โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ดร.ณัฏฐ์ ชี้ศาลไม่รับฟ้องซ้ำ โอกาสที่ดินเขากระโดงกลับเป็นที่หลวง แทบเป็นศูนย์!

ไทยโพสต์

อัพเดต 14 กรกฎาคม 2568 เวลา 23.13 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นักกฎหมายมหาชนชี้คำสั่งศาลปกครองกลางไม่รับคำขอเพิกถอนเอกสารสิทธิซ้ำซ้อนในคดี “เขากระโดง” ทำโอกาสกลับมาเป็นที่ดินของหลวงริบหรี่ เว้นเปลี่ยนทีมสอบสวน-อธิบดีกรมที่ดิน

14 กรกฎาคม 2568 - สืบเนื่องจากศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 ลงวันที่ 27 พ.ค.2568 ซึ่งเป็นคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้อง กรมที่ดินกับพวกรวม 3 ราย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-3) ในคดีพิพาทเกี่ยวกับที่ดินบริเวณแยกเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ 5,083 ไร่ โดยศาลปกครองกลางไม่รับคำขอท้ายฟ้องเพราะเหตุฟ้องซ้ำในประเด็น ข้อ 3 “คําขอให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้กรมที่ดินและอธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ออกโดยไม่ชอบ ซึ่งเป็นการคลาดเคลื่อนไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้งหมดในพื้นที่ของ รฟท. ภายใน 60 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด หรือภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควร” และคำขอ ข้อ 4 “ให้ศาลมีคําพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง” ศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุแห่งการฟ้องคดี และคําขอบังคับ ในลักษณะเดียวกันกับประเด็นที่ศาลได้มีคําพิพากษาถึงที่สุดไปแล้ว ในคดีศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 มาฟ้องเป็นคดีนี้อีก นั้น

ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ “ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม” นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า มีหลายฝ่ายสอบถามกันมาเยอะในปมที่ดินเขากระโดง ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ฟ้อง กรมที่ดิน อธิบดีกรมที่ดินและบุคคลที่เกี่ยวข้องต่อศาลปกครองกลาง เป็นคดีใหม่ ประกอบกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจทบทวนคำสั่งทางปกครองที่ดินเขากระโดงใหม่ มีโอกาสที่ดินกลับมาเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือเป็นที่ดินของหลวงหรือไม่ ต้องทำความเข้าใจหลักก่อนว่า ที่ดินเป็นของหลวง แม้เอกชนครอบครองเป็นร้อยปีหรือออกเอกสารสิทธิ์ไม่ชอบทับที่ดินหลวง กรรมสิทธิ์ในที่ดินไม่อาจเปลี่ยนแปลงเป็นของเอกชนได้

หากพิจารณาข้อพิพาทระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยกับกรมที่ดิน ต้องยึดหลักกฎหมาย เพราะมีที่ดินหลายแปลงบริเวณตำบลอิสาณและตำบลเสม็ด (เขากระโดง) อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ศาลฎีกาเคยมีพิพากษาว่า กรมที่ดินออกเอกสารสิทธิ์ทับเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย แต่การอธิบดีกรมที่ดิน ใช้อำนาจทางปกครอง ตามคำสั่งศาลปกครอง ตั้งกรรมการสอบสวน มาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ดุลพินิจและมติดังกล่าว เป็นคำสั่งทางปกครอง การรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหน่วยงานราชการด้วยกัน จึงเป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกัน

ในคดีหมายเลขดำที่ 395/2568 หากพิจารณาจาก “คำขอท้ายฟ้อง” จำนวน 4 ข้อ ศาลได้มีคำสั่งไม่รับคำขอท้ายฟ้องในข้อ 3 และ ข้อ 4 เพราะเป็นฟ้องซ้ำ การรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่อาจฟ้องซ้ำในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยไปแล้วใหม่ได้อีก มีผลกระทบต่อโดยตรง ต่อการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ของกรมที่ดิน เพราะโอกาสที่กรมที่ดินจะเพิกถอน จะต้องรอผลคดีของศาลปกครอง โดยคำขอที่ศาลปกครองกลางรับมีเพียงประเด็น ว่า อธิบดีกรมที่ดินสั่งยุติการสอบสวนที่ดินและมติยกอุทธรณ์ของกรมที่ดินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เพราะหากฟังได้ว่า กระทำโดยชอบและถูกขั้นตอนตามประมวลกฎหมายที่ดิน ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนและคำสั่งของปกครองในคดีศาลปกครองกลาง หมายเลขดำที่ 2494/2564 หมายเลขแดงที่ 582/2566 ชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนคำขอให้เพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ออกในที่ดินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 995 ฉบับ ที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ออกโดยไม่ชอบและคำขอเพิกถอนหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง ย่อมตกไป ทำให้โอกาสที่กรมที่ดินจะเพิกถอนที่ดินเขากระโดงจำนวน 5,083 ไร่ ให้กลับเป็นทีดินของหลวง ทำให้มีโอกาสน้อยหรือแทบไม่มี

เพราะคำขอที่ศาลปกครองกลางรับไว้พิจารณา หากอธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามประมวลกฎหมายที่ดินและระเบียบโดยชอบ จึงฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า “โอกาสชนะคดีแทบไม่มี”

เหตุที่เป็นเช่นนี้ แม้ข้อเท็จจริงทั่วไปรับฟังได้ว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดง ปัจจุบัน ตั้งอยู่ตำบลอิสาณและตำบลเสม็ด เป็นที่ดินของการรถไฟ

แต่จุดอ่อนของคดี เป็นเรื่องกำหนดเขตของการสร้างทางรถไฟ ว่า มีขอบเขตความกว้างยาวและขนาดพื้นที่เท่าใด ย่อมเป็นข้อยกต่อสู้ของภาคเอกชนว่า ไม่ได้บุกรุกที่ดินของการรถไฟ

ทั้งในการจัดทำ “ระวางแผนที่” ศาลฎีกาเคย นำแผนที่พิพาทที่การรถไฟแห่งประเทไทย ได้จัดทำขึ้นในปี 2539 เป็นแผนที่พิพาทในคดี โดยพิพากษาว่า ที่ดินเอกชนครอบครองอยู่บุกรุกและเป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงพิพากษาขับไล่เอกชน

ส่วนในคำพิพากษาศาลปกครองกลางในคดีหมายเลขแดงที่ 582/2566 มีความไม่ชัดเจนของแผนที่และฝ่ายกรมที่ดินโต้แย้งว่า พรฎ.ว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นเพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้การรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2465 “ไม่ปรากฏแผนที่ดินที่จัดซื้อแนบท้าย”

ศาลปกครองจึงมีคำสั่งให้อธิบดีกรมที่ดินจัดทำแผนที่ใหม่ จึงทำให้เกิดช่องว่าง ที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง โดยมีธงล่วงหน้า “ใช้ดุลพินิจ”ในการตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดิน ตาม ป.ที่ดิน มาตรา 61 “ผลมติ” ทำให้เกิดความบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้เกิดคำสั่งทางปกครอง เป็นการดื้อแพ่งของอธิบดีกรมที่ดิน ก่อให้เกิดสร้างข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐขึ้นใหม่

อาจพูดได้ว่า “ไม่รักษาผลประโยชน์ของแผ่นดิน”

อีกเหตุผลหนึ่ง เพราะการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนแนวเขตที่ดินของอธิบดีกรมที่ดิน ตามคำพิพากษาศาลปกครอง โดยใช้ช่องมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้เกิด กระบวนการ “แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคนในพื้นที่”

ผลมติ กรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดงตามคำสั่งแต่งตั้งของอธิบดีกรมที่ดิน ไม่เพิกถอนที่ดินเขากระโดงทั้งหมด อ้างว่า แนวเขตที่ดินการรถไฟไม่ชัดแจ้ง โดยอ้างว่า พรฎ.จัดซื้อที่ดิน ไม่มีแผนที่แนบท้ายและไม่ยึดถือแนวเขตแผนที่ดินของการรถไฟที่จัดทำขึ้นในภายหลังปี 2539

ทำให้เกิดคำสั่งทางปกครองใหม่อีกครั้ง

แต่การที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งไม่รับคำขอท้ายฟ้องในข้อสาระสำคัญในการเพิกถอนเอกสารสิทธิ

จำนวน 995 ฉบับ และเอกสารสิทธิที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ตามแผนที่แสดงเขตร์ที่ดินของกรมรถไฟ ตอนแยกไปยังที่ย่อยศิลา ต.เขากระโดง จ.บุรีรัมย์ กิโลเมตร 375+650 ตามระวางที่ดิน 4638 IV 3452-00 ถึง 4638 IV 3454-00 บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ นอกเหนือจากหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินทั้ง 995 ฉบับ ที่ออกทับที่ดินของ รฟท. ในบริเวณทางแยกเขากระโดง

ทำให้เหลือประเด็นที่ศาลปกครองกลางจะวินิจฉัยเพียง “คำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2) ตามหนังสือกรมที่ดิน ที่ มท 0561.2(2)/22162 ลงวันที่ 21 ต.ค.2567 ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวน การออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ และ “เพิกถอนคําวินิจฉัยอุทธรณ์ของอธิบดีกรมที่ดิน (อธิบดีกรมที่ดิน) และปลัดกระทรวงมหาดไทย (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3) ซึ่งได้มีคําวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ กรณี รฟท.ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ที่มีคำสั่งให้ยุติเรื่องการสอบสวนการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโดยคลาดเคลื่อนในเขตที่ดินของ รฟท. บริเวณทางแยกเขากระโดง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์”

พูดภาษาชาวบ้าน เหลือประเด็นเพิกถอน คำสั่งยุติการสอบสวนของอธิบดีกรมที่ดิน และมติคำอุทธรณ์ให้ยกอุทธรณ์ของการรถไฟฯ ซึ่งถือว่าเป็นประเด็นเดียวกัน

การที่ศาลปกครองยกคำขอท้ายฟ้อง ข้อ 3 และ ข้อ 4 และไม่รับไว้พิจารณาในประเด็นข้อพิพาท มีผลกระทบต่อ การเพิกถอนที่ดินของกรมที่ดินทั้งหมด 5,083 ไร่ให้เป็นที่ดินของหลวง

ซึ่งแนวโน้มผลคดี โอกาสที่ดินเขากระโดงกลับเป็นของที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือของหลวง โอกาสเป็นไปได้น้อยมาก

เพราะการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง หากได้ปฏิบัติตามกระบวนการที่ถูกต้องตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินชอบด้วยกฎหมาย ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งศาลปกครอง โดยการใช้อำนาจของอธิบดีกรมที่ดินในการออกคำสั่งทางปกครองมีผลชอบด้วยกฎหมาย มติดังกล่าวในทางกฎหมายและศาลปกครองย่อมเพิกถอนไม่ได้

“เป็นมวยล้มต้มคนดู”

แม้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ออกอาการฮึดฮัดขึงขัง สั่งให้นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดินให้ รายงานผลภายใน 7 วันนับแต่วันนี้ เหตุใดไม่ปฏิบัติเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลปกครองและศาลฎีกา

โดยหลักแล้ว นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ย่อมยืนยันข้อเท็จจริงเดิม อ้างเอาตัวรอดว่า ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย คดียังไม่สิ้นสุดเพราะอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลปกครอง

แต่เจตจำนงแท้จริงฝ่ายการเมือง เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนอำนาจในกระทรวง เป้าหมายหลัก เพื่อต้องการเปลี่ยนตัวอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ เหมือนกับอธิบดีกรมการปกครองและอธิบดีกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นเพราะมีผลแพ้ชนะเลือกตั้ง สส.ในสมัยหน้า

ช่องทางแก้เกม หาก มติคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง ชุดที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดินแต่งตั้งก่อนนี้ ใช้ดุลพินิจและแต่งตั้งกรรมการที่ขาดความเป็นกลาง ย่อมขัดต่อ”หลักความเป็นกลาง”และ “หลักมีส่วนได้เสีย” ย่อมต้องห้ามตามมาตรา 13 และมีสภาพร้ายแรง อันทำให้การพิจารณาทางปกครองไม่เป็นกลาง เจ้าหน้าที่หรือกรรมการจะพิจารณาในเรื่องนั้นไม่ได้ ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539

เท่ากับ กระบวนการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่ดินเขากระโดง ชุดที่นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดินแต่งตั้ง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้การออกคำสั่งทางปกครองย่อมเสียไป

ย่อมมีผลล้มล้างคำสั่งทางปกครองเดิมที่ออกคำสั่งทางปกครองไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ทางแก้ รมว.มหาดไทยจะต้องใช้อำนาจโยกย้ายอธิบดีกรมที่ดินคนเดิม และแต่งตั้งอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่ เพื่อใช้อำนาจในการยกเลิกคณะกรรมการสอบสวนชุดเดิมและแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหม่เพื่อดำเนินการทบทวนคำสั่งทางปกครองที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและออกคำสั่งใหม่เพื่อให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลปกครองเดิมและคำพิพากษาของศาลฎีกา.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

อดีตแม่ยก ปชป.-ลุงสุทิน อัดโฆษกเพื่อไทยหน้าหงาย ยันรัฐบาลชวนไม่เคยปรึกษาทักษิณ

25 นาทีที่แล้ว

‘อนุทิน’ ลั่นไม่ใช่ขี้ข้า ‘คนขายชาติ-คนโกง’ ชี้แก้ปัญหาชายแดนต้องเปลี่ยนรัฐบาล

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทรัมป์แย้มแถลงการณ์สำคัญเกี่ยวกับรัสเซีย ก่อนเข้าสู่การเจรจานาโต

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘วิทัย รัตนากร’ ผู้ผลิกบทบาทธนาคารออมสิน กับความสำเร็จ5ปีในการสร้าง Social Impact ช่วยคนไทย 13 ล้านชีวิตได้ไปต่อ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

อดีตแม่ยก ปชป.-ลุงสุทิน อัดโฆษกเพื่อไทยหน้าหงาย ยันรัฐบาลชวนไม่เคยปรึกษาทักษิณ

ไทยโพสต์

“อิ๊งค์” เดินหน้าอุดหนุนวงการบันเทิงไทยขับเคลื่อน ศก.

THE ROOM 44 CHANNEL

ฝนเท ไม่ท้อ รอรำลึก 1 ปี 2 เดือน บุ้ง เทียบมาตรฐานทักษิณ ทวงนิรโทษปชช.

MATICHON ONLINE

‘อิ๊งค์’ เดินหน้าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ชูมาตรการจูงใจภาษี-คืนเงืน

เดลินิวส์

กกต.สรุปวันแรก เพื่อไทย-ภูมิใจไทยส่ง 2 ผู้สมัครชิงเก้าอี้ สส.เขต 5 ศรีสะเกษ

เดลินิวส์

'อนุทิน' เมิน'ทักษิณ'ไม่เกิดประโยชน์ 'นายกฯ' อยากร่วมรัฐบาลแต่ไม่มั่นใจพ่อ

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม