ผอ.เขตมีนบุรี เผย สั่งระงับงานก่อสร้าง โครงเหล็กถล่มกลางไซต์งาน กปน.
ผอ.เขตมีนบุรี เผย สั่งระงับงานก่อสร้าง โครงเหล็กถล่มกลางไซต์งาน กปน. คนงานเจ็บ 12 ราย – จับตาสาเหตุลมแรง-เหล็กค้ำไม่มั่นคง
วันที่ 7 ก.ค. 68 ที่ ซอยนิมิตรใหม่ 6 เขตมีนบุรี จากกรณีเกิดอุบัติเหตุโครงเหล็กภายในโครงการก่อสร้างของการประปานครหลวง (กปน.) บริเวณสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี ซอยนิมิตรใหม่ 6 ถนนนิมิตรใหม่ แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ทรุดตัวและพังถล่มลงมาทับกลุ่มคนงาน เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น 12 ราย ขณะปฏิบัติงาน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สำนักงานประกันสังคม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
นายศักดิ์ชัย ใสสุข ผู้อำนวยการเขตมีนบุรี เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเป็นการก่อสร้างบ่อเก็บน้ำขนาดใหญ่ของสถานีสูบจ่ายน้ำมีนบุรี กปน. มีขนาดกว้าง 80 เมตร ยาว 120 เมตร และสูง 8 เมตร สามารถรองรับน้ำได้ประมาณ 76,000 ลูกบาศก์เมตร
นายศักดิ์ชัย อธิบายว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเคลื่อนตัวของโครงเหล็กบางส่วน ไม่ใช่การถล่มทั้งหมด โดยมีผู้บาดเจ็บ 12 ราย ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุสัญชาติได้แน่ชัดว่าเป็นแรงงานไทยหรือแรงงานต่างด้าวจำนวนเท่าใด เบื้องต้น กปน. ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่ และปิดกั้นบริเวณ เพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง
นายศักดิ์ชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะเกิดเหตุ โครงการยังอยู่ในขั้นตอนการผูกเหล็กเท่านั้น ยังไม่มีการติดตั้งหรือลงมือเทคอนกรีต โดยยืนยันว่ามีการติดตั้งเหล็กค้ำยันและนั่งร้านรองรับโครงสร้างอยู่แล้ว เบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดจากฝนตกและลมแรง ส่งผลให้เหล็กค้ำยันไม่สามารถรองรับน้ำหนักได้อย่างเพียงพอ จึงทำให้โ
ครงเหล็กล้มลงในลักษณะลูกโซ่ หรือ “โดมิโน” นอกจากนี้สำนักงานเขตมีนบุรีจึงมีคำสั่งระงับการก่อสร้างโครงการนี้เป็นการชั่วคราว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบได้อย่างละเอียด
สำหรับมาตรฐานของเหล็กเส้นที่ใช้ในโครงการ นายศักดิ์ชัยระบุว่า ไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องรองรับน้ำหนักจำนวนมาก และ กปน. ในฐานะหน่วยงานของรัฐ ย่อมเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน
ด้านการเยียวยาผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นบริษัทผู้รับเหมาจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายก่อน ส่วนภาครัฐจะพิจารณาตามแนวทางของสำนักงานประกันสังคม
ทั้งนี้ นายศักดิ์ชัย ยืนยันว่า โครงการก่อสร้างดังกล่าวดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขออนุญาตก่อสร้างเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นโครงการของหน่วยงานภาครัฐ