตลิ่งชัน ตั้งข้อสังเกตถึงงบสำนักการจราจรและขนส่งกว่า 992 ล้านบาท โดยเฉพาะค่าบำรุงกล้อง CCTV กว่า 223 ล้านบาทว่า และความผิดปกติในงบซื้อคอมพิวเตอร์และม้านั่ง 24 ตัว
วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ลุกขึ้นชี้แจงว่า กล้อง CCTV มีทั้ง กล้องจราจรและกล้องรักษาความปลอดภัย ซึ่งค่าบำรุงรักษาขึ้นอยู่กับจำนวนกล้องและอุปกรณ์ และค่าเจ้าหน้าที่ การซื้อกล้องใหม่จะมีความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า แต่การเปลี่ยนทั้งหมดใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงต้องทยอยเปลี่ยนตามงบที่ได้รับ
ภายหลังจากที่มีการอภิปรายยาวนานกว่า 6 ชั่วโมง ประธานที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม และให้มีการพิจารณาต่อในวันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม เวลา 10.00 น.