FOSSiBOT เปิดตัว F107 Pro : สมาร์ตโฟนกล้อง Starlight Night Vision รุ่นแรกของโลก, ทนทานเกรดกองทัพ
FOSSiBOT แบรนด์จากประเทศจีนที่เน้นพัฒนาสมาร์ตโฟนที่มีความทนทานสูง (Rugged Smartphone) ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด นั่นคือ F107 Pro ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง, เทคโนโลยี Starlight Night Vision และได้รับการออกแบบให้มีความทนทานสูง เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้ง, เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือฉุกเฉิน และผู้ที่ชื่นชอบกีฬาผาดโผน
FOSSiBOT F107 Pro นั้น เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นแรกของโลกที่ได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี Starlight Night Vision แบบสีเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีกล้องที่สามารถจับภาพสีในสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อยมาก ถึงระดับ 0.0005 LUX ได้ เช่น มีเพียงแสงจากดวงจันทร์ หรือแสงไฟบนถนน เป็นต้น ต่างจากกล้องอินฟราเรด (Infrared) ที่จับภาพในสภาพแวดล้อมแสงน้อย ได้เฉพาะสีขาว-ดำเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีรูรับแสงที่มีความกว้างมาก ระดับ F/1.0 และผสานการประมวลผลร่วมกับเซนเซอร์ภาพ AX620Q ที่มีความไวแสงสูง เพื่อให้สามารถจับภาพแสงจากแหล่งแสงที่แตกต่างกัน เช่น แสงจากดวงดาว หรือแสงจากพระจันทร์ เป็นต้น ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจป่าทึบ, นำทางในถ้ำ หรือระหว่างปฏิบัติการทางทหารในตอนกลางคืน เป็นต้น
FOSSiBOT F107 Pro ยังได้รับการติดตั้งกล้องเกรดเรือธง จำนวน 3 ตัว ดังนี้
- กล้องหลัก ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ Samsung S5KHP3SP03 ขนาด 1/1.4 นิ้ว, รูรับแสง F/1.95, โฟกัสภาพใน 0.1 วินาที
- กล้องมุมกว้าง (ใช้ถ่ายภาพ Macro ได้) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ Sony IMX766, รูรับแสง F/1.79
- กล้องเซลฟี ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล, เซนเซอร์ภาพ Sony IMX616
ด้านการประมวลผลนั้น ใช้ศักยภาพจากชิปเซต MediaTek Dimensity 7300 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 2.5 GHz ซึ่งมีจุดเด่นด้านการประหยัดพลังงานและจัดการความร้อนในระหว่างประมวลอย่างหนัก
ชิปเซตดังกล่าวจะทำงานร่วมกับแรม 12 GB ซึ่งสามารถเพิ่มแรมเสมือนได้อีก 18 GB ทำให้กลายเป็น 30 GB และสตอเรจ ความจุ 512 GB
FOSSiBOT F107 Pro ยังมีจุดเด่นอีกหลายด้าน ดังนี้
- แผงหน้าจอ LCD ขนาด 5.95 นิ้ว ความละเอียด Full HD+, รีเฟรชเรต 120 Hz (รีเฟรชภาพ 120 ครั้งต่อวินาที) ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวลที่สุด
- ป้องกันรอยด้วย Corning Gorilla Glass
- ติดตั้ง AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น ยกระดับคุณภาพเสียงแบบเรียลไทม์, ทำให้วิดีโอมีความเสถียร และถ่ายภาพในสภาพแวดล้อมแสงน้อยได้ดี เป็นต้น
- แบตเตอรี่ ความจุมหาศาลถึง 28,000 mAh รองรับการชาร์จไฟเร็ว 66 W ซึ่งสแตนด์บายได้สูงสุด 30 วัน, โทรออกต่อเนื่อง 215 ชั่วโมง และฟังเพลงต่อเนื่อง 133 ชั่วโมง
- ความทนทานเกรดกองทัพ MIL-STD-810H ช่วยให้ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิสูง/ต่ำมาก, ฝน, โคลน, ทราย และการสั่นสะเทือน เป็นต้น
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP68 และ IP69K ช่วยป้องกันตัวเครื่องในน้ำลึก 1.5 เมตร ได้สูงสุด 30 นาที และน้ำแรงดันสูง อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียส
FOSSiBOT F107 Pro มีราคาอยู่ที่ 549 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 17,900 บาท