ขอความเป็นธรรม กระบะชนประสานงา จยย. 2 สาววัย 17 ปี อาการสาหัส คู่กรณีบ่ายเบี่ยงรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายวาริน อายุ 50 ปี หมู่บ้านพฤกษา12 ม.2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่าบุตรสาวและเพื่อนบุตรสาวขับรถจักรยานยนต์และถูกรถกระบะชนข้ามเลนมาประสานงาจนบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ารับการผ่าตัดทั้ง 2 คนแต่คู่กรณีกลับบ่ายเบี่ยงที่จะรับผิดชอบ
โดยจากการเปิดเผยของนายวาริน กล่าวว่าวันเกิดเหตุคือวันที่ 6 สิงหาคมเวลา 21.00.น.ที่ผ่านมาลูกสาวตนคือนางสาวจริยา อายุ 18 ปีได้ขับรถจักรยานยนต์ออกไปกับเพื่อนคือนางสาวอิศวีร์พร อายุ 17 ปีเพื่อออกไปเอาเค็กวันเกิดเนื่องจากเป็นวันเกิดของลูกสาวตน
พอมาถึงตรงจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าร้านบีมค่าส่ง ซึ่งตั้งอยู่ถนนเลียบคลองสาม ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี ปรากฏว่ามีรถกระบะคันหนึ่งได้มาชนรถอีกคันแล้วแฉลบมาชนประสานงากับรถจักรยานยนต์ของลูกสาวคนที่กำลังขับอยู่จนร่างของลูกตนและเพื่อนลูกตนกระเด่นออกจากรถจนชาวบ้านเข้ามาดูกันจำนวนมาก
พอตนออกไปดูแล้วเห็นสภาพทั้งรถทั้งคนคาดว่าลูกสาวตนและเพื่อนคงเสียชีวิตแน่นอนเพราะรถจักรยานยนต์พังเสียหายยับเยิน เหตุการณ์นี้ทำให้ลูกสาวตนต้องรักษาตัวซึ่งมีอาการบาดเจ็บกระดูกต้นขาบนหักผิดรูปต้องผ่าตัดและแผลเย็บตามตัวกว่า 30 เข็มและในส่วนของเพื่อนลูกอีกคนคือนางสาวอิศวีร์พร อายุ 17 ปีมีอาการบาดเจ็บกระดูกสโพกหักและกระดูกเชิงกรานหัก
โดยจากเหตุการณ์นี้ตนได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์เอาไว้แล้ว โดยเบื้องต้นที่อยู่กับคู่กรณีที่โรงพักตนก็ได้ท้วงติงไปทางตำรวจว่าทำไมไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์คู่กรณีตำรวจก็แจ้งกลับมาว่าเครื่องวัดเสียทำให้ตนนั้นไม่มันใจในกระบวนการยุติธรรม อีกทั้งทางคู่กรณียังมีการบ่ายเบี่ยงที่จะเยียวยาแล้วตอบตนเพียงว่าให้เป็นหน้าที่ของกฏหมาย ซึ่งตนเห็นสภาพลูกแล้วสงสารมาก อีกทั้งทาง พ.ร.บ.รถคู่กรณีก็ไม่มีแต่ค่ารักษาน้องนั้นสูงมาก
ด้านนางสาวสุพรทิพย์ อายุ 48 ปีมารดาของนางสาวอิศวีร์พร อายุ 17 ปีได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่าน้องมีอาการสาหัสมากระดูกสะโพกหักและกระดูกเชิงกรานหักต้องรับการผ่าตัดอีกทั้งแพทย์ยังบอกว่าหากผ่าตัดแล้วต้องนั่งรถวิลแชร์ 3 เดือนและไม่รู้ว่าจะกลับมาเดินได้หรือไม่ ซึ่งตนเองต้องใช้สิทธิ์ของน้องโดยตอนนี้กรมธรรม์น้องใกล้เต็มแล้วจึงจะย้ายน้องมารักษาตามสิทธิ์ 30 บาทต่อ
โดยคู่กรณีไม่เคยมารับผิดชอบอีกทั้งรถของคู่กรณีกรมธรรม์ต่างๆขาดหมดทุกอย่างจนตนต้องใช้งบตัวเองรักษา โดยเมื่อเช้านี้ตนได้โทรไปหาตำรวจเพื่อสอบถามเรื่องผลตรวจเลือดของคู่กรณีปรากฏว่าทางตอบตำรวจตอบเพียงว่าผลเลือดยังไม่ออกเลยและที่สำคัญเรื่องการตรวจวัดแอลกอฮอล์ของคู่กรณีที่ตนถามไปว่าทำไม่เครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ถึงเสียไม่สามารถตรวจคู่กรณีไม่ได้ ซึ่งตำรวจก็ตอบว่าผมก็ให้คำตอบไม่ได้ต้องรอผลเลือดอย่างเดียวทำให้ตนรู้สึกกังวลใจมากเพราะตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงวันนี้ผลเลือดยังไม่ออกจึงฝากสอนขอความยุตธรรมให้กับน้องด้วย
ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดปทุมธานี รายงาน