โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"ดร.เอ้" ชูสร้าง "Education Complex" ปั้น "เด็กไทย" ให้เป็น "พลเมืองระดับโลก"

สยามรัฐ

อัพเดต 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 13 ก.ค.68 ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ "ดร.เอ้" ได้โพสต์ข้อความผ่านทาง Facebook หลังจากได้เดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่า ผมและทีม CMKL University มหาวิทยาลัย AI แห่งแรกของไทย เรามาปฏิบัติภารกิจการศึกษาเพื่อสร้างความร่วมมือ "สร้างคนไทย"
หมุดหมายแรกที่มหาวิทยาลัย Claremont สุดยอดมหาวิทยาลัยในรัฐแคลิฟอร์เนีย เรามีเป้าหมาย 3 ประการ คือ
1. ขอให้ "มหาวิทยาลัย Claremont" สนับสนุน "เด็กไทย" มาเรียนที่นี้เพิ่มขึ้น เพื่อนําความรู้และทักษะสมัยใหม่ กลับมาพัฒนาประเทศไทย
2. สร้างความร่วมมือด้านงานวิจัย "ด้านบริหารธุรกิจและด้านเทคโนโลยี AI" กับประเทศไทยเพื่อสร้าง "เศรษฐกิจใหม่"
3. เชิญชวน คณะบริหารธุรกิจ Drucker School of Management มาตั้ง "สถาบันการบริหารองค์กร" ที่ประเทศไทยเพื่อให้ความรู้แก่ "คนไทย" และให้เป็นศูนย์กลางการเผยแพร่ "ปรัชญาการบริหาร" ของอาจารย์ Peter Drucker ที่ต้องการสร้างสังคมโลกที่ดีขึ้น
ประเทศไทยเราอยู่ชาติเดียวไม่ได้ เราต้องได้ "คนเก่งที่สุด" มาเพิ่ม "ทักษะ" และเติม "ความรู้" ให้กับคนไทยเพื่อแข่งขันได้ในโลกยุค AI ที่ชนะกันด้วย "มันสมอง" ไม่ใช่แรงงาน
ขณะเดียวกันหลังจากสถานการณ์การเมืองได้มีการถกเถียงกันอย่างหนักในเรื่องของ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ดร.เอ้-สุชัชวีร์ กลับมองต่างและโพสต์เฟสบุคว่า
"Education Complex" ดีกว่าไหม?
ผมตั้งใจสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็น "ศูนย์กลางการศึกษา" หรือ Education Complex เป็นที่ตั้งของ "มหาวิทยาลัยระดับโลกในแผ่นดินไทย" ร่วมกับมหาวิทยาลัยไทย ใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อปั้น "เด็กไทย" ให้เป็น "พลเมืองระดับโลก" ไปสร้าง "เศรษฐกิจใหม่" ที่สู้กันด้วย "มันสมอง" และเทคโนโลยีจะสร้างรายได้ จะสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ตัวอย่างที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง คือ เมืองแคลร์มอนต์ (Claremont) รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ 7 แห่ง คือ
1. Claremont Graduate University (CGU) เก่งด้านเศรษฐศาสตร์และการบริหารจัดการ ซึ่งมีคณะบริหาร Drucker School of Management ชื่อก้องโลก
2. Pomona College เก่งด้านศิลปศาสตร์
3. Claremont McKenna College เก่งด้านรัฐศาสตร์และด้านกิจการสาธารณะ
4. Harvey Mudd College เก่งด้านคณิตศาสตร์และด้านวิศวกรรมศาสตร์
5. Scripps College เก่งด้านมนุษยศาสตร์
6. Pitzer College เก่งด้านสิ่งแวดล้อมและด้านการยุติธรรม
7. Keck Graduate Institute (KGI) เก่งด้านชีวการแพทย์และเภสัชศาสตร์
ทั้ง 7 มหาวิทยาลัยต่างมี "ปรัชญา" มีการบริหารอย่างเป็น "อิสระ" มีอธิการบดีของตนเอง แต่มา "ผนึกกำลัง" แชร์ทรัพยากร ทั้งห้องสมุด สนามกีฬา อาคารเรียน และหลักสูตรร่วมกันได้ ทั้งคุ้มค่าและทั้งเสริม "จุดแข็ง" ซึ่งกันและกัน ที่สำคัญพิสูจน์ "คนเก่ง" ทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ เมื่อ "เขาทำได้ ไทยก็ต้องทำได้" เช่นกัน อยู่ที่ "วิสัยทัศน์ทางการเมือง" ของผู้นำไทย ความฝันของผมจะเป็นไปได้หรือไม่นั้น อยู่ที่การสนับสนุนจากประชาชนคนไทย ขอโอกาสให้ผม ได้ดูแลการศึกษาของลูกหลานไทย ให้มีอนาคตที่ดีกว่านี้ได้ไหมครับ เรามาร่วมก้าวใหม่ไปด้วยกันนะครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

สะเทือนโซเชียล! “ดีเจดาว” เสิร์ฟลุคบิกินีแซ่บซี๊ด

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รีบส่อง! "สุนารี ราชสีมา" แจกเลขเด็ดจากโคราช

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ฮุน เซน" ซัด "ทักษิณ" แฉไทยเป็นแหล่งอาชญากร-ฟอกเงิน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คำชะโนดแทบแตกนักท่องเที่ยวทะลักเที่ยววันหยุดยาวไหว้ขอพรปู่ศรีสุทโธ

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม