AI ช่วยแพลตฟอร์มใหญ่ ‘กำไรโฆษณา’ โตเด่น แพลตฟอร์มเล็กเสี่ยงตกขบวน
แพลตฟอร์มใหญ่กำไรโฆษณาโตเด่น AI ดัน Meta และ Alphabet ผลประกอบการดีเกินคาด ขณะที่แพลตฟอร์มรายเล็กส่วนใหญ่ เช่น Snap และ Pinterest ล้วนมีผลประกอบการที่ซบเซา
Meta รายได้พุ่ง AI หนุนโฆษณา
มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta กล่าวระหว่างการรายงานผลประกอบการว่า AI ช่วยเพิ่ม “ประสิทธิภาพและกำไรจากระบบโฆษณาอย่างสูง” โดยสร้างรายได้กว่า 47,520 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 22% YoY
ซูซาน ลี ซีเอฟโอของ Meta ยังกล่าวกับนักวิเคราะห์ผ่านการประชุมในวันที่ 30 กรกฎาคม หลังประกาศผลประกอบการอีกด้วยว่า “ตลาดโฆษณาออนไลน์มีการปรับตัวดีขึ้นนับตั้งแต่เดือนเมษายน”
เมื่อย้อนกลับไปยังเดือนเมษายน ขณะนั้นลีชี้ว่า ผู้ค้าปลีกออนไลน์ในเอเชียต่างพากันลดงบสำหรับการโฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลลง เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านนโยบายเศรษฐกิจ และกำแพงภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการปิดช่องโหว่การค้า de minimis
สำหรับไตรมาสปัจจุบัน ในเดือนกรกฎาคม ลีกล่าวว่า บริษัทอีคอมเมิร์ซจากเอเชียเริ่มกลับมาลงงบโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลกัน ‘มากขึ้น’ อย่างสังเกตได้ เช่นเดียวกันกับผู้ลงโฆษณารายย่อยในอเมริกาเหนือ
“เราคาดว่าจะได้เห็นอุปสงค์ที่แข็งแรงต่อไปอีกในไตรมาส 3 จากการโฆษณาออนไลน์” ลีกล่าว
นักลงทุนมั่นใจ งบ AI ไม่สะดุด
Gil Luria หัวหน้าฝ่ายวิจัยเทคโนโลยีของ D.A. Davidson กล่าวว่า แม้จะมีความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจมหภาค แต่อุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์กลับมีการเติบโตค่อนข้างดี ซึ่งขยายให้เห็นข้อเท็จจริงว่าผู้บริโภคยังคงแข็งแรง
“ยังคงมีมุมมองเชิงบวกว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคจะยังคงแข็งแรงต่อไป และตลาดปลายน้ำจะทรงตัวต่อไปได้” Luria กล่าว
Jasmine Enberg รองประธานและ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก eMarketer กล่าวถึงผลประกอบการไตรมาส 2 ของ Meta ไว้ว่า “สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้คือ บริษัทสามารถลงเงินมหาศาลไปกับ AI ได้ ถ้าธุรกิจหลักของบริษัทยังแข็งแรง และจะได้ประโยชน์จากการลงทุนใน AI ด้วย”
ทั้งนี้ บริษัทต่างๆ ยังคงเพิ่มงบลงทุน AI โดยไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงเร็วๆ นี้ โดย Alphabet เพิ่มรายจ่ายการลงทุน (CAPEX) อีก 10,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2025 ทำให้คาดการณ์งบรวมอยู่ที่ 85,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ Meta ปรับCAPEX เพิ่มเป็น 66,000-72,000 ล้านดอลลาร์ จาก 64,000-72,000 ล้านดอลลาร์
จากผลประกอบการในภาพรวมที่ยังคงเติบโต ทำให้นักลงทุนยังไม่แสดงความวิตกกังวลต่อการทุ่มงบมหาศาลไปกับ AI ของ Meta และ Alphabet
แพลตฟอร์มรายเล็กหืดจับ
นอกจากบริษัทเทคยักษ์ใหญ่แล้ว Reddit ยังรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 โดยมีการเติบโตแข็งแกร่งอยู่ที่ 500 ล้านดอลลาร์ เติบโต 78% YoY หนุนราคาหุ้นขึ้นอีก 20%
Luria กล่าวว่า เป็นการกลับมาพุ่งขึ้น “ราวกับนกฟีนิกซ์” หลังราคาหุ้นของ Reddit เคยร่วงลงถึง 15% ในเดือนกุมภาพันธ์ จากการรายงานจำนวนผู้ใช้ที่ต่ำกว่าคาด โดยมีสาเหตุจากการเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมของ Google
ขณะที่บริษัทใกล้เคียง Reddit อย่าง Snap และ Pinterest ต่างมีผลประกอบการซบเซาในไตรมาส 2
โดย Snap มีรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 9% YoY แต่รายรับเฉลี่ยต่อผู้ใช้ (ARPU) ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด ซึ่ง Evan Spiegel ซีอีโอของ Snap แจ้งในจดหมายถึงผู้ถือหุ้นว่าเป็นผลมาจากการอัปเดตแพลตฟอร์มโฆษณาที่ผิดพลาด
ขณะที่หุ้นของ Pinterest ร่วงลงกว่า 10% เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม หลังรายงานกำไรต่อหุ้น (EPS) ต่ำกว่าคาด ซึ่ง Julia Brau Donnelly ซีเอฟโอของบริษัทชี้แจงในที่ประชุมผลประกอบการว่า เกี่ยวข้องต่อความกังวลต่อมาตรการภาษี และความไม่แน่นอนของตลาด ตามที่เคยระบุไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม
โดย Donnelly จาก Pinterest ชี้แจงว่า “ผู้ค้าปลีกอีคอมเมิร์ซในเอเชียพากันลดงบการใช้จ่ายในสหรัฐฯ ลง” ต่างจาก Meta ที่มีการปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้คนหันไปหาแพลตฟอร์มขนาดใหญ่มากขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอน
“ไม่มีพื้นที่ให้บริษัทรายเล็กผิดพลาดได้เลย” Enberg จาก eMarketer กล่าว
อ้างอิง: