ความจำมือถือเต็ม ทำเครื่องช้าจริงหรือไม่?
ทุกวันนี้มือถือกับความจำเป็นไม้เบื่อไม้เมาพอสมควร ต้องบอกว่ามือถือทุกวันนี้มีเทคโนโลยี แต่ความจำยังคงเท่าเดิม หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วถ้าความจำกำลังจะเต็มมันมีผลทำให้มือถือของเราช้าลงจริงไหม วันนี้ Sanook Hitech มีคำตอบนี้กันครับ
ความจำมือถือเต็มทำให้มือถือช้าจริงไหม
คำตอบคือ"จริงครับ" และเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้มือถือทำงานช้าลงอย่างเห็นได้ชัดอย่างมาก เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น ต้องแยก "ความจำ" ในมือถือออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เมื่อเหลือน้อยจะส่งผลให้เครื่องช้าได้ทั้งคู่ แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันได้แก่
1. พื้นที่เก็บข้อมูล (Storage / ROM) เต็ม
นี่คือ "ความจำ" ที่เราคุ้นเคยกันที่สุด ใช้สำหรับเก็บข้อมูลถาวร เช่น แอปพลิเคชัน, รูปภาพ, วิดีโอ, ไฟล์ต่างๆ และระบบปฏิบัติการ (iOS/Android)
ทำไมเมื่อ Storage เต็มแล้วเครื่องถึงช้า?
- OS ไม่มีที่ "หายใจ": ระบบปฏิบัติการจำเป็นต้องมีพื้นที่ว่าง (Free Space) เพื่อใช้เป็น "พื้นที่ทำงานชั่วคราว" สำหรับสร้างไฟล์แคช (Cache), จัดการข้อมูล, และสลับการทำงานของแอปต่างๆ เมื่อพื้นที่นี้เหลือน้อยมาก (ต่ำกว่า 10-15%) ระบบจะทำงานติดขัดและช้าลงอย่างมาก
- เขียนข้อมูลใหม่ได้ช้าลง: เทคโนโลยีหน่วยความจำในมือถือ (Flash Storage) จะทำงานได้เร็วที่สุดเมื่อมีบล็อกข้อมูลว่างๆ ให้เขียน แต่เมื่อความจำใกล้เต็ม การจะเขียนข้อมูลใหม่ลงไป จะต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อนกว่า คือ อ่าน -> ลบของเก่า -> แล้วค่อยเขียนของใหม่ ซึ่งช้ากว่าการเขียนลงในที่ว่างๆ หลายเท่าตัว ทำให้การเปิดแอป, ถ่ายรูป, หรือบันทึกไฟล์รู้สึกหน่วงไปหมด
- แอปสร้าง Cache ไม่ได้: แอปต่างๆ จะสร้างไฟล์ Cache เพื่อให้เรียกใช้งานครั้งต่อไปได้เร็วขึ้น เมื่อไม่มีที่ให้สร้าง Cache ทุกครั้งที่คุณเปิดแอป มันก็ต้องเริ่มโหลดข้อมูลใหม่ทั้งหมด ทำให้ช้าลง
- อัปเดตระบบและแอปไม่ได้: ทำให้คุณพลาดการอัปเดตที่อาจมีการปรับปรุงประสิทธิภาพและแก้ไขข้อผิดพลาดต่างๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องช้าหรือรวนได้
เหมือนกับโต๊ะทำงานของคุณ: ถ้าบนโต๊ะรกไปหมดด้วยเอกสารและของต่างๆ การจะหาของหรือเริ่มทำงานชิ้นใหม่ก็ย่อมทำได้ช้าและลำบากกว่าโต๊ะโล่งๆ ที่มีพื้นที่ให้วางของได้สบายๆ
2. หน่วยความจำแรม (RAM) ไม่เพียงพอ
RAM (Random Access Memory) คือหน่วยความจำ "ชั่วคราว" ที่มีความเร็วสูงมาก ใช้สำหรับพักข้อมูลของแอปและระบบที่กำลัง "เปิดใช้งานอยู่" ในขณะนั้น ยิ่งมี RAM เยอะ ก็ยิ่งเปิดหลายแอปสลับไปมาได้โดยที่แอปไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง
ทำไมเมื่อ RAM ไม่พอแล้วเครื่องถึงช้า?
- แอปต้องรีโหลดบ่อย: เมื่อคุณเปิดแอปใหม่ แต่ RAM ไม่พอ ระบบจะบังคับปิดแอปเก่าที่คุณไม่ได้ใช้ไปชั่วขณะเพื่อเอา RAM มาให้แอปใหม่ใช้ พอคุณสลับกลับไปที่แอปเก่าอีกครั้ง แอปนั้นก็ต้องเริ่มโหลดตัวเองใหม่ทั้งหมด (สังเกตได้จากหน้าจอเริ่มต้นของแอปจะเด้งขึ้นมาใหม่) ทำให้การสลับแอปไม่ลื่นไหลและเสียเวลา
- การทำงานเบื้องหลังติดขัด: แม้คุณจะใช้แอปเดียว แต่เบื้องหลังมีระบบหลายอย่างที่ทำงานอยู่ตลอดเวลา เมื่อ RAM ไม่พอ ระบบโดยรวมก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เกิดอาการหน่วง กระตุก หรือค้างได้
- อาการค้างเฉพาะจุด: เช่น แป้นพิมพ์ดีเลย์, กดแล้วไม่ไปทันที, หรือแอนิเมชันตอนเปิด/ปิดแอปกระตุก ก็มักมีสาเหตุมาจาก RAM ไม่เพียงพอในขณะนั้น
เหมือนกับขนาดของโต๊ะทำงาน: ถ้าโต๊ะทำงาน (RAM) ของคุณมีขนาดเล็ก คุณจะวางงานได้ทีละชิ้นสองชิ้น พอจะทำอีกงาน ก็ต้องเก็บงานเก่าเข้าลิ้นชักก่อน แล้วค่อยหยิบงานใหม่ออกมา ซึ่งเสียเวลามากกว่าคนที่มีโต๊ะทำงานใหญ่ๆ ที่วางทุกอย่างพร้อมทำงานได้ทันที
วิธีแก้ไขเบื้องต้น ทำได้อย่างไร?เมื่อ Storage (พื้นที่เก็บข้อมูล) เต็ม
- ล้างไฟล์ขยะ (Clear Cache): เข้าไปที่ การตั้งค่า > แอปพลิเคชัน แล้วเลือกล้างแคชของแอปที่ใช้บ่อยๆ เช่น Facebook, LINE, Chrome, TikTok
- ลบแอปที่ไม่ใช้งาน: สำรวจมือถือของคุณและลบแอปพลิเคชันที่ไม่ได้เปิดใช้นานแล้วออกไป
- จัดการรูปและวิดีโอ: ย้ายไฟล์รูปและวิดีโอไปเก็บไว้ในบริการ Cloud (Google Photos, iCloud) หรือย้ายลงคอมพิวเตอร์/ฮาร์ดดิสก์ภายนอก
- เช็กไฟล์ขนาดใหญ่: ใช้ฟีเจอร์จัดการไฟล์ในเครื่อง (File Manager) เพื่อค้นหาและลบไฟล์ขนาดใหญ่ที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟล์วิดีโอที่โหลดมาดูแล้ว หรือไฟล์ดาวน์โหลดต่างๆ
คำแนะนำ: พยายามรักษาพื้นที่ว่างในเครื่องให้มีอย่างน้อย 15-20% เสมอ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด
เมื่อ RAM ไม่พอสิ่งที่ต้องทำมีดังนี้
- รีสตาร์ทเครื่อง (Restart): เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลดีที่สุด! การรีสตาร์ทจะล้างข้อมูลใน RAM ทั้งหมด ทำให้เครื่องกลับมาทำงานลื่นไหลเหมือนเดิม ควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง
- ปิดแอปที่ไม่ได้ใช้: กดปุ่ม Recent Apps (ปุ่มสี่เหลี่ยม หรือปัดจอขึ้นมาค้างไว้) แล้วปัดแอปที่ไม่ใช้งานทิ้งไป จะช่วยคืน RAM ให้ระบบได้
- ลดการใช้ Widgets และ Live Wallpapers: สิ่งเหล่านี้ทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลาและใช้ RAM พอสมควร การลดจำนวนลงจะช่วยได้
- อัปเดตแอปและระบบปฏิบัติการ: บางครั้งแอปเวอร์ชันเก่าอาจมีปัญหา "RAM ใช้เยอะเกินความจำเป็น" (Memory Leak) การอัปเดตจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
สุดท้ายแล้วการที่ความจำของเครื่องเยอะแต่ไม่ดูแลก็สามารถทำให้ช้าได้ ดังนั้นเราควรจัดการความจำให้เหมาะสมไม่ให้ช้าเกินไปจนทำให้ไม่สามารถใช้งานงานได้ในอนาคตครับ