ประวัติ บิ๊กแก้ว เต็งหนึ่ง ว่าที่ รมว.กลาโหม คนใหม่ ภายใต้ ครม.อิ๊งค์ 2
เปิดประวัติ บิ๊กแก้ว หลังราชกิจจาฯ ประกาศ ครม. แพทองธาร 2 พบเก้าอี้ รมว.กลาโหมว่าง คาดเป็นความตั้งใจของรัฐบาล หลังติดเงื่อนไขเว้นวรรคทางการเมือง 2 ปี คาดหวังกระชับสัมพันธ์กองทัพ
(วันที่ 1 กรกฎาคม 2568) ภายหลังจากราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระบรมราชโองการประกาศรายชื่อ คณะรัฐมนตรี แพทองธาร 2 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และมีกำหนดนำ ครม. ชุดใหม่เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ประเด็นที่น่าสนใจและเป็นที่จับตามองทางการเมืองมากที่สุดคือการที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังคงว่างเว้นอยู่
จากการตรวจสอบพบว่า การเว้นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไว้ในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของรัฐบาลเพื่อรอแต่งตั้ง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ หรือ บิ๊กแก้ว อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ซึ่งตามรายงานระบุว่าได้รับการทาบทามให้เข้ามาดำรงตำแหน่งนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม พล.อ.เฉลิมพล ยังติดเงื่อนไขทางกฎหมาย เนื่องจากเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องเว้นวรรคทางการเมืองเป็นเวลา 2 ปีหลังจากพ้นจากตำแหน่ง โดย พล.อ.เฉลิมพล ได้พ้นจากการเป็น สว. เนื่องจากเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 และจะครบกำหนดเงื่อนไขเว้นวรรค 2 ปี ในวันที่ 30 กันยายน 2568 หรือในอีก 3 เดือนข้างหน้านี้
สำหรับแนวทางการบริหารกระทรวงกลาโหมในช่วง 3 เดือนที่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการฯ ว่างลงนั้น จะมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ขับเคลื่อนงานของกระทรวงให้ดำเนินไปตามปกติ ขณะเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งย้ายไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะทำหน้าที่ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปก่อนเป็นการชั่วคราว
ทั้งนี้ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ถือเป็นนายทหารที่มีชื่อเสียงและบารมีอย่างสูงในกองทัพ เป็นที่รู้จักในฐานะนายทหารคอแดง ซึ่งผ่านหลักสูตรหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ 904 และมีความใกล้ชิดกับ พล.อ.อภิรักษ์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก การที่รัฐบาลยอมเว้นตำแหน่งไว้เพื่อรอ พล.อ.เฉลิมพล จึงถูกมองว่าเป็นความพยายามสร้างความเชื่อมั่นและกระชับความสัมพันธ์กับกองทัพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2506 ณ ต.บัวชุม อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เป็นบุตรของ นายสมยศ และนางสมจิตต์ ศรีสวัสดิ์ สมรสกับนางบุษกร ศรีสวัสดิ์ และมีบุตรสาว 1 คน คือ นางสาวขวัญชนก ศรีสวัสดิ์
การศึกษา
- ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจาก โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี
- โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 21
- โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 32
การศึกษาเมื่อเข้ารับราชการ
- หลักสูตรปฐมนิเทศนายทหารใหม่ (จปร.) รุ่นที่ 7
- หลักสูตรชั้นนายร้อย โรงเรียนทหารม้า รุ่นที่ 2
- หลักสูตรชั้นนายพัน โรงเรียนทหารม้า รุ่นที่ 33
- หลักสูตรส่งทางอากาศ รุ่นที่ 128
- หลักสูตรการรบแบบจู่โจม รุ่นที่ 73
- หลักสูตรเสนาธิการทหารบก โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 72
- หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 59
- หลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 8 วิทยาลัยศาลรัฐธรรมนูญ
ตำแหน่งที่ได้รับขณะรับราชการ
- ได้ยศ ร้อยตรี ปี พ.ศ.2528 ได้รับตำแหน่ง ผู้บังคับหมวด กองร้อยลาดตระเวน กองพันทหารม้าที่ 22 และพล.อ. เฉลิมพล เคยได้รับตำแหน่ง ผู้บังคับการทหารม้า, ผู้บังคับการกองร้อยลาดตระเวน และนายทหารยุทธการและการฝึก
- ได้ยศ ร้อยโท และร้อยเอก ปี พ.ศ.2541 ได้รับตำแหน่ง ฝ่ายอำนวยการที่ 3 กองพันทหารม้าที่ 27, อาจารย์ประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบก, ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายข่าวกรอง ฝ่ายอากาศ ฝ่ายยุทธการ กองพลทหารม้าที่ 2 และรองผู้บังคับการ กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์
- ได้ยศ พันโท ปี พ.ศ.2547 ได้รับตำแหน่ง หัวหน้าฝ่ายยุทธการ กองพลทหารม้าที่ 2, ผู้บังคับการกองพันทหารม้าที่ 25 รักษาพระองค์ และหัวหน้ากองกรมยุทธการทหารบก
- ได้ยศ พันเอก ปี พ.ศ.2547 และได้รับตำแหน่ง ฝ่ายเสนาธิการ ประจำกรมยุทธการทหารบก, นายทหารปฏิบัติการ ประจำกรมยุทธการทหารบก, ผู้อำนวยการกอง กรมยุทธการทหารบก, เสนาธิการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และรองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
- ได้ยศ พลตรี ปี พ.ศ.2558 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
- ได้ยศ พลโท ปี พ.ศ.2560 ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ากรมยุทธการทหารบก ถัดจากนั้นปี 2561 ได้ย้ายไปเป็นรองเสนาธิการทหารบกและตอนกลางปี 2562
- ได้ยศ พลเอก ปี พ.ศ.2562 เป็นผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก จากรองเสนาธิการทหารบก
- ปี พ.ศ.2563 ได้รับการโปรดเกล้า ฯ ให้ ได้รับตำแหน่งเป็น ผู้บัญชาการทหารสูงสุดคนที่ 35 ของไทย รวมทั้ง ราชองครักษ์เวร, ตุลาการศาลทหารกรุงเทพ และนายทหารพิเศษประจำหน่วย กองพันทหารม้าที่ 27 รักษาพระองค์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง