‘มาริษ’ จ่อร้องนานาชาติที่เจนีวา จี้จัดการ ‘กัมพูชา’ ไม่หยุดรุกล้ำไทย-ลอบวางทุ่นระเบิด
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรณีที่ทหารกัมพูชารุกล้ำอธิปไตยของไทยและการตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในดินแดนของไทยล่าสุดนั้น กระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2568 หน่วยทหารไทยตรวจพบการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายกัมพูชาบริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 จ.สุรินทร์ ซึ่งรุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย จึงได้ขับไล่ทหารกัมพูชาออกไป จากนั้นทหารไทยเข้าตรวจสอบพื้นที่ และพบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ตรงจุดที่พบทหารกัมพูชาและบริเวณโดยรอบ จำนวน 3 ทุ่น พร้อมอาวุธอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง เหตุการณ์นี้บ่งชี้อย่างชัดเจนอีกครั้งว่าฝ่ายกัมพูชาละเมิดอธิปไตยของไทย พันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวา และเงื่อนไขหลายข้อของข้อตกลงหยุดยิงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายไทยจะได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อส่งให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (ไอโอที) ทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาต่อไป
นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ จะเดินทางเยือนนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในช่วงสัปดาห์นี้ เพื่อพบหารือกับประเทศที่มีบทบาทสำคัญในประเด็นทุ่นระเบิด รวมถึงคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา (Committee on Cooperative Compliance) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาฯ หลายครั้งที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด อีกทั้งขอให้ประเทศต่าง ๆ เรียกร้องให้กัมพูชาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ระเบิดบริเวณชายแดน และในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญาดังกล่าวอย่างรับผิดชอบ.