กรมพัฒน์ฯ จับมือ ราชทัณฑ์ ปั้นผู้ทดสอบฯ ช่างไฟฟ้า สร้างอาชีพให้ผู้ก้าวพลาด
2 สิงหาคม 2568 นายชาญ วชิรเดช รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กระทรวงยุติธรรมมีนโยบายสำคัญที่มุ่งเน้น "ความยุติธรรมสำหรับทุกคน" โดยให้ความสำคัญกับการเปิดโอกาสให้ผู้กระทำผิดสามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณค่าผ่านการพัฒนาพฤตินิสัย ส่งเสริมการศึกษา และฝึกวิชาชีพ สอดคล้องอย่างยิ่งกับการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานภายในเรือนจำ จึงได้ร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี จัดโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม – 1 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี เพื่อดำเนินการในการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน สาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ 1 ในเรือนจำ ควบคู่ไปกับการยกระดับศักยภาพเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ให้เป็นทุนมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถทำหน้าที่เป็น "ผู้ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน" ได้อย่างถูกต้องโดยเริ่มจากสาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ 1 ซึ่งเป็นสาขาที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นสาขานำร่อง
นายประยงค์ บุญช่วย กล่าวเสริมว่า ในนามของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนสนับสนุนในการยกระดับการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานภายในเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ รวมถึงพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ให้เป็นผู้ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน
ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ได้จัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานภายในเรือนจำ ทั้งสิ้น 11 แห่ง ใน 10 สาขาอาชีพ การดำเนินการในครั้งนี้ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี ได้ให้การสนับสนุนแนวทางการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ และการฝึกอบรมบุคลากรของกรมราชทัณฑ์ให้เป็นผู้ทดสอบ
เริ่มต้นนำร่องในสาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ 1 จำนวน 30 คน จากเรือนจำ/ทัณฑสถาน ทั้ง 10 เขต ซึ่งเป็นผู้ที่มีวุฒิการศึกษาเกี่ยวกับช่างไฟฟ้า ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงขึ้นไป สำหรับสาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคาร ระดับ 1 ถือเป็นสาขาที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน และเจ้าหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ก็มีคุณสมบัติและศักยภาพที่เหมาะสมที่จะสามารถพัฒนาเป็นผู้ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความก้าวหน้าในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยกระดับบุคลากรของกรมราชทัณฑ์แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อผู้ก้าวพลาด ซึ่งจะได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ มีใบรับรองมาตรฐานฝีมือแรงงานที่เป็นที่ยอมรับ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้จริงภายหลังพ้นโทษ มีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพของตนเองและครอบครัวและที่สำคัญคือช่วยลดโอกาสในการหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ