ไม่หมดหวัง! ลุ้นภาษีทรัมป์ต่ำกว่า 36% "กอบศักดิ์" หวังทีมเจรจาดีลจบอย่างน้อย 25%
"ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล" ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL) โพสต์ในเฟสบุ๊กส่วนตัวระบุว่า ยังเป็นไปได้ที่จะต่ำกว่า 36% หลังผ่านมา 1 สัปดาห์ เราเริ่มเห็นกรอบการค้าใหม่ของสหรัฐ!!!
New Trade Landscape ที่อยู่ในใจของท่าน President Trump ซึ่งให้ข่าวและทยอยส่งจดหมายแจ้งอัตรา Tariffs รวมแล้ว 27 ประเทศครบเกือบหมด โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่สหรัฐขาดดุลการค้ามากมากด้วย
โดย จีน (ที่ไม่อยู่ในตาราง) มีข้อตกลงเบื้องต้นไว้ที่ 30% (20% สำหรับ Fentanyl บวก 10% Minimum) สำหรับสินค้าจีนที่มีราคาต่ำกว่า $800 โดนที่ 54% จะขาดอยู่ก็เพียงไต้หวัน ตลอดจนอินเดียที่ยังเจรจาโค้งสุดท้ายกันอยู่
ส่วนประเทศอื่นๆ รวมกว่า 100 ประเทศ (รวมถึงสิงคโปร์ และประเทศอื่นๆ ที่สหรัฐเกินดุลการค้าด้วย) เดิมได้อัตราต่ำสุดกันที่ 10% แต่ล่าสุดท่าน President Trump พูดว่า กำลังตัดสินใจว่าจะจบที่ 15% หรือ 20% ดี
ซึ่งอีกสักพัก หลังการตอบโต้กลับไปมาจบลง (โดยเฉพาะกรณีของยุโรป) บวกกับภาษีที่คิดเพิ่มกับคน "เข้าร่วม" BRICS อีก 10% ตามที่เคยได้เกริ่นไว้ เราก็จะได้เห็นคร่าวๆ ถึง New Trade Landscape ของสหรัฐว่า
ใครจะได้เปรียบ
ใครจะเสียเปรียบ
ใครจะแข่งขันได้ดีขึ้น
ใครจะไม่สามารถแข่งขันได้ในตลาดสหรัฐ
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าสังเกตในตาราง ก็คือ
1. อัตราที่ออกมาสำหรับประเทศต่างๆ เป็นอัตราง่ายๆ
เป็นไปตามดำริของท่านประธานาธิบดีที่เคยพูดไว้ว่าอยากให้จบที่ 10% 15% 20% 25% 30% 35% 40% 45% 50% ไม่ต้องวุ่นวายเหมือนตอนวันที่ 2 เมษายน Liberation Day ที่ผ่านมาที่คำนวณมาจากสูตร ทำให้มีอัตรามากมายหลายระดับ
ดังนั้น อัตรา Tariffs ของหลายๆประเทศจึงถูกปรับลดปรับขึ้นปัดให้เข้ากรอบ
อย่างเช่น
- ฟิลิปปินส์ ปัดขึ้น +3% มาที่ 20% เป็นต้น
- มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, บูรไน ปัดขึ้น +1% มาที่ 25%
- คาซักสถาน ปัดลง -2%
- ตูนีเซีย ปัดลง -3% มาที่ 25%
ประเทศเหล่านี้คงเป็นไปตามที่ President Trump บอกไว้ว่าอยู่ในกลุ่ม "Others, we met with and we don't think we're going to make a deal. So, we just send them a letter."
แจ้งตัวเลขง่ายๆไปว่าสหรัฐจะให้เท่านี้ทั้งหมดนี้ มีข้อยกเว้นก็เพียง 3 ประเทศ
- กัมพูชาที่ 36%
- ไทยที่ 36%
- อินโดนีเซียที่ 32%
ที่ยังไม่ได้เข้ากรอบง่ายๆที่มีอยู่ในใจของท่าน President Trump
2. จากตัวเลขที่ออกมา 27 ประเทศมีอยู่เพียง 6 ประเทศที่อัตราเท่าเดิม
อังกฤษ 10% เกาหลีใต้ 25% แอฟริกาใต้ 30% อัลจีเรีย 30% อินโดนีเซีย 32% ไทย 36%
ในกลุ่มนี้ "อังกฤษ" ได้เจรจาแล้วน่าจะจบ ส่วน "แอฟริกาใต้" มีข้อขัดแย้งมากหลายๆอย่างกับสหรัฐก็คงจะจบแล้วเช่นกัน สำหรับ"อัลจีเรีย" สหรัฐส่งออกไปที่ประเทศนี้ 1 พันล้านดอลลาร์ นำเข้า 2.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเล็กน้อยมากคงจบตรงนี้
เหลือเพียง "เกาหลีใต้" ที่พยายามเจรจาอยู่ที่คิดว่าจะพยายามให้ทัน 1 สิงหาคม ส่วน "ไทยและอินโดนีเซีย" พยายามเจรจาอยู่เช่นกัน
ทั้งนี้ หากดูประกอบกับข้อ 1 การที่สหรัฐไม่ได้ปัดตัวเลขเข้ากรอบส่งตัวเลข 32% และ 36% เท่าเดิมมาให้ ถ้าตีความให้ดีสุดอาจหมายความว่า
"ยังรออยู่"
"ขอดูข้อเสนออีกรอบ"
"ขอดูว่าจะมีข้อเสนอที่ดีกว่ารอบที่แล้วไหม"
"จะมี Good Deal กว่านี้ให้ไหม"
จะได้แจ้งให้ทราบอีกครั้งว่าสุดท้ายแล้วจะจบอยู่ที่ตรงไหนในกรอบง่ายๆของสหรัฐ
"ขอเป็นกำลังใจให้กับทีมเจรจาให้พยายามจบให้ได้ที่อย่างน้อย 25% แล้วพรุ่งนี้จะมาวิเคราะห์เพิ่มว่า ทางออกของไทยคืออะไร และอยากให้เลือกทางไหน"