ไล่บี้รมต.ปาร์ตี้ลิสต์ สส.อีสานบีบไขก๊อก‘บัญชีรายชื่อ’/‘ชัยเกษม’โวฟิตเปรี๊ยะ

"มือกฎหมาย รบ." ลั่น การเมืองยังไม่ถึงทางตัน มั่นใจ "นายกฯ อิ๊งค์" แจงศาล รธน.ได้ ไม่เชื่อดีล "ปชน-ภท." หนุน "อนุทิน" เป็นนายกฯ ได้ เหน็บเป็นดีลแปลกประหลาด รองโฆษก พท.จวกวิธีการจี้ยุบสภา เร่งร้อนชิงความได้เปรียบ โวรัฐบาลยังมีเวลาอีก 2 ปี ไม่มีอะไรสะดุด "เด็จพี่" เย้ยแนวคิด "นายกฯ ชั่วคราว" แค่ฝันกลางวัน ไล่ฝ่ายค้านกลับไปเคลียร์ให้ลงตัวจะชูใคร ด้าน "ชัยเกษม" เปิดใจพร้อมรับไม้ต่อนายกฯ ยันปัญหาสุขภาพหายแล้ว "โฆษก ภท." ย้ำ "อนุทิน" ไม่เคยเสนอตัวชิงนายกฯ สวนกลับบริหารให้ดีไม่มีใครแย่ง "หัวหน้าเท้ง' ไม่ติดใจ "แพทองธาร" ปฏิบัติหน้าที่ รมว.วธ. หากศาลยังไม่ชี้ชัด "อดีตผู้พิพากษา" ชี้่ช่องยื่นถอดถอน รมว.วธ.

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการเมืองกำลังนำไปสู่ทางตัน และอาจเป็นเหตุให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านพลิกขั้วมาตั้งรัฐบาลว่า การจะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้หมายความว่าต้องเกิดกรณีว่าท้ายที่สุดแล้ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง แต่ในขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญที่ยังไม่ได้ชี้ขาด แต่ให้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

“เชื่อว่าเป็นโพรเสส ในกระบวนการที่จะชี้แจงกันได้ ทำความเข้าใจกันได้ว่าท้ายที่สุดเป็นอย่างไร เพราะหากเราดูตามเนื้อผ้าจริงๆ ว่าเข้าข่ายจริยธรรมอะไรบ้าง ถ้าให้ผมพูดตรงกลาง คิดว่าไม่ได้ผิดจริยธรรมอะไรเลย เพียงแต่ว่าสภาพการเมืองถูกนำพาไปกลบหลักกฎหมายและข้อเท็จจริงทั้งหลาย เอาการเมืองเป็นหลัก แต่รัฐบาลเราคิดว่าสามารถชี้แจงทำความเข้าใจได้ หากถามว่าจะไปถึงจุดนั้นหรือไม่ ผมว่ายังอีกไกล” นายชูศักดิ์กล่าว

เมื่อถามถึงดีลการเมืองระหว่างพรรคประชาชน (ปชน.) กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มีกระแสข่าวว่าจะสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท.เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว นายชูศักดิ์กล่าวว่า เป็นข่าวทางการเมือง แต่โดยสภาพความเป็นจริง ตนไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ และไม่เชื่อว่าจะมีพรรคการเมืองไหนโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกฯ โดยไม่ได้ร่วมเป็นรัฐบาล

"ดีลเช่นนี้ผมมองว่าเป็นดีลแปลกประหลาด สภาพความเป็นจริงสังคมไทยและการเมืองไทยจะเป็นเช่นนั้นได้หรือ การจะบอกว่าให้คุณเป็นนายกฯ แต่เราไม่ร่วมรัฐบาล แต่คุณจะต้องทำ 1-2-3-4 และการจะทำ 1-2-3-4 ให้เป็นรูปธรรมนั้น จะสามารถทำให้จริงหรือไม่ ก็ยังไม่มีใครทราบ จึงมองว่าจะไม่เกิดขึ้นจริง"

นายชูศักดิ์กล่าวด้วยว่า พรรค พท.ยังไม่ได้มองไปไกลถึงขั้นที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาดให้นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง และยังเชื่อว่ายังคงอยู่ในกระบวนการการชี้แจงของ น.ส.แพทองธารให้ดำเนินไปได้ด้วยดี และหวังว่านายกรัฐมนตรีจะสามารถชี้แจงทำความเข้าใจกับศาลรัฐธรรมนูญได้

นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงกรณีมีข้อเสนอเรื่องนายกรัฐมนตรีชั่วคราวว่า ปัจจุบันการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 คือการเลือกจากบัญชีของพรรคการเมืองที่เคยเสนอไว้ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฉะนั้น แม้ว่าจะมีบางคนเสนอว่านายกฯ ชั่วคราว แม้จะอยู่ในบัญชีของพรรคการเมืองก็ตาม โดยมีการวางเงื่อนไขให้มีการประกาศยุบสภา ต้องเรียนว่าวิธีการดูจะเร่งร้อนและชิงความได้เปรียบทางการเมืองมากเกินไป

"รัฐบาลยังมีเวลาอีก 2 ปี ยังมีเวลาที่จะนำงบประมาณไปดูแลประชาชน พัฒนาโครงการลงทุนใหญ่ๆ อีกเยอะ เชื่อว่าอีก 2 ปีรัฐบาลจะยืนหยัดสร้างความเชื่อมั่น แม้ว่าช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย แต่ก็เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยในทางที่เป็นคุณต่อนายกฯ"

นายจิรวัฒน์กล่าวต่อว่า แม้ว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย จะรักษาราชการแทนนายกฯ แต่ท่านมีอำนาจเต็มทุกประการในการบริหารคน บริหารงบประมาณต่างๆ เชื่อว่าไม่มีอะไรสะดุด สามารถเดินไปได้ตามปกติ ฉะนั้นยืนยันเสถียรภาพของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รมว.วัฒนธรรม อีกครั้งว่า ท่านมีความมุ่งมั่นตั้งใจเพื่อที่จะรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) และพรรคการเมืองต่างๆ ที่มาร่วมกันลงเรือลำเดียวกัน ที่จะต้องนำนโยบายที่เคยแถลงไว้ต่อรัฐสภา นำไปสู่การปฏิบัติจริงให้ได้มากที่สุด เพื่อประโยชน์ของประชาชนคนไทย

"ที่มีการเรียกร้องให้ยุบสภานั้น พท.ยืนยันว่าวันนี้ไม่มีเหตุอะไรที่ต้องยุบสภา เนื่องจากขณะนี้สภามีวาระสำคัญคือร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม และกฎหมายที่ทางรัฐบาล พท.เสนอ ที่ต้องเร่งขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม การเรียกร้องให้ยุบสภานั้น ดูเป็นการช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองมากเกินไป โดยไม่ได้สนใจว่างบประมาณรายจ่ายประจำปี 69 อาจต้องลงไปขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างไร ส่วนราชการต่างๆ ยังมีงานที่ต้องเข้าไปดูแลประชาชน อีกทั้งการเลือกตั้งต้องใช้งบประมาณกว่า 6 พันล้านบาท ฉะนั้นมีความจำเป็นอย่างไรที่ท่านออกมาชูประเด็นเรื่องการยุบสภา และวันนี้เชื่อว่าประเทศชาติยังไม่ได้เสียหายอะไร รวมถึงเชื่อมั่นว่านายกฯ จะกลับมาเรียกความเชื่อมั่น มาฟื้นศรัทธาให้พี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน“ นายจิรวัฒน์กล่าว

นายกฯ ชั่วคราวฝันกลางวัน

มีรายงานความเคลื่อนไหวของ สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ภายหลังจากการปรับ ครม.ชุดใหม่ ในกลุ่ม สส.ภาคอีสานได้แลกเปลี่ยนความเห็นกัน และรู้สึกไม่พอใจในการปรับ ครม.ครั้งนี้ และยังมีการแสดงความไม่พอใจอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในกลุ่ม สส.กลุ่มใหญ่ที่มี น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรค พท.และรัฐมนตรีคนอื่นๆ อยู่ด้วย โดยมี สส.ชายคนหนึ่งส่งข้อความในกลุ่มไลน์ดังกล่าว ระบุว่า “รัฐมนตรีที่เป็น สส.บัญชีรายชื่อน่าจะลาออก รายชื่อถัดไปจะได้เข้ามาทำหน้าที่ สส.ได้เต็มที่ ท่านก็จะได้ทำหน้าที่รัฐมนตรีได้เต็มที่ด้วยเช่นกัน“ ก่อนมี สส.อีกคนตอบกลับข้อความดังกล่าวว่า "เห็นด้วย"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ สส.บัญชีรายชื่อที่เพิ่งได้เป็นรัฐมนตรีรอบนี้ ประกอบด้วย นายสุชาติ ตันเจริญ และ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สำหรับรายชื่อ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ที่จะได้เลื่อนขึ้นมาเป็น สส.หากมีการลาออก ประกอบด้วย ลำดับที่ 38 นายเอกพร รักความสุข และลำดับที่ 39 นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท. กล่าวถึงข้อเสนอนายกรัฐมนตรีชั่วคราวว่า สถานการณ์บ้านเมืองเวลานี้ยังไม่ถึงกับเดินไปจุดนั้น น.ส.แพทองธารแค่หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว ศาลรัฐธรรมนูญยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยออกมา ฉะนั้นขออย่าเพิ่งมองในแง่ร้ายเกินไป การเมืองยังไม่ติดล็อก หรือเกิดสุญญากาศ หรือถ้าเป็นไปตามเหตุการณ์สมมุติ ตามกระบวนการพรรค พท.ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ เป็นแคนดิเดตนายกฯ อีกคน ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลก็พร้อมใจกันสนับสนุน พรรคฝ่ายค้านทั้งที่ตั้งใจฝันและแอบฝัน ยังไม่ทันกลางคืนก็ฝันกลางวันเสียแล้ว อย่าเพิ่งคิดไปไกล รวมเสียงข้างน้อยแข่งขันโหวตนายกฯ ชั่วคราว บอกว่าจะมาอยู่เพียงไม่กี่เดือนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ จุดยืนของพรรคประชาชนยืนยันมาโดยตลอดต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ขณะที่พรรคภูมิใจไทยขอยกเว้นหมวด 1-2 ไหนจะนโยบายปฏิรูปกองทัพที่มา การทำหน้าที่องค์กรอิสระ สว. แนวคิด อุดมการณ์ จะจับมือเดินไปตลอดรอดฝั่งกันได้จริงหรือไม่

"การจะชูนายกฯ ของพรรคฝ่ายค้าน ตกลงกันลงตัวแล้วใช่หรือไม่ว่า จะชูใครมาแข่งขัน พรรคส้มหรือพรรคประชาชนมีจำนวนเสียงมากกว่าพรรคภูมิใจไทย จะจำยอมฝืนทนเสนอนายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคสีน้ำเงินได้จริงๆ หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็แสดงออกทางเจตนาว่าพร้อมเป็นนายกฯ เหมือนกัน ไปหาแคนดิเดตนายกฯ ของฝ่ายค้าน เคลียร์กันให้ลงตัวก่อนดีกว่า และทางที่ดีพรรคประชาชนน่าจะทำสิ่งที่ถนัดคือ ตั้ง ครม.เงาขึ้นมาประกบ ตรวจสอบการทำงานรัฐมนตรีของรัฐบาล ทำให้ประชาชนเห็นว่าไม่ได้เก่งแต่ในโซเชียล" นายพร้อมพงศ์กล่าว

ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ผ่าน "กรุงเทพธุรกิจ" ถึงสถานการณ์การเมืองที่ น.ส.แพทองธารถูกคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ว่า เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามครรลองของมัน ถ้ามันมีเหตุจะต้องเปลี่ยนนายกฯ จริงๆ ค่อยไปแก้ไขกัน เพียงแต่ตอนนี้เราไปฝืนอะไรศาลไม่ได้ ดังนั้นต้องปล่อยไปตามครรลอง ศาลอาจจะชี้ในทางที่เป็นคุณโดยไม่มีปัญหาก็ได้

ถามว่าการเมืองไทยยังไม่ถึงทางตันใช่หรือไม่ นายชัยเกษมระบุว่า การเมืองเป็นอะไรที่เดายาก แล้วเราถือว่าตราบใดที่ยังไม่ยุติ เรายังมีความหวัง จะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

'ชัยเกษม'พร้อมรับเก้าอี้

นายชัยเกษมเปิดเผยถึงปัญหาสุขภาพส่วนตัวว่า ตนเองเป็นสโตรก (โรคหลอดเลือดสมอง) เส้นเลือดฝอยตรงท้ายทอย ทำให้ก่อนหน้านี้ทำงานได้ไม่เต็มที่ แต่ขณะนี้ล่าสุดไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ซึ่งแพทย์บอกว่าตนโชคดีมหาศาล ซึ่งขณะนี้ก้อนที่เป็นปัญหาตรงท้ายทอยได้สลายไปหมดแล้ว เท่ากับตนอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีอะไรเลยตอนนี้ ไม่มีปัญหาเลย การเดินเหินก็ไม่มีปัญหา สรุปไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพแล้ว

“ผมไม่เคยมีความไม่พร้อม (นั่งตำแหน่งนายกฯ) แต่เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจในการตัดสินใจว่าเขาเห็นว่ามีใครเหมาะสมแค่ไหน สภาพร่างกายหรือเรื่องอย่างอื่นนั้นผมไม่มีปัญหาอะไร ให้เป็นวันนี้พรุ่งนี้ก็เป็นได้”

ถามว่า การไม่เลือกนายชัยเกษมเป็นนายกฯ เพราะไม่ทำตามใบสั่งใช่หรือไม่ นายชัยเกษมระบุว่า ตนไม่รู้ว่าที่บอกว่าใครสั่ง คือใคร ใครที่จะมาสั่งตนแล้วลำบาก ซึ่งตนมีวุฒิภาวะ มีประสบการณ์ในชีวิต เป็นอัยการสูงสุดมานาน การตัดสินใจของตนมีประสบการณ์และชี้แจงได้ในทุกเรื่องที่ตัดสินใจ

เมื่อถามว่า หากพรรคร่วมรัฐบาลไม่รับข้อเสนอพรรคเพื่อไทย แต่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี เป็นนายกฯ แทน นายชัยเกษมกล่าวว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลขอก็ดี "ผมกลัวว่า ฮึ่มๆ แล้วบอกว่ากูจะเป็นละโว้ย แล้วคุณจะทำยังไง อย่าไปคิดอะไรล่วงหน้าเลย อะไรเกิดขึ้นก็ค่อยๆ แก้ ถ้าคุณไปพูดอย่างนี้ บอก พล.อ.ประยุทธ์ได้ยิน ใครบอกว่ากูจะเข้าไปแย่งไปแข่ง"

"ถ้าผมเป็นนายกฯ ต้องมีอำนาจตัดสินใจด้วย แม้อำนาจการตัดสินใจมี แต่ถ้าผมไปฟังใครมาจะต้องอย่างนี้แล้ว ไม่ได้ มันต้องศึกษา ดูแล้วให้เกิดความชัดเจนว่าจริงหรือไม่ เพราะว่าเรื่องของบ้านเมืองนั้น การตัดสินใจแต่ละอย่างมันกระทบหลายอย่างมาก ทำอะไรกระทบต่อบ้านเมืองต้องคิดให้หนัก" นายชัยเกษมกล่าว

น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี และโฆษกพรรคภูมิใจไทย แถลงถึงกรณีที่มีผู้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ โดยพาดพิงพรรค ภท.ว่า ขณะนี้พรรค ภท.เป็นฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาร่างกฎหมาย นำเสนอปัญหาของประชาชนให้รัฐบาลทราบ และติดตาม ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ไม่เคยเสนอตัว ไม่เคยแสดงท่าทีจะชิงตำแหน่งนายกฯ ตามที่สมาชิกพรรค พท.กล่าวพาดพิงถึง พรรค พท.ไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะมีใครไปแย่งตำแหน่งนายกฯ ถ้ารัฐบาลมีผลงานดี ไม่มีใครแย่งไปได้ ขณะนี้การเมืองยังไม่ถึงทางตัน ประเทศไทยยังมีนายกฯ แต่หยุดพักปฏิบัติหน้าที่ ภท.ไม่เคยเสนอแนวทางจัดตั้งรัฐบาล แต่พร้อมจะร่วมมือกับทุกพรรคการเมือง เพื่อให้ระบบรัฐสภาเป็นกลไกหลักในการแก้ปัญหาการเมือง และเชื่อว่าการเมืองไทยจะไม่ถึงทางตัน

"ข้อเสนอของพรรคประชาชนเป็นแนวทางหนึ่งที่มีเป้าหมายเพื่อให้รัฐสภาเป็นสถาบันหลักแก้ไขปัญหาให้ประเทศ และรักษาการปกครองระบอบประชาธิปไตย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยจะนำไปพิจารณา เมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจ ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็มีแนวทางของตนเอง ซึ่งจะนำเสนอให้ประชาชนและพรรคการเมืองต่างๆ พิจารณาเช่นกัน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม" โฆษกพรรคภูมิใจไทยกล่าว

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงกรณีที่พรรค พท.ระบุว่าฝันกลางวันที่คิดถึงนายกฯ ชั่วคราวว่า นายกฯ ชั่วคราวเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตประวัติศาสตร์การเมืองไทย ประเมินแต่ข้อเสนอเราเสนอไปล่วงหน้า เพราะเราประเมินฉากทัศน์ ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่ถึงเพราะ น.ส.แพทองธารยังไม่พ้นจากตำแหน่ง แต่ที่พรรคประชาชนต้องออกมานำเสนอ เพราะบริบทสังคมเริ่มคิดไปต่างๆ นานา ตนคิดว่าการขาดความน่าเชื่อถือของ น.ส.แพทองธาร ทำให้คนไทยไม่แน่ใจว่าอนาคตของประเทศจะเป็นอย่างไร

'เท้ง'ไม่ติดขัดอิ๊งค์นั่ง รมว.วธ.

ส่วนกรณีมีกลุ่มก้อนการเมืองบางกลุ่มยื่นตรวจสอบนายกฯ ในการดำรงตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตราบใดที่ยังไม่มีการฟันธงจากหน่วยงาน เช่น ศาล หรือองค์กรที่มีอำนาจในการติดตาม น.ส.แพทองธาร ก็ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในฐานะ รมว.วัฒนธรรม ตนไม่ได้ขัดข้องหรือติดขัดอะไร เรายืนยันมาโดยตลอดว่าสิ่งที่ทำให้การเมืองไทยติดล็อกมาถึงตอนนี้ไม่ใช่แค่การเลือกนายกฯ แต่การเมืองไทยไม่สามารถเดินหน้าไปไกลกว่านี้ได้ เพราะรัฐธรรมนูญปัจจุบันที่เป็นมรดกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช.

ขณะที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความระบุว่า ผมเสนอหลักการตั้งต้นก่อนจะวิเคราะห์ข้อเสนอของพรรคประชาชน ว่าการแสดงความเห็นด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายทำได้ ก็เกิดพื้นที่วิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย ขอสรุปความจริงตามที่ปรากฏจากข่าวให้เห็นชัดๆ อีกที แล้วจะมูฟออน เพราะที่จริงยังไม่ใช่เวลาของข้อเสนอนี้

ประมาณ 1 สัปดาห์หลังคุณอนุทินลาออกจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทย คุณโรม (รังสิมันต์ โรม คุณไอซ์ (รักชนก ศรีนอก) ไปกินข้าวกับคุณอนุทิน โดยคุณทอมเป็นคนนัดให้ เรื่องนี้ประชาชนไม่ทราบ แม้แต่คุณช่อก็ไม่ทราบ จนคุณทอมพูดขึ้นในรายการ เอาตัวเองยืนยัน คุณโรม คุณไอซ์ รับว่าจริง แต่ไปคุยเรื่องปราบคอลเซ็นเตอร์ ไม่มีดีล ไม่ได้คุยเรื่องอื่น คุณทอมรู้สึกผิดที่ทำให้หลายคนว้าวุ่น เอ่ยปากขอโทษทุกฝ่าย ยืนยันว่าไม่มีดีลลับใดๆ แต่บอกว่ามีการพูดสั้นๆ ในบทสนทนายาว โดยคุณโรมเสนอแนวทางโหวตให้คุณอนุทินเป็นนายกฯ จริง ภายใต้เงื่อนไขเดียวกับที่คุณเท้งพูด และเงื่อนไขดังกล่าวปรากฏในแถลงการณ์ของพรรคประชาชน คุณทอมพูดไม่ตรงหรือคุณโรมพูดไม่ครบ คนที่ไม่ได้ไปกินข้าวด้วย ใครจะไปทราบ คุณโรม ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้พูดเรื่องข้อเสนอตามที่คุณทอมเล่า ส่วนคุณไอซ์ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุด้วยยังไม่พูดอะไร

"แถมนิดนึงเรื่องคดีฮั้ว สว. ถ้าบอกว่ารัฐบาลเพิ่งมาทำเรื่องนี้ตอนสลายฟีลกับภูมิใจไทยแล้ว ผมว่าไม่ใช่ มีการร้องเรียน ตั้งคณะสอบสวน ออกหมายเรียก ฯลฯ เดินหน้ามาตั้งแต่ กกต.รับรอง สว. 200 คน อีกฝ่ายก็ตอบโต้มาเป็นระลอก จนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแล DSI สื่อมวลชนวิเคราะห์ว่าเป็นศึกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ทำอะไรก็เดินยาก แก้รัฐธรรมนูญก็ถูกขวาง แต่ไม่ได้พูดถึงบทบาทของฝ่ายค้าน" นายณัฐวุฒิระบุ

ด้านนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้า ปชน. กล่าวชี้แจงว่า การที่ไปกินข้าวกับนายอนุทินนั้น ในฐานะ สส.ที่ติดตามเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็อยากจะพูดคุยกับ รมว.มหาดไทย เพื่อให้เกิดความเข้าใจ รวมทั้งข้อมูลเพิ่มเติมในการแก้ไขปัญหา และปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนไม่ได้รับมอบหมายจากคุณณัฐพงษ์ว่า รังสิมันต์ไปคุยหน่อย ส่งไอซ์ รักชนก ไปคุยด้วย เพื่อที่จะจัดตั้งดีลร่วมกันด้วย มันไม่เมกเซนส์ตั้งแต่คำพูดนี้แล้ว เพราะฉะนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีดีลอะไร พูดตามตรงก็มีการพูดคุยเรื่องการเมือง ตนก็ถามคุณอนุทินว่า การร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง มันคงมีการพูดคุยอยู่แล้ว แต่ขอยืนยันในสาระสำคัญและวัตถุประสงค์ที่มีการพูดคุยกัน เป็นเรื่องของคอลเซ็นเตอร์เป็นหลัก ไม่ใช่เป็นเรื่องของข้อตกลงอะไรได้ เพราะขณะที่คุยนายอนุทินพ้นจากตำแหน่ง รมว.มหาดไทยแล้ว

ชี้ช่องยื่นถอดถอน รมว.วธ.

นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนักการเมืองหลายรายให้สัมภาษณ์ยืนยันไม่เห็นด้วยนิติสงครามว่า ฝากให้เหล่านักการเมือง พี่น้องประชาชนได้คิด ที่บอกกันว่า นิติสงคราม ความจริงมันไม่มีหรอก มันมีเพียงนิติรัฐและนิติธรรม ทุกคนต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ทำตามรัฐธรรมนูญก็จะไม่มีการทำผิดกฎหมาย ดังนั้นยืนยันว่า นิติสงครามที่นักการเมืองชอบพูดกัน มันก็เป็นเพียงวาทกรรมเท่านั้น หรือแม้แต่ที่มีผู้ร้อง ป.ป.ช. ตรวจสอบปมรัฐบาล โยกงบประมาณ อาจผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 เสี่ยงทำพรรคการเมืองสิ้นสภาพ ดังนั้น หากนักการเมืองทุกคนทำตามกฎหมายแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกลงโทษ ถ้านักการเมืองไม่ได้กระทำความผิด กฎหมายก็ลงโทษพวกท่านไม่ได้

นายวัส ติงสมิตร นักวิชาการอิสระ อดีตผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า แพทองธารสามารถถูกถอดถอนจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมได้ แม้จะเป็นสาเหตุเดิม แต่เป็นการขอให้ถอดถอนในตำแหน่งใหม่ สามารถยื่นคำร้องได้ ด้วยเหตุผลดังนี้ 1.การมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง เป็นปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะมาเป็นรัฐมนตรี อันเป็นคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไม่ใช่การกระทำของบุคคลที่จะเข้าข่ายต้องห้ามฟ้องซ้ำในความผิดอาญา (double jeopardy หรือ ne bis in idem) หรือห้ามฟ้องซ้ำในคดีอื่น (res judicata)

2.ส่วนหลักการไม่รับคำร้องไว้พิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งรัฐธรรมนูญ 2560 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 ไม่มีหลักการห้ามร้องซ้ำ คงมีหลักการสำคัญอยู่ 2 ข้อ คือ (1) คำร้องไม่อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัย (คือไม่ต้องด้วยเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่จะรับไว้พิจารณาได้ ตามเรื่องพิจารณาที่ 4/2568 วันที่ 12 มีนาคม 2568) และ (2) คำร้องไม่เป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย (คำสั่งที่ 52/2563 วันที่ 29 กรกฎาคม 2563)

และ 3.กรณีร้องขอให้ถอดถอนแพทองธารออกจากตำแหน่ง รมว.วัฒนธรรม อยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะวินิจฉัยและเป็นสาระอันควรได้รับการวินิจฉัย เพราะเป็นการวินิจฉัยคนละตำแหน่งกับตำแหน่งนายกฯ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาแล้ว แพทองธารจะได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา โดยยกเรื่องร้องซ้ำต้องห้ามขึ้นต่อสู้ได้ ศาลรัฐธรรมนูญจะได้วินิจฉัยเป็นบรรทัดฐาน โดยน่าจะสั่งให้รวมพิจารณาไปเสียทีเดียว

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “การชุมนุมทางการเมือง ในสายตาคนไทย 2568” กลุ่มตัวอย่าง 1,167 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2568 พบว่า กลุ่มตัวอย่างไม่สนใจเข้าร่วมการชุมนุมทางการเมือง ร้อยละ 38.39 โดยคิดว่าการชุมนุมทางการเมืองในปัจจุบันมีบทบาทต่อการเปลี่ยนแปลงประเทศในระดับปานกลาง ร้อยละ 48.93 จุดเด่นคือสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน ร้อยละ 55.28 จุดด้อยคือมีความเสี่ยงต่อความรุนแรง ร้อยละ 48.16 ทั้งนี้เมื่อมีการชุมนุมทางการเมืองก็คาดหวังว่าจะมีการลาออกของผู้นำรัฐบาล ร้อยละ 58.58 ในสถานการณ์ปัจจุบันหากเกิดรัฐประหารก็ไม่เห็นด้วย เป็นการละเมิดระบอบประชาธิปไตย ร้อยละ 42.50.