BBL อวดกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 เติบโต 9.5% แตะ 24,458 ล้าน
ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกปี 2568 มีกำไรสุทธิ 24,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% จากงวดเดียวกันปีก่อน สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารสินทรัพย์ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้าน
ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจำนวน 63,614 ล้านบาท และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ 2.85% ซึ่งเป็นไปตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลง ส่วนใหญ่จากการบริการธุรกรรมผ่านธนาคาร สุทธิกับรายได้จากบริการการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารมีการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการบริหารค่าใช้จ่าย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ 45.3% สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในงวดครึ่งแรกปี 2568 มีจำนวน 19,807 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับใกล้เคียงกับงวดเดียวกันปีก่อน
สำหรับในไตรมาส 2/2568 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 11,840 ล้านบาท ลดลง 6.2% จากไตรมาสก่อน โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ อยู่ในระดับใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ ลดลงจากค่าธรรมเนียมการอนุมัติสินเชื่อ และค่าธรรมเนียมบริการประกันผ่านธนาคาร รวมถึงบริการกองทุนรวม ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล ขณะที่ธนาคารยังคงมีการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง ทั้งนี้ ธนาคารได้พิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง หากเทียบกับไตรมาส 2/2567 กำไรสุทธิอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน
ณ สิ้นเดือน มิ.ย.2568 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,712,930 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7% จากสิ้นปีก่อน ส่วนใหญ่จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 3.2% ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ โดยมีอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุน ด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 283.6% เป็นผลจากการที่ธนาคารยึดหลักการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนมิ .ย.2568 จำนวน 3,195,939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ 84.9% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 22.0% 17.5% และ 16.7% ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด