โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

แรงงานกัมพูชาในเมืองพัทยา วอนผู้นำประเทศหยุดกดดันให้ออกจากไทยด้วยคำขู่ยึดบ้าน-ถอนสัญชาติ

Manager Online

เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว • MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา – แรงงานชาวกัมพูชาในเมืองพัทยา วอนผู้นำประเทศหยุดกดดันพลเรือนของตัวเองให้เดินทางกลับบ้านด้วยการข่มขู่ยึดบ้าน – ถอนสัญชาติ เผยกลับไปก็ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินใช้หนี้ ขณะผู้ประกอบการไทย วอนผู้นำทั้ง 2 ประเทศคำนึงถึงประโยชน์ชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว

จากเหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย – กัมพูชาที่ขณะนี้ยังไม่มีที่ท่าว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย แม้ตัวแทนรัฐบาลของทั้ง 2 ประเทศจะมีการจัดทำข้อตกลง “หยุดยิง”ร่วมกัน รวมทั้งแนวทางการปฏิบัติ 13 ข้อเพื่อให้เกิดสันติระหว่างการประชุม GBC ที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ดูเหมือนว่ายังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งกับหน่วยงานทหาร และประชาชนชาวไทยที่ยังพบพฤติกรรมการก่อกวนบริเวณแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง

ไม่เว้นแม้แต่แรงงานชาวกัมพูชา ที่เข้ามารับจ้างทำงานในประเทศไทยได้ ที่ในวันนี้ยังคงทยอยขนข้าวของเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากเกรงขำขู่ถอดสัญชาติ ยึดบ้าน-ยึดที่ดิน ของผู้นำกัมพูชา จนทำให้ภาคธุรกิจของไทยที่ต้องใช้แรงงานกัมพูชาพลอยได้รับผลกระทบไปด้วยนั้น

วันนี้ ( 10 ส.ค. ) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจไซด์งานก่อสร้างบ้านหรู มูลค่าขายต่อหลังมากกว่า 30 ล้านบาทใน ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ที่เคยมีแรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมาก พบว่าขณะนี้เหลือแรงงานชาวกัมพูชาอยู่ไม่กี่คน และส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินทางกลับประเทศ

โดยนายชิติพัทธ์ จั่นทอง อายุ 55 ปี อดีตนักฟุตบอลสโมสรราชนาวี ที่ได้ผันตัวไปประกอบอาชีพเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง บอกว่าค่อนข้างที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาแรงงานกัมพูชาที่เดินทางกลับประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองพยายามที่จะเหนี่ยวรั้งแรงงานเหล่านี้ให้อยู่ช่วยทำงานให้แล้วเสร็จ แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะแรงงานกัมพูชาได้รับข้อมูลจากญาติว่า หากไม่กลับจะถูกยึดบ้านและที่ดิน รวมทั้งยึดพาสปอร์ต

และยังได้รับข้อมูลจากญาติของตนเองอีกว่า หากต่อไปไม่มีสถานกงสุลกัมพูชาในประเทศไทยแล้วจะทำให้ชาวกัมพูชาถูกคนไทยทำร้าย เช่นเดียวกับอีกหลายข้อมูลที่แรงงานเขมรซึ่งทำงานในประเทศไทย ได้รับจากญาติในกัมพูชา

“ พอเป็นแบบนี้กลุ่มแรงงานกัมพูชาก็เริ่มกลัว และมีความกังวลพากันลาออกและเก็บข้าวของเดินทางกลับประเทศไปจนเกือบหมด วันนี้จึงเหลือแรงงานที่ยังทำงานอยู่ด้วยเพียง 7-8 คนเท่านั้น ซึ่งตัวเองทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาเป็นนานหลาย 10 ปี ครั้งนี้ถือว่าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่สุด”

ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้แรงงานกัมพูชาเพราะค่อนข้างมีฝีมือในงานก่อสร้าง โดยยก่อนหน้านี้ที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่สงบแรงงาน เหล่านี้ยังคงทำงานตามปกติ แต่เมื่อเกิดสถานการณ์การสื่อสารข้อมูลในประเทศไทยและกัมพูชาที่มีความต่างกันอย่างสิ้นเชิง แรงงานเจึงต้องการที่จะเดินทางกลับบ้าน

“ อยากฝากไปถึงอดีตผู้นำประเทศกัมพูชา อย่าง สมเด็จฮุน เซน ขอให้มองที่ประชากรของตัวเองเป็นสำคัญมากกว่าธุรกิจส่วนตัว และไม่ควรที่จะมีการกดดันให้ประชากรของตนเองเดินทางกลับประเทศ ส่วนผู้นำของไทย ก็ควรที่จะแนวทางแก้ไขปัญหา ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ และอยากให้มองที่ผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญเช่นกัน ” นายชิติพัทธ์ กล่าว

เช่นเดียวกับ นายดำ อายุ 40 ปี หนึ่งในคนงานก่อสร้างชาวกัมพูชาที่ยังคงทำงานอยู่ในประเทศไทยที่บอกว่า ตนเองเข้ามาทำงานอยู่ในประเทศไทยนานกว่า 5 ปีแล้ว และเมื่อเกิดการปะทะกันตามแนวชายแดนยอมรับว่ากลัวมาก เพราะครอบครัวของตนเองอาศัยอยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา โดยกลัวบ้านจะถูกกระสุนปืน

และยังบอกอีกว่าขณะนี้เพื่อนร่วมสัญชาติเดียวกันได้เดินทางกลับประเทศไปจำนวนมากแล้วเพราะกังวลเรื่องกระแสข่าวถูกยึดที่ดินและบ้าน และบางส่วนก็กลัวจะถูกคนไทยทำร้าย

“ สาเหตุที่เลือกไม่เดินทางกลับประเทศเพราะส่วนหนึ่งนายจ้างขอร้องให้อยู่ช่วยงาน และอีกส่วนหนึ่งคือหากกลับไปแล้วไม่มีงานทำก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนใช้หนี้ สุดท้ายก็ไม่อยากให้เกิดสงครามและอยากให้ประเทศไทยและประเทศกัมพูชา กลับมาดีกันเหมือนเดิม” นายดำ กล่าว

เช่นเดียวกับ นายตา อายุ 34 ปี ชาวกัมพูชา ที่ทำงานในอู่ต่อเรือสปีดโบ๊ทในเมืองพัทยา ที่บอกว่าก่อนหน้าตนเองก็ถูกเพื่อนชาวกัมพูชาชักชวนให้กลับบ้าน เพราะเกรงว่าอยู่ไปก็จะไม่ปลอดภัย แต่เนื่องจากที่ผ่านมาตนเองได้รับการดูแลจากเจ้านายเป็นอย่างดีและให้คำปรึกษามาโดยตลอด

ที่สำคัญ รัฐบาลไทย ให้เกียรติชาวเขมรที่ทำงานในประเทศไทย จึงตัดสินใจไม่กลับและเลือกที่จะไม่ดูข่าวในประเทศของตัวเอง เพราะหากดูแล้วก็จะเกิดความเครียด สุดท้ายก็จะอยากเดินทางกลับบ้าน

“ อยากฝากถึงชาวเขมรว่า อย่างเกลียดชังคนไทยหรือไปหาเรื่องคนไทยก่อน เพราะประเทศไทยยังมีที่ที่ปลอดภัย อีกทั้งไม่อยากให้ทั้ง 2 ประเทศเกิดปะทะกันอีก” นายตา กล่าว

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

“แตงกวา MUT สระแก้ว” ร่ำไห้ วอนโลกใจดีหลังเจอดรามาชุด-ถูกมองเป็นขโมย แจงอ๊องเพราะนอนน้อย ไม่เกี่ยวปากกาลดน้ำหนัก

46 นาทีที่แล้ว

“ณวัฒน์” เผยสาเหตุ “แตงกวา MUT สระแก้ว” อ๊องๆ งงๆ เพราะใช้ปากกาลดน้ำหนัก ฝากเป็นอุทาหรณ์สำหรับ PD ควรเลือกนางงามพร้อมใช้

57 นาทีที่แล้ว

“ณวัฒน์” ฉุน “ชาล็อต” ดื้อ! ไม่ตอบแชต-ไม่อวยพรวันเกิด แหกคอกแอบไปงาน “ฟรีน” แฟนคลับอย่าสปอยจนเข้าใจอะไรผิดๆ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันแม่ซึ้งปนฮา! “บอย - หน่อง - ภัทร์” แปลงโฉมเป็น “แม่งามทิพย์” เพื่อ “น้องวันใหม่”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

รถตู้ชนประสานงากับรถนั่งส่วนบุคคล บนถนนเส้นทางบ้านดุง - สุมเส้า มีผู้บาดเจ็บสิบกว่าราย จ.อุดรธานี

สวพ.FM91

รถกระบะชนกับรถบรรทุกกลางถนน มีผู้เสียชีวิตในซากรถ จ.ขอนแก่น

สวพ.FM91

‘หนุ่มไนจีเรีย’ ลอบเผ่นเข้าไทยอ้างอยู่ ‘เขมร’ ไม่ไหว จ่ายนายหน้า 400 เหรียญ ถูกหิ้วปล่อยไร่อ้อย

เดลินิวส์
วิดีโอ

ทหารแนวหน้า อัดคลิปสุดพิเศษ ถึงคนข้างหลัง ไม่ต้องห่วงอะไร ทุกคนคือนักสู้ จะกลับไปด้วยความภาคภูมิใจ

BRIGHTTV.CO.TH

ชัวร์ก่อนแชร์: Epstein Files คือแผนลวงโลกของเดโมแครต จริงหรือ?

สำนักข่าวไทย Online

ชัวร์ก่อนแชร์: Epstein Files คือแผนลวงโลกของเดโมแครต จริงหรือ?

ชัวร์ก่อนแชร์

กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เข้าประจำการในวอชิงตัน ดี.ซี.ปราบปรามอาชญากรรม

JS100

2 ปี ‘คดีชั้น 14’ กว่าความจริงจะปรากฏ!!

ไทยพับลิก้า

ข่าวและบทความยอดนิยม

กองทัพเรือ ลำเลียงร่างนักรบแห่งกองทัพเรือไทย ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลอย่างสมเกียรติ

Manager Online

ท่องเที่ยวพัทยาช่วงหยุดยาวคึกคักยอดจองห้องพัก รร.หลายแห่งทะลุเกิน 90 %

Manager Online

ชาวบ้านบางเลนไม่ทน! รวมเงินซื้อดินถมถนนพัง หลังรอรัฐแก้ 4 ปีไร้คืบหน้า

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...