‘แฟนไม่อยู่ หนูร่าเริง’ คำแซวจากเพื่อนของแฟนที่บางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องตลกในความสัมพันธ์ เมื่อมุกที่คนพูดแค่ขำๆ อาจทำให้เกิดรอยร้าวในใจคน
หลายคนอาจเคยได้ยินคำพูดหยอกล้อทำนองว่า “แฟนไม่อยู่ หนูร่าเริง” หรือ “เป็นอิสระแล้ว” จากเพื่อนของแฟน ซึ่งมักกล่าวแซวในสถานการณ์ที่คู่รักไม่ได้อยู่ด้วยกัน ณ เวลานั้น เช่น ฝ่ายหนึ่งเดินทางไกล และไม่ได้อยู่บ้านหลายวัน หรือเมื่อทั้งคู่ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันในสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ผับบาร์ หรือต่างจังหวัด เป็นต้น หรือแม้กระทั่งเมื่อฝ่ายชายแสดงความรักกับแฟนของตน เหล่าเพื่อนๆ ก็อาจจะเล่นมุกในเชิงนอกใจโดยไม่คิดมาก
เมื่อไม่นานมานี้ ‘โบว์ - เมลดา สุศรี’ เพิ่งเดินทางไปเรียนต่อที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ แฟนหนุ่มอย่าง ‘อาเล็ก - ธีรเดช เมธาวรายุทธ’ จึงโพสต์รูปภาพคู่ พร้อมแคปชันว่า “คิดถึงแย่เลย ไอหัวฟู” เพราะทั้งสองต้องอยู่ห่างกันถึง 2 เดือน หลังจากนั้น ‘บอย - ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์’ ได้คอมเมนต์ในโพสต์นั้นว่า “คิดถึงจิงมั้ยนะ หรือว่าจะร่าเริง” ซึ่งกรณีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจน ว่าหลายคนยังเห็นมุกทำนองนี้เป็นเรื่องปกติที่ใช้เล่นกันได้ในหมู่เพื่อน
แต่ขณะเดียวกัน คำพูดล้อเล่นสำหรับบางคน อาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับอีกคน โดยเฉพาะเมื่อสิ่งที่นำมาล้อเล่นนั้นเป็นประเด็นที่อ่อนไหวอย่าง ‘การนอกใจ’ ดังกรณีข้างต้น บางคนอาจจะมองว่า “พวกเขาเป็นเพื่อนกัน แค่ปั่นกันเล่นๆ” แม้ผู้พูดจะไม่ได้มีเจตนาไม่ดี หรือเพียงต้องการเล่นมุกตลกขบขันกับเพื่อนของตนเอง แต่อย่าลืมว่า คนรอบข้างก็เป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตคู่ โดยคำพูดเช่นนี้อาจสร้างปัญหาในความสัมพันธ์ และกระทบต่อความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวอีกฝ่ายได้เช่นกัน เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘การนอกใจ’ นับเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ที่สุด ในความสัมพันธ์หลายๆ คู่
และเมื่อ ‘การนอกใจ’ ถูกนำมาเป็นเรื่องตลกขบขัน อาจส่งผลด้านลบต่อความสัมพันธ์นั้นๆ ได้มากกว่าที่คิด อันดับแรกคืออาจทำให้คนที่อยู่ในความสัมพันธ์นั้นจริงๆ รู้สึกไม่สบายใจ เคลือบแคลง สงสัย ไปจนถึงขั้นรู้สึกระแวงคนรัก โดยอาจตั้งคำถามต่อเหตุการณ์นั้นว่า ทำไมเพื่อนของแฟนจึงต้องพูดเช่นนี้ แฟนไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า หรือแฟนรู้สึกไม่ดีที่คบกับเราไหม?
ในทางกลับกัน ต่อให้ฝ่ายคนรักจะเชื่อใจแฟนมาก และไม่ได้เจ็บปวดกับคำพูดนั้น แต่ก็อาจจะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจต่อตัวผู้พูดซึ่งเป็นเพื่อนของแฟนก็ได้ ทำให้คนกลางต้องตกที่นั่งลำบาก เมื่อแฟนและเพื่อนไม่ลงรอยกัน สุดท้าย การจะคบหากับแฟนต่อ ไปพร้อมกับการคบหากับเพื่อนคนนั้นก็อาจจะยากลำบากขึ้น เช่น แฟนไม่อยากให้ไปสุงสิงกับเพื่อนที่มีทัศนคติแบบนั้น หรือเพื่อนไม่เข้าใจว่า ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่พอใจกับการแซวกันขำๆ ทำให้บรรยากาศระหว่างทั้งสองฝ่ายย่ำแย่ลง
ขณะที่ฝ่ายซึ่งเป็นคนกลางเองก็อาจจะไม่ได้รู้สึกโอเคกับคำพูดดังกล่าว เพราะแม้คำพูดนั้นจะเป็นเพียงการหยอกล้อ แต่มันคือการกล่าวถึงตัวเขาโดยตรงว่า เขาอาจมีนิสัยเจ้าชู้หรือเข้าข่ายการนอกใจ ถ้าหากเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น และห่วงใยความรู้สึกของแฟน คำพูดทำนองนี้ก็อาจทำให้เขารู้สึกถูกใส่ความได้เช่นเดียวกัน เพราะมันเปรียบเสมือน ‘ปัญหา’ ที่เขาไม่ได้ก่อ แต่กลับต้องรับผิดชอบ
อย่างไรก็ตาม อาจจะมีข้อถกเถียงว่า “ถ้ารักกันจริงก็ต้องเชื่อใจกันมากพอหรือเปล่า?” หรือ “ทำไมต้องอ่อนไหวไปตามคำพูดของคนนอกด้วย?” แต่จริงๆ แล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับว่า ความรักความสัมพันธ์นั้นจะเปราะบางหรือแข็งแกร่งแค่ไหน แต่ประเด็นสำคัญคือ ‘การให้เกียรติเพื่อนและคนรักของเขา’ เพราะการเล่นมุกด้วยคำพูดหรือท่าทีที่เชื่อมโยงถึงการนอกใจ อาจสะท้อนถึงการคิดพิจารณาที่ไม่ถ้วนถี่พอ และอาจกลายเป็นการล้ำเส้นขอบเขตความสัมพันธ์ของผู้อื่นไปโดยปริยาย
อ้างอิง
https://www.instagram.com/p/DL9Od5KvwdY/
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ‘แฟนไม่อยู่ หนูร่าเริง’ คำแซวจากเพื่อนของแฟนที่บางครั้งอาจไม่ใช่เรื่องตลกในความสัมพันธ์ เมื่อมุกที่คนพูดแค่ขำๆ อาจทำให้เกิดรอยร้าวในใจคน
- อาจต้องไม่ลืมว่า ‘เจ๊หงส์’ เป็นอาชญากรแอบถ่าย ไม่ใช่เพียง ‘ไอดอล’ ด้านการกินผู้ชายหล่อและเหล่าหนุ่มตี๋ที่บางคนขอวาร์ปก็ล้วนเป็น ‘เหยื่อ’ ได้เช่นเดียวกับเพศอื่นๆ
- Barbie ออกตุ๊กตาตัวแรกที่เป็น ‘เบาหวานชนิดที่ 1’ คอมพลีตลุคด้วยเครื่องอินซูลินปั๊ม เพื่อยืนเคียงข้างเด็กๆ ที่ป่วยกว่า 1.1 ล้านคนทั่วโลก
ตามบทความก่อนใครได้ที่
- Website : Mirror Thailand.com