24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม 2568
24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 6 กรกฎาคม 2568
>> รถพ่วงเบียดกับรถตู้ บนถนนสายเอเชีย คณะผู้แสวงบุญบาดเจ็บหลายราย จ.สิงห์บุรี
09.00 น. สภ.เมืองสิงห์บุรี รับแจ้งเหตุรถพ่วงชนกับรถตู้โดยสารเหตุเกิดบนถนนสายเอเชียบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 83 + 500 ตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถตู้โดยสารไม่ประจำทาง สีเทา หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร ลักษณะเบียดอัดติดอยู่กับ รถพ่วง หมายเลขทะเบียน ลำปาง และขอบทางในสภาพได้รับความเสียหายฝั่งซ้ายไปครึ่งคัน มีผู้โดยสารที่โดยสารมากับรถตู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 5 ราย บางรายกระเด็นออกมาจากตัวรถ บางรายก็ถูกอัดติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำตัวออกมาจากรถและเร่งนำส่งโรงพยาบาลสิงห์บุรี
คนขับรถตู้เปิดเผยว่า รับผู้โดยสารมาจากกรุงเทพฯ จำนวน 9 คน โดยทั้งหมดเป็นแม่ค้าจากตลาดบางบอน เป็นสตรีสูงอายุทั้งหมด จะเดินทางไปทำบุญที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุขณะที่รถกำลังแล่นอยู่เลนฝั่งขวาสุด จู่ๆถูกรถพ่วงซึ่งวิ่งอยู่ฝั่งซ้ายสุด เสียหลักเอนเบียดมาจากฝั่งซ้ายมาฝั่งขวา ตนพยายามหยุดรถ แต่ก็ไม่พ้นถูกตัวลูกพ่วงกระแทกจนอัดติดกับขอบกั้นทาง ทำให้เกิดเหตุและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
คนขับรถพ่วงเผยว่า ขับรถบรรทุกแป้งมันกำลังจะไปที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุไม่สามารถควบคุมรถได้ เพราะแหนบล้อหน้าด้านซ้ายหัก กำลังจะนำกลับไปซ่อมที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่ก็มาเกิดเหตุเสียก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้สอบสวนต่อไป
>> ชายวัย 21 ปี ถูกรถไฟชนเสียชีวิตที่หลังสวน ชุมพร เร่งสอบสวนหาสาเหตุ จ.ชุมพร
09.20 น. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ เกิดสวัสดิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านในหูต ได้รับแจ้งเหตุพบร่างของผู้เสียชีวิต บริเวณริมรางรถไฟ เสาโทรเลขที่ 630/12 หมู่ที่ 10 ตำบลแหลมทราย อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.จเร ชูแก้ว สวญ.สภ.บ้านในหูต และแพทย์จากโรงพยาบาลหลังสวน
จากการตรวจสอบ พบร่างของ ชายไทย อายุ 21 ปี ภูมิลำเนาชาวจังหวัดราชบุรี สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่ริมรางรถไฟ สภาพศพมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณใต้คางและขาทั้งสองข้าง ผู้ตายพักอาศัยอยู่ที่บ้านเช่าห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 30 เมตร
เจ้าหน้าที่ประจำสถานีรถไฟหลังสวน ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายถูกรถไฟขนส่งสินค้า ขบวนที่ 778 ชนเเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวนได้นำศพส่งโรงพยาบาลหลังสวนเพื่อชันสูตรพลิกศพร่วมกับแพทย์
เบื้องต้นญาติของผู้ตายไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงมอบศพให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรืออุบัติเหตุ
>> หนุ่มขับจยย. พบตำรวจทำตัวมีพิรุธ และจำทำการหลบหนี ตำรวจเข้าทำการตรวจค้น พบยาบ้า 3 ร้อยกว่าเม็ด
10.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ขณะที่ ร.ต.อ.อำนาจ คำแก้ว ร้อยเวรป้องกันปราบปราม พร้อมด้วย สายตรวจรถยนต์ และ สายตรวจรถจักรยานยนต์ กำลังปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจชั่วคราวบริเวณ ซอยไดม่อน ม.1 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี เมื่อเวลา 02.00 น.ที่ผ่านมา
ได้พบเห็นผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์มา พอพบเห็น จนท.ตร. มีท่าทางมีพิรุจและจะทำการหลบหนี ร.ต.อ.อำนาจฯ พร้อมกับพวก จึงได้ขอตรวจสอบและขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ ยาบ้า จำนวน 399 เม็ด และยาไอซ์ จำนวน 0.8 กรัม(ไม่รวมถุง) จึงได้ทำการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา และนำส่ง พงส.สภ.เสม็ด ดำเนินคดีต่อไป
>> หนุ่มใหญ่ ขี่รถจักรยานยนต์ชนกับฝูงวัวกลางถนน ร่างกระเด็นลอยตกกระแทกพื้นเสียชีวิต
12.55 น. รับแจ้งจาก หน่วยกู้ภัยฮุก 31 บุรีรัมย์ จุดละหานทราย มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับวัว และมีผู้บาดเจ็บสาหัส ริมถนนสายบ้านปากช่อง - หนองแวง ในพื้นที่ อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน บุรีรัมย์ ล้มคว่ำ ห่างออกไปพบร่างของผู้เสียชีวิต ตรวจสอบเอกสาร เป็นชายไทย อายุ 47 ปี
เบื้องต้นทราบว่า ผู้เสียชีวิต ขับขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทาง แล้วปรากฎว่ามีฝูงวัว วิ่งออกจากซอยตัดหน้าแบบกระชั้นชิด ทำให้เบรกไม่ทันชนวัวอย่างจัง ร่างกระเด็นลอยตกกระแทกพื้นหมดสติ ส่วนวัววิ่งหนีไปอีกฝั่งถนน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย พร้อมแพทย์เวรร่วมตรวจสอบ และจะดำเนินการสอบสวนเจ้าของวัว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
>> รถพ่วงพลิกตะแคงทับคนขับเสียชีวิต บนถนนสายลำปาง - งาว จ.ลำปาง
13.20 น. รับแจ้งจาก อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดลำปาง มีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงพลิกคว่ำและมีผู้บาดเจ็บ บนถนนเส้นทาง ลำปาง - งาว ฝั่งทางออกเมืองลำปาง บริเวณสะพานห้วยแม่ดำ ในพื้นที่ บ้านท่าสี ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง
ที่เกิดเหตุ พบรถพ่วง ยี่ห้อ ฮีโน่ สีขาว ป้ายทะเบียน สมุทรปราการ ลักษณะพลิกตะแคง ตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย สภาพร่างติดอยู่ในตัวรถ ทางอาสาสมัครดำเนินการงัดรถ และนำร่างออกมา
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เมาะ และเจ้าหน้าที่ชุดนิติเวชเข้าตรวจสอบ ร่วมกับเเพทย์เวร ก่อนจะมอบร่างผู้เสียชีวิตให้อาสาฯ นำส่งห้องนิติเวช โรงพยาบาลเเม่เมาะ เพื่อชันสูตรหาสาเหตุต่อไป
>> สีกาสารภาพ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระผู้ใหญ่นับสิบรูป บางรายยังบวชอยู่
14.38 น. จากกรณีมีการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสีกา เอ (นามสมมุติ) คนสนิทของทิดอาชว์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ ที่ลาสิกขาไปก่อนหน้านี้ และยังพบว่ามีส่วนพัวพันกับพระชั้นผู้ใหญ่อีกหลายรูปนั้น
ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ พร้อมทีมสืบสวน เร่งตรวจสอบและรวบรวมหลักฐานต่างๆ ในคดีเพิ่มเติม ทั้งที่ได้จากวัดตรีทศเทพฯ และหลักฐานที่ตรวจค้นได้จากภายในบ้านพักของสีกาเอ รวมทั้งเร่งผลตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่องของสีกาเอ เจ้าหน้าที่ขออายัดมาตรวจสอบอย่างละเอียดด้วย
จากการตรวจสอบเส้นเงินของเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพฯ มีรายงานว่า มีการจ่ายเงินให้กับสีกาเอ ไปเพียงหลักล้านบาท ไม่ได้มากมายเหมือนกับคดีของอดีตเจ้าอาวาสอื่น ที่มีการนำเงินของวัดมาจ่ายให้กับสีกาคนสนิทหลายร้อยล้านบาท โดยในรายของอดีตเจ้าอาวาสวัดตรีฯ นั้น ทราบว่าเป็นเงินส่วนตัวของทิดอาชว์ ที่ต้องยอมจ่ายให้ไป เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกร้องเรียน ก่อนที่เรื่องจะบานปลายกลายเป็นข่าวฉาวดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า ที่ผ่านมา สีกาเอ เข้าไปมีความสัมพันธ์กับพระระดับชั้นผู้ใหญ่ ค่อนข้างจะมีฐานะมาแล้วหลายสิบรูป บางรายยังบวชอยู่ บางรายลาสิกขาไปแล้วด้วย บางรูปเป็นถึงพระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าคณะจังหวัด ความสัมพันธ์ลึกซึ้งจนถึงขั้นมีบุตรด้วยกัน แต่ให้ญาติคนสนิทไปจดทะเบียนรับเป็นพ่อของเด็กอีกด้วย
ขณะเดียวกันสำหรับจีวรหลายผืนที่พบอยู่ในบ้านของสีกาเอ มีรายงานว่าเจ้าตัวให้การรับสารภาพแล้วว่า มีใครเป็นเจ้าของบ้าง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ก่อนประสานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาร่วมดำเนินการทางวินัยสงฆ์ต่อไป ทั้งนี้ทราบด้วยว่า มีพระชั้นผู้ใหญ่นับสิบรูปที่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกาเอ ถึงขั้นปาราชิก แต่ปัจจุบันยังบวชอยู่อีกด้วย
>> รวบ 2 หนุ่มใหญ่ลักลอบขนต่างด้าวจีนเถื่อนคาถนน สารภาพได้รับจ้างคนละ 6 พันบาท
14.58 น. ตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง(บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม ผู้ต้องหาลักลอบขนแรงงานต่างด้าว จำนวน 2 ราย และผู้ต้องหาต่างด้าว 4 ราย (สัญชาติจีน) ความผิดฐาน
ผู้ต้องหาที่ 1 - 2 “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม” ผู้ต้องหาที่ 3 - 6 “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” สถานที่จับกุม บริเวณถนน ทล.12 กม.114 - 115 อ.เมืองตาก จ.ตาก
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่ามีรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน คาดว่ามีสิ่งผิดกฎหมายอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้เร่งสกัดจับรถทั้ง 2 คัน เพื่อเรียกรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบ ขณะนั้นพบรถกระบะมิตซูบิชิ สีเทา ซึ่งมีผู้ต้องหาชาวไทย เป็นผู้ขับขี่ และภายในรถพบชายชาวจีน 4 คน นั่งอยู่ในห้องโดยสาร พบว่าไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารรับรองบุคคลใดๆ และได้ตรวจสอบรถกระบะโตโยต้าสีดำ พบผู้ต้องหาชาวไทย เป็นผู้ขับขี่ ผู้ต้องหาทั้งสองรับว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากนายต้นฯ ได้รับค่าจ้างคนละ 6,000 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 2 คน และจับกุมชาวต่างด้าวชาวจีนทั้ง 4 คนทราบ และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังประจบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
>> รวบ 2 หญิงไทย ตีเนียนถูกหลอกไปทำงานปอยเปต แท้จริงรับจ้างข้ามแดนไปเปิด "บัญชีม้า-สแกนหน้า"
15.20 น. กองกำลังบูรพา (กกล.บูรพา) หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ (ฉก.อรัญประเทศ) โดย ชค.ทพ.12 กองร้อยทหารพรานที่ 1201(ร้อย ทพ.1201) สกัดจับหญิงไทย 2 คน อายุ 39 ปี และ อายุ 48 ปี ขณะกำลังมุดลวดหนามลักลอบข้ามแดนจากฝั่งปอยเปตกลับเข้าไทย บริเวณ บ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระเเก้ว จากการสอบถามเบื้องพบว่า ทั้ง 2 คน ซึ่งไม่ได้ถูกหลอกไปทำงาน มี่ปอยเปตแต่เป็นการ "สมัครใจ" ไปเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ และจากการตรวจสอบประวัติพบข้อมูลที่น่าตกใจ
พบว่า หนึ่งในผู้ต้องหา บัญชีธนาคารได้ถูกนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมแล้ว และมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความออนไลน์ในคดีที่เกี่ยวข้องไว้แล้วถึง 38 คดี ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การว่า ตกลงรับงานเปิดบัญชีธนาคารในราคาบัญชีละ 10,000 บาท ผ่านการชักชวนในเฟซบุ๊ก ซึ่งจะมีขบวนการจัดการเรื่องการเดินทางให้ทั้งหมด ตั้งแต่จ้างแท็กซี่ไปรับจาก จ.นครสวรรค์, เปิดโรงแรมให้พักที่อรัญประเทศ, และส่งคนมารับข้ามแดนไปจนถึงที่ทำงานในปอยเปต ซึ่งมีนายจ้างเป็นชาวจีน
พวกเธอได้เปิดบัญชีธนาคารให้แก๊งดังกล่าวคนละ 3 บัญชี และสแกนใบหน้าตามคำสั่ง จนถึงวันที่ 5 ก.ค. 68 ก่อนได้รับค่าจ้างคนละ 8,000 บาท เมื่อ "งานเสร็จ" นายจ้างชาวจีนจึงให้กลับประเทศ แต่สุดท้ายก็มาถูกจับกุมขณะลักลอบกลับเข้าประเทศไทย
การจับกุมครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการสกัดกั้นผู้ที่ลักลอบเข้าเมือง แต่ยังสามารถนำตัวผู้ร่วมขบวนการคนสำคัญซึ่งเป็นต้นตอของคดีฉ้อโกงจำนวนมากมาดำเนินคดีได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง สภ.คลองลึก จ.สระเเก้ว เพื่อนำไปขยายผลถึงเครือข่ายที่จัดหาคนไปเปิดบัญชีม้าต่อไป
>> รถจักรยานยนต์เสียหลักชนเสาไฟฟ้าแรงสูง ผู้ขับขี่เป็นหญิงวัย 30 ปีเสียชีวิต บนถนนเลียบคลองฯ จ.เชียงใหม่
15.30 น. ทีมกู้ภัยเฉพาะกิจเชียงใหม่ ตรวจสอบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนเสาไฟฟ้าแรงสูง บริเวณถนนเลียบคลองชลประทาน บ้านใหม่ป่าจี้ตำบลหางดง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีเทา ลักษณะพุ่งชนเสาไฟฟ้า สภาพด้านหน้ารถพังเสียหาย ใกล้กันพบร่างผู้ขับขี่เป็นหญิง 1 ราย อายุประมาณ 30 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างรถ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยเฉพาะกิจเชียงใหม่ อำนวยความสะดวกในที่เกิดเหตุ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ชีพประจำพื้นที่ พนักงานสอบสวน สภ.หางดง และแพทย์เวรจากโรงพยาบาลหางดง ซึ่งเข้าตรวจสอบสภาพศพและบันทึกข้อมูลเบื้องต้น
>> "กองกำลังนเรศวร" นำอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้ง หลังชายแดนเมียนมาฝั่ง จ.ตาก ยังรบดุเดือด ป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
17.00 น. สถานการณ์การสู้รบที่ จ.ตาก ระหว่างทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ซึ่งประกอบด้วย กองกำลังเคเอ็นดีโอ และกองกำลังปกป้องประชาชน (พีดีเอฟ) หรือกลุ่มต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมา กับทหารเมียนมา ที่กองบังคับการยุทธวิธีที่ 1 ค่ายทีตาแหล่ บ้านทีตาแหล่ อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ด้านตรงข้าม บ้านวาเล่ย์เหนือ ม.3 ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากชายแดนไทยริมแม่น้ำเมยเพียงแค่ 2 กิโลเมตร แม้มีฝนตกโปรยปรายตลอดทั้งวัน แต่ยังคงมีการสู้รบอย่างหนัก โดยทั้ง 2 ฝ่าย ใช้การปฏิบัติทางทหารทั้งทางบกและทางอากาศ
ล่าสุด ทหารกะเหรี่ยงบุกเข้าโจมตีและยึด สภ.วาเล่ย์ ที่มีทหารเมียนมาดูแลแทนตำรวจอยู่ ทำให้ทหารเมียนมาเสียชีวิต 3 นาย ส่วนที่เหลือหลบหนีไปรวมตัวกันที่ค่ายทหารเมียนมาลึกจากชายแดนไทย เมียนมา ประมาณ 1 กิโลเมตร ขณะการใช้เครื่องบิน Y-12 ของกองทัพเมียนมา บินทิ้งระเบิดในพื้นที่รอบค่ายทีตาแหล่ นั้น ทำให้ประชาชนชาวเมียนมาในหมู่บ้านถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 5 คน ชาวบ้านช่วยกันนำผู้ได้รับบาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลพบพระ อ.พบพระ
ขณะที่ศูนย์สั่งการชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก ออกแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่มีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับชนกลุ่มน้อยฝั่งตรงข้าม อ.พบพระ ระหว่างวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2568 ห่างจากแนวชายแดน 3 กิโลเมตร ไม่ส่งผลกระทบต่อราษฎรไทย และมีความเสียหายต่อทรัพย์สิน แต่มีผู้หนีภัยจากการสู้รบ จำนวน 408 คน เจ้าหน้าที่ได้จัดให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 จุด ในพื้นที่โกดังของเอกชน และพื้นที่โกดังของสหกรณ์การเกษตร ต.วาเล่ย์ อ.พบพระ
ด้านกองกำลังนเรศวร ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย เช่นเดียวกับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด วางกำลังติดตามสถานการณ์ตามแนวชายแดน, จัดกำลังพลชุดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอาวุธยิงสนับสนุนเข้าที่ตั้งยิงตามแผนเผชิญเหตุ, ลาดตระเวนเฝ้าตรวจเพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย พร้อมทั้งสนับสนุนอำเภอพบพระ, กิ่งกาชาดอำเภอพบพระ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม
>> รถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์กลางทางแยก มีทั้งผู้ได้บาดเจ็บ 1 และผู้เสียชีวิต 1 ราย
17.35 น. รับแจ้งอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จ.ลพบุรี จุดพัฒนานิคม ว่ามีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ ชนกับ รถยนต์กะบะ และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณ สี่แยกซอย 24 สายเอก หมู่ที่ 4 ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ เอ็มจี สีขาว ลักษณะชนกับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน - ขาว ไม่พบป้ายทะเบียน ตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เป็นผู้ชาย 1 ราย และพบว่ามีผู้บาดเจ็บหญิง 1 ราย ทางอาสาสมัครฯ ให้การช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลพัฒนานิคม เขตรับผิดชอบ สภ.พัฒนานิคม
>> รถเฮี๊ยบพลิกตะแคงทับท่อนไม้ และมีผู้เสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากรถ
19.20 น. รับแจ้งจาก สมาคมกู้ภัยบางแก้วสุโขทัยจุดสวรรคโลก มีเหตุรถบรรทุกทับคน และมีผู้บาดเจ็บสาหัส บริเวณซอยข้างร้านช่างมิ่งกระจก ม.12 ต.ในเมือง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย
ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 6 ล้อ (รถเฮี๊ยบ) โตโยต้า สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน สุโขทัย ลักษณะพลิกตะแคงทับท่อนไม้อยู่ข้างทาง ตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 56 ปี ทางเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดำเนินการงัดรถและนำร่างออกมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวรรคโลก
>> โครงเหล็กในไซต์ก่อสร้าง นิมิตใหม่ซอย 6 พังถล่มทับคนงานเจ็บหลายราย
19.55 น. รับแจ้งเกิดเหตุอาคารอยู่ระหว่างก่อสร้างทรุดตัว ภายในซอยนิมิตใหม่ 6 ถนนนิมิตใหม่
โดยที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเป็นอาคารอยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 ชั้น โครงเหล็กทรุดตัวจากชั้นที่ 2 สอบถามจากผู้ควบคุมงานยืนยัน มีคนงานอยู่ระหว่างปฏิบัติงานในที่เกิดเหตุจำนวน 160 ราย ยืนยันยอดจำนวนคน ขณะนี้ออกมาอยู่ภายนอกอาคารครบตามจำนวนที่ผู้ควบคุมงานแจ้ง ไม่มีผู้ติดค้างภายใน ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และอาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย อาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 เป็นเพศชายจำนวน 5 ราย เพศหญิงจำนวน 3 ราย และนำส่งโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 เป็นเพศชายจำนวน 4 ราย รายละเอียดเพิ่มเติมอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ล่าสุดเพจ กรุงเทพมหานครโพสต์รายงาน เพิ่มเติม เหตุการณ์ดังกล่าว ไม่มีผู้ติดค้างภายใน ในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 12 ราย และอาสาสมัครนำส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการภายในอาคารเข้าตรวจสอบไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ติดค้างภายในอาคารเพิ่มเติม
>> ไฟไหม้รถยนต์ แถวแยกมหานคร อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนจะลุกลาม
22.25 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ แยกมหานคร ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชนิดเก๋ง สีเขียว ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันเบนซินเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณห้องเครื่องลุกลามห้องโดยสาร อาสาสมัครใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ และทางเจ้าหน้าที่ใช้น้ำทำการระบายความร้อน
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณห้องเครื่อง ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหนองจอก
>> ไฟไหม้รถยนต์ ใกล้เคียงโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เสียหายหวิดวอดทั้งคัน
22.29 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ สถานที่เกิดเหตุ ใกล้เคียงโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ถนนพระรามที่ 4 แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์ ชนิดกระบะ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน กรุงเทพมหานคร รถใช้น้ำมันดีเซลเป็นเชื้อเพลิง เพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณห้องเครื่องลุกลามห้องโดยสาร รถน้ำสำนักงานเขตใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้น สาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ระบบเครื่องปรับอากาศรถยนต์ ที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยคลองเตย
>> รถกระบะชนเสาไฟฟ้าทางเข้าบ้านหางแคว เสาหักขวางถนน – ปิดการจราจรทั้งคืนเพื่อความปลอดภัย
00.20 น. ทีมกู้ภัยเฉพาะกิจเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนเสาไฟฟ้า บริเวณทางเข้าบ้านหางแคว ตำบลท่าวังตาล อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ มิตซูบิชิ สีขาว ลักษณะเสียหลักชนต้นไม้ข้างทางและเสาไฟฟ้าแรงสูง จนหักโค่นลงมา 1 ต้น ตัวรถได้รับความเสียหายบริเวณด้านหน้า อย่างไรก็ตาม ผู้ขับขี่ปลอดภัยและไม่ได้รับบาดเจ็บ
เนื่องจากเสาไฟฟ้าหักล้มขวางถนน และมีสายไฟแรงสูงพาดอยู่ในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงต้องดำเนินการตัดกระแสไฟ และปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวตลอดทั้งคืน เพื่อดำเนินการซ่อมแซมและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนผู้ใช้เส้นทาง ประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางผ่านเส้นทางดังกล่าว ขอให้หลีกเลี่ยงหรือใช้เส้นทางอื่นชั่วคราว จนกว่างานซ่อมแซมจะแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว
>> แผ่นดินไหว ที่จังหวัดลำปาง
02.14 น กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 1.4 ความลึก 2 กม. บริเวณพื้นที่ของ ต.บ้านเป้า อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง ยังไม่มีรายงาผลกระทบ