รัฐบาลยันไม่เก็บค่าน้ำ-ค่าไฟ พื้นที่อพยพชายแดน บิลเดือน ก.ค-ส.ค.
วันนี้ (21 ส.ค.2568) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) รายงานความคืบหน้าในการติดตามการให้การช่วยเหลือประชาชน และบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา โดยดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จกว่า 400 หลังคาเรือน จากทั้งสิ้น 705 หลังคาเรือน ซึ่งที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซมที่ได้รับความเสียหายไม่มากนักประมาณ 200 กว่าหลังคาเรือน
อธิบดีกรมการปกครองได้รับรายงานจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธของกัมพูชาที่ยิงถล่มเข้าสู่บ้านเรือนประชาชน โดยรัฐบาลได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การซ่อมแซมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน รวมทั้งลงพื้นที่สำรวจ และประเมินค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่บ้านเรือนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา
ทั้งนี้ รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกในการใช้งบประมาณจากหลายภาคส่วน อาทิ กระทรวงมหาดไทย โดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย/กองทุนสำนักนายกฯ สภากาชาดไทย และเงินบริจาค พบว่าบ้าน ที่อยู่อาศัยประจำ ได้รับความเสียหายในพื้นที่ 4 จังหวัด จำนวนทั้งสิ้น 705 หลัง เสียหายทั้งหลัง (เกิน 70%) รวมจำนวน 41 หลัง เสียหายมาก (30 - 70 %) รวมจำนวน 65 หลัง เสียหายน้อย (น้อยกว่า 30%) รวมจำนวน 599 หลัง (ณ วันที่ 19 ส.ค.2568 เวลา 18.00 น.) รวมดำเนินการซ่อมแซมแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 60% อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม 374 หลัง แยกเป็นรายจังหวัด ได้แก่
- จ.ศรีสะเกษ 445 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 134 หลัง คงเหลือ 311 หลัง)
- จ.อุบลราชธานี 139 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 129 หลัง คงเหลือ 10 หลัง)
- จ.สุรินทร์ 107 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 58 หลัง คงเหลือ 49 หลัง)
- จ.บุรีรัมย์ 14 หลัง (ซ่อมแซมแล้วเสร็จ 10 หลัง คงเหลือ 4 หลัง)
ส่วนการนำเสนอข่าวชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่อพยพกลับจากศูนย์พักพิงภายหลังสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค นั้น ขอยืนยันว่านายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้มีข้อสั่งการงดเว้นเก็บค่าไฟ และค่าน้ำ ประจำเดือน ก.ค. - ส.ค.2568 ในพื้นที่ประกาศเป็นพื้นที่อพยพไปแล้ว
ดังนั้น ผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ จึงไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้า หากกรณีชำระแล้ว กฟภ.จะดำเนินการคืนเงินโดยนำไปหักจากค่าไฟฟ้าในเดือนถัดไปได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทร. 1129 PEA Contact Center ตลอด 24 ชั่วโมง
"รัฐบาลเดินหน้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่และรอบด้าน โดยมอบหมายหน่วยงานให้เร่งเยียวยา ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายไม่ว่าจะทั้งหลังหรือบางส่วน ให้แล้วเสร็จให้เรียบร้อยโดยเร็วแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหลายภาคส่วน รวมถึงการสนับสนุนกำลังพลจากหน่วยทหารในพื้นที่ เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติสุขโดยเร็ว"
ขณะที่ กฟภ.ชี้แจงกรณีชาวบ้าน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่อพยพความไม่สงบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ตามที่มีการนำเสนอข่าวชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่อพยพกลับจากศูนย์พักพิงภายหลังสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา และได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้งที่รัฐบาลประกาศมาตรการเยียวยางดเว้นการเก็บค่าไฟฟ้าให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเป็นเวลา 2 เดือน นั้น
วันนี้ (21 ส.ค.2568) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ขอเรียนชี้แจงดังนี้ 1.ค่าไฟฟ้าของผู้ใช้ไฟฟ้าตามที่ปรากฏในข่าว เป็นค่าไฟฟ้าในช่วงเดือน มิ.ย.–ก.ค.2568 ซึ่งมีการจดหน่วยและแจ้งค่าไฟฟ้าเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2568 จึงเกิดการสับสนในทางปฏิบัติกับมาตรการเยียวยาดังกล่าว
2. ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้ PEA ดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าฟรีในใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือน ก.ค. - ส.ค.2568 ให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัยที่อยู่ในพื้นที่ที่ภาครัฐประกาศอพยพไปศูนย์พักพิง
สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าว ไม่ต้องชำระค่าไฟฟ้าในใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือน ก.ค. - ส.ค.2568 กรณีชำระแล้ว PEA จะดำเนินการคืนเงินโดยนำไปหักลดจากค่าไฟฟ้าในเดือนถัดไป
อ่านข่าว :
ประชุม RBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ "ทภ.1 - ภท.5" เริ่มแล้ว