โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“ทักษิณ” ชี้ไทยยังไม่ไปไหนติดหล่มปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจ

การเงินธนาคาร

อัพเดต 18 กรกฎาคม 2568 เวลา 5.09 น. • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ทักษิณ" อดีตนายกฯ วิจารณ์การเมืองไร้เสถียรภาพ-เศรษฐกิจซบเซาถอยหลังหลายเรื่อง เสนอตั้ง AMC ประชาชน , ปฏิรูประบบรัฐ , ดัน EV-พลังงานเขียว-ท่องเที่ยว ดึงเม็ดเงินใหม่เข้าประเทศ พร้อมผลักดัน Sandbox นวัตกรรม-คริปโตฯ สู่ตลาดจริง ย้ำไม่เปลี่ยนนายกลั่นได้ “แพทองธาร” เป็นนายก เหมือนแถม “ทักษิน” เป็นเสมียนประเทศ

วันที่ 17 ก.ค. 2568 ดร. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาประธานอาเซียน ขึ้นเวทีงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทยสู้วิกฤติโลก UNLOCKING THAILAND’S FUTURE” จัดโดย อสมท. เปิดเผยถึงสถานการณ์ประเทศไทยในปัจจุบันอย่างตรงไปตรงมาว่า "วันนี้ประเทศไทยยังไม่ไปไหนหลายเรื่องยังถอยด้วยซ้ำ แต่หลายเรื่องก็ก้าวหน้ามากโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเอกชน หรือศูนย์ราชการที่มีคนเก่งๆ"

และสิ่งสำคัญที่สุดคือ "ความเชื่อมั่นในหมู่คนไทยด้วยกันก่อน เพราะวันนี้คนไทยไม่เชื่อมั่นในตัวเองและไม่คิดที่จะรวมพลังกันมีความเป็นหนึ่งที่จะแก้ปัญหาด้วยกัน"

ดร.ทักษิณยังได้หยิบยกประเด็นที่เกิดขึ้นกับกัมพูชามาเป็นอุทาหรณ์ถึงการขาดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยโดยกล่าวว่า "ผมแปลกใจผู้นำเขมรไร้ผู้นำเขมรไร้จริยธรรมจะตายแต่เรากลับไปเข้าข้าง ผมงงทำไมวันนี้คนไทยไม่รักกันทั้งๆที่วันนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าเกิดขึ้นไม่มีผู้นำที่ไหนในโลกทำกัน"

ปัญหาหลักที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจไทย

อดีตนายกฯ ชี้ว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจไทยสะดุดประกอบด้วย:

1. ปัญหาการเมือง: ดร.ทักษิณมองว่า รัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นรัฐธรรมนูญที่ดีที่สุด แต่การปฏิวัติที่เกิดขึ้นในภายหลังได้ทำให้ประเทศไทยถอยหลัง และการตั้งรัฐบาลผสมหลายพรรคในปัจจุบันสะท้อนถึงสภาพการเมืองที่ไร้เสถียรภาพคล้ายกับเมื่อ 51 ปีที่แล้ว ทำให้บ้านเมืองไม่ก้าวหน้า

"การเมืองเปลี่ยนแปลงได้แต่บ้านเมืองต้องคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องต่อไป นั่นคือข้าราชการก็จะต้องทำงานต่อไปภาคเอกชนก็ทำงานต่อไป ใครเป็นรัฐบาลก็มีหน้าที่เสริมให้ภาคเอกชนแข็งแรง"

2. ภาษีทรัมป์: การเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกายังคงเป็นประเด็นสำคัญ โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอใหม่ๆ เพื่อลดผลกระทบ แต่ "คำว่าดีลไม่มีจบ ถ้ายังไม่พอใจก็ดีลกันต่อ นี่เป็นลักษณะของการเจรจาธุรกิจที่จะต้องเจรจากันต่อเนื่อง หยุดไม่ได้

สินค้ากลุ่มที่ได้รับผลกระทบไม่มากนักคือสินค้าที่นำเข้าจากจีนมาประกอบแล้วส่งออกเป็นสินค้าผลิตในประเทศ และสินค้าที่ส่งไปอเมริกาโดยใช้เทคโนโลยีและบริษัทอเมริกันมาตั้งในประเทศไทย

กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือสินค้าเกษตร SME และอัญมณี ซึ่งรัฐบาลกำลังแก้ไขและให้แนวทางว่า หากจะนำเข้าสินค้าจากอเมริกามาแข่งขันกับสินค้าอื่นในประเทศ ก็เป็นเรื่องดีที่ยอมให้มีการแข่งขันกันเอง

นอกจากนี้ ดร.ทักษิณยังวิเคราะห์ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้ประเทศไทยชะงักงัน :

  • GDP เติบโตต่ำกว่าศักยภาพ: จากการวิเคราะห์ทั่วโลก GDP ของประเทศไทยเติบโตน้อยเกินไปถึง 22-75% ทำให้ไทยหล่นจากอันดับ 20 ไป 24 ของโลกในด้านขนาด GDP สาเหตุหลักมาจากการบริหารที่ขาดทิศทางและกลยุทธ์ที่ชัดเจน
  • นโยบายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.): ดร.ทักษิณวิจารณ์ว่า ธปท. พยายามรักษาสถานะของธนาคารพาณิชย์มากเกินไป ทำให้ดึงฐานเงินออกจากระบบมากจนแบงก์พาณิชย์มีความเสี่ยงน้อย แต่ภาคธุรกิจกลับประสบปัญหาในการหาแหล่งทุน
  • การแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม: การขาดมาตรการป้องกันตัวเองจากสินค้าจีนที่เข้ามาในตลาด ประกอบกับปัญหาคอร์รัปชันตามชายแดน ทำให้ SME ไทยเสียเปรียบและล้มหายตายจาก เพราะไม่สามารถสู้ในเชิง Economy of Scale และเทคโนโลยีที่ล้าสมัยได้ โดยเฉพาะสินค้าที่เข้ามาโดยไม่ผ่าน มอก. หรือ อย.

แผนพลิกฟื้นและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ

อดีตนายกฯ ได้นำเสนอแนวทางและนโยบายที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาและสร้างโอกาสใหม่ๆเช่น

  • จัดตั้ง AMC ภาคประชาชน: เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 92% ของ GDP ซึ่งเกิดจากเศรษฐกิจซบเซาและการพนัน ท่านเชื่อว่า "ถ้าเราซื้อหนี้ภาคประชาชนออกมาจัดตั้ง Asset Management Company (AMC) ภาคประชาชน เพื่อซื้อหนี้เสียจากประชาชนและจัดการอย่างจริงจัง หากไม่ทำ คนไทยจะหายใจไม่ออก กำลังซื้อไม่กลับมา และไม่สามารถดิ้นรนหารายได้ใหม่ๆ ได้

  • ลดค่าใช้จ่ายประชาชน:

  • ค่าไฟฟ้า: ชี้ว่าการนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจีน 100% จะทำให้ประเทศ "เจ๊งก่อน" จึงต้องเร่งสร้าง อุตสาหกรรม EV ที่มี Economy of Scale แข็งแรงในประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าให้ประชาชน

    • ค่าเดินทาง: เสนอโครงการ"20 บาทตลอดสาย" สำหรับรถไฟฟ้า และปรับเปลี่ยนรถเมล์เป็นฟีดเดอร์ เพื่อกระตุ้นการใช้ขนส่งสาธารณะและลดความแออัดบนท้องถนน คาดว่าจะผลักดันให้สำเร็จได้ภายใน 2-3 เดือนนี้
  • ปฏิรูประบบราชการ: ประสิทธิภาพภาครัฐเป็นปัญหาสำคัญ เนื่องจากการบริการที่แย่ลง ต้องแก้ไขโดยการปรับโครงสร้างทุกกระทรวง ลดค่าใช้จ่ายประจำ และกำจัดการรับเงินใต้โต๊ะ

  • ทบทวนโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค: แม้รัฐบาลจะเพิ่มงบประมาณสูงขึ้นทุกปี แต่ควรเริ่มต้นด้วย Zero Base Budgeting เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมต่อหัวไม่เช่นนั้นในอนาคตสวัสดิการของประเทศจะรับไม่ไหว

  • ลดงบประมาณทหาร: งบประมาณทหารควรลดและปรับ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มของ Cyber Warfare และการปรับปรุงอาวุธยุทโธปกรณ์ ไม่ให้ล้าสมัยและสิ้นเปลือง

สร้างรายได้ใหม่ ดึงดูดการลงทุน และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

ดร.ทักษิณยังได้เสนอแนวคิดในการสร้างรายได้ใหม่ๆ ให้กับประเทศและประชาชน:

  • สร้างนิเวศน์การทำมาหากินใหม่ๆ: เช่น การให้ประชาชนหรือเอกชนขุดลอกคลองและนำดินไปใช้ประโยชน์ แม้กฎหมายยังไม่เอื้อแต่ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของ โครงการถมทะเล ซึ่งจะทำให้ได้ที่ดินเพิ่มขึ้นหลายแสนไร่ พร้อมการอ้างอิงสิทธิ์ 90 ปี เพื่อดึงดูดการลงทุน

"วันนี้เราต้องการเงินใหม่ ๆ โดยเฉพาะเงินภาคเอกชนและเงินต่างประเทศเข้ามาช่วยลงทุนให้ประเทศไทย เพราะวันนี้รัฐบาลกู้เองไม่ไหวเพราะเต็มยันเพดานแล้ว"

  • ส่งเสริม Eco System รถยนต์และศูนย์กลาง EV: ย้ำความจำเป็นในการตั้ง ภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์นำเข้าที่ไม่มี Local Content เพื่อรักษาอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ และผลักดันให้ไทยเป็น ศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า โดยดึงต่างประเทศมาร่วมลงทุนได้ เนื่องจากเทคโนโลยี EV ไม่ได้ซับซ้อนมาก
  • ศูนย์กลางไฟฟ้าสีเขียว (Solar Farm): ชี้ว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นผู้ขายไฟฟ้าสีเขียว โดยใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ประมาณ 1.4 ล้านไร่ ผลิตไฟฟ้า 40,000 เมกะวัตต์จากโซลาร์เซลล์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันดีเซล 60 ล้านลิตรต่อวัน เบนซิน 25 ล้านลิตรต่อวัน และดึงดูด Data Center ทั่วโลกให้มาลงทุนในประเทศไทย
  • ศูนย์กลางการบินอาเซียน: เสนอให้เพิ่มค่า Passenger Service Charge (PSC) เพียง 100-300 บาท ซึ่งจะทำให้ AOTมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.4-4หมื่นล้านบาทต่อปีเพื่อนำเงินมาลงทุนขยายสนามบินให้เป็นฮับ ทั้งผู้โดยสาร ศูนย์ซ่อม และคาร์โก้ และระบบน้ำมัน ซึ่งต้องไม่ผูกขาด
  • ฟื้นฟูการท่องเที่ยว: แม้นักท่องเที่ยวจีนลดลงจากปัญหาภาพลักษณ์ จึงต้องพัฒนาเมืองท่องเที่ยวให้เป็น Smart City ติดตั้งกล้องวงจรปิด AI ทั่วเมือง เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยว พร้อมทั้งรัฐบาลควรสร้าง Event ใหม่ๆ ระดับโลก เช่น Formula 1, Tomorrowland, แฟชั่นวีค และคอนเสิร์ตต่างๆ
  • Entertainment Complex: สนับสนุนให้มี Entertainment Complex ที่มีคาสิโน เป็นส่วนหนึ่ง เพื่อดึงดูดการลงทุนและเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวที่ครบวงจร
  • Innovation Sandbox: ต้องการพื้นที่ Sandbox สำหรับทดลองนวัตกรรมใหม่ๆ เช่น Gene Therapy, ทรีทเม้นท์ และ Longevity โดยมีกฎระเบียบในการควบคุม
  • E-money Sandbox ทั่วประเทศ: ในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า จะมีการทำ Sandbox ทั่วประเทศ โดยแบงค์ชาติให้ความร่วมมือในการใช้ e-money ทำให้ผู้ถือคริปโตเคอร์เรนซีสำคัญของโลกอย่าง Bitcoin และ Ethereum สามารถใช้จับจ่ายในไทยได้ ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นการใช้จ่าย เนื่องจากผู้ถือ Bitcoin ส่วนใหญ่เป็นคนรวยและมีต้นทุนต่ำ
  • Golden Visa: สนับสนุนการออก Golden Visa หรือวีซ่าระยะยาว 10 ปี ให้ชาวต่างชาติที่มีเงินฝากหรือเข้ามาลงทุนในประเทศ และเสียภาษีให้ไทย เพื่อดึงดูด "New Money Fresh Money"ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับประเทศไทย แต่เม็ดเงินใหม่เหล่านี้ลงไปถึงระดับล่างและกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากปัจจุบันมีผู้เสียภาษีในประเทศไทยเพียง 4 ล้านกว่าคนจากประชากร 70 กว่าล้านคน

ร้องคนไทยปล่อยวางความเกลียดชัง ย้ำไม่มีเปลี่ยนนายก

ดร.ทักษิณย้ำว่าประเทศไทยในวันนี้ "ไม่มีเจ้าภาพ" จึงต้อง สร้างระบบเจ้าภาพ และ Digitalize ระบบราชการ รวมถึงนำระบบ "ผู้ว่า CEO" กลับมาในการปฏิบัตินโยบาย เพื่อให้มียุทธศาสตร์ เป้าหมาย และการปรับปรุงประสิทธิภาพตลอดเวลา

สุดท้าย อดีตนายกฯ ได้เรียกร้องถึง "ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทยต้องมี ปล่อยวางความเกลียดชังและหันหน้าเข้าหากันเพราะประเทศเราพัฒนาช้ามา 20 ปีแล้ว" พร้อมระบุว่ารัฐบาลปัจจุบันมีความชอบธรรมที่จะออก พ.ร.ก. เพื่อแก้ปัญหาสำคัญเร่งด่วนได้อย่างรวดเร็ว

"รัฐบาลจะไม่มีการเปลี่ยนนายกเพราะเราต้องทำงานต่อเนื่อง วันนี้แพรทองธารเป็นนายกแถมผมเป็นเสมียนประเทศ รวบรวมปัญหาและแนวทางส่งให้นายกและรัฐมนตรี เราไม่ควรทะเลาะกันในเรื่องไร้สาระควรหันหน้าเข้าหากันทำให้บ้านเมืองเรารุ่งเรือง" พร้อมเสนอให้มีการ Empower คนไทยทั้งประเทศด้วย AI โดยรัฐบาลจะจัด Virtual Training AI และให้เข้าถึงบริการ Chat GPT, DeepSeek ฟรี เพื่อให้คนไทยเป็น "เจ้านาย AI" ไม่ใช่ลูกน้อง

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก การเงินธนาคาร

ธนาคารกรุงเทพ โชว์กำไร 2.4 หมื่นล้านบาท ครึ่งปีแรก 68

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คลังเตรียมพร้อมมาตรการช่วยผู้ส่งออก-ภาคการผลิต รับมือ ภาษีสหรัฐฯ

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ทักษิณ แย้ม ครม.สัปดาห์หน้าเคาะ “ผู้ว่าฯ ธปท.” คนใหม่

อีจัน

ประชุม คกก. คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร เห็นชอบ โครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อการเก็บรักษาและแปรรูปลำไยด้วยการอบแห้งหรือรมด้วยก๊าซซันเฟอร์ไดออกไซด์

สวพ.FM91

Broker ranking 17 Jul 2025

Manager Online

“ทักษิณ” อุบชื่อผู้ว่าฯ ธปท. คนใหม่ ยืนยันเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

PostToday

BBL อวดกำไรสุทธิครึ่งแรกปี 68 เติบโต 9.5% แตะ 24,458 ล้าน

PostToday

‘ทักษิณ’ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย ผุดใช้คริปโตซื้อของได้ ฝึกเทรนเอไอให้คนไทย

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...