ปิดประตูตีมาร
ยังลุยทลายโรงงานเถื่อนต่อเนื่อง สำหรับ “รัฐมนตรีขิง” เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จากค่ายรวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ตั้งทีม “สุดซอย” ตั้งแต่นั่งเก้าอี้เจ้ากระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อทำหน้าที่บุกจับโรงงานเถื่อนผิดกฎหมาย เรียกว่าเอ่ยชื่อทีมสุดซอยเมื่อไหร่ใครๆ ต้องรู้จัก
โดยเฉพาะโรงงานไหนลักลอบทำผิดกฎหมาย ได้ยินชื่อทีมสุดซอยรับรองมีผวา
และล่าสุด “รัฐมนตรีขิง” เปิดชื่อยุทธการใหม่ให้บรรดาโรงงานผิดกฎหมายได้ผวากันอีกรอบ คือยุทธการ “ปิดประตูตีมาร” หลังพบการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปฝังใต้ดิน กลายเป็นกองขยะที่ไร้ความรับผิดชอบ
โดยรัฐมนตรีขิงระบุว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยปล่อยปละละเลยการควบคุมภาคอุตสาหกรรม จนถูกโลกมองว่าเป็นทางผ่านของสินค้าสวมสิทธิ์ เป็นที่ดัมป์สินค้าเถื่อนด้อยคุณภาพจนเป็นกองขยะ เป็นสวรรค์ของอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญที่ไร้ความรับผิดชอบ โดยเฉพาะในพื้นที่โซน EEC ที่มีการออกใบอนุญาตโรงงานรีไซเคิลสะสมมาหลายปีจนล้น
ฉากหน้าเป็นธุรกิจรักษ์โลก แต่ของจริงกลับเป็นธุรกิจรับกำจัดกากแบบเถื่อนๆ ไม่จัดการของเสียในประเทศอย่างถูกต้อง แถมไปร่วมขบวนการนำเข้ากากพิษผิดกฎหมายมาเพิ่ม
ทีมสุดซอยยิ่งขุดยิ่งเจอ ล่าสุดพบว่ามีการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปฝังใต้ดินปริมาณมหาศาลประมาณ 50,000 ตัน ใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ทั้งที่ในบริเวณใกล้เคียงมีโรงงานที่ได้รับอนุญาตในกลุ่มรีไซเคิลกว่า 40 โรงงาน จะปล่อยให้ความผิดถูกซุกไว้แบบนี้ต่อไปไม่ได้ จึงสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและขยายผล
“รัฐมนตรีขิง” ประกาศชัดว่า “ถึงเวลาแล้วในโซน EEC ที่มีการออกใบอนุญาตเกินความต้องการ และพบว่ามีการลักลอบประกอบกิจการผิดกฎหมายอย่างแพร่หลาย ผมให้นโยบายปิดประตูตีมาร ระงับการออกใบอนุญาต ปูพรมตรวจการประกอบกิจการของโรงงานที่ได้ใบอนุญาตไปทั้งหมด หากพบว่าไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ก็ต้องหยุดปรับปรุง ไม่ก็ปิด เพิกถอนใบอนุญาต ดำเนินคดีตามลำดับ”
พร้อมทิ้งท้ายด้วยว่า เราต้องเร่งคืนพื้นที่ปลอดภัย บังคับใช้กฎหมายกับทุนเทา จะไม่หยุดจนกว่าจะสุดซอย
งานนี้ “รัฐมนตรีขิง” ยกระดับเข้มทีมสุดซอย สู่ปิดประตูตีมาร โรงงานใดแถว EEC ที่ทำผิดได้มีหนาวกันบ้าง.
บรรจง