"ปริญญา" คาดผลวินิจฉัย คดีคลิปเสียง "แพทองธาร" คุย "ฮุนเซน"

วันนี้ (21 ส.ค.2568) ผศ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ ในช่วงจับตาสถานการณ์ ทางไทยพีบีเอส ถึงกรณีการไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการ สมช.ปมคลิปเสียงคุยฮุนเซน โดยมองว่า กรณีดังกล่าว น.ส.แพทองธาร ส่งรายชื่อผู้ที่จะเข้ารับการไต่สวนไปทั้งหมด 5 คนโดยศาลเรียกไปไต่สวนเพียง 1 คน คือ นายฉัตรชัย ขณะที่ น.ส.แพทองธาร นั้นไม่ได้ส่งชื่อตัวเอง และศาลเป็นผู้กำหนดให้ น.ส.แพทองธาร ให้เข้ารับการไต่สวน

• วิเคราะห์ : เปลี่ยนม้ากลางศึก? ประเมิน 3 ฉากทัศน์การเมือง
• "ภูมิธรรม" ขอ "แพทองธาร" ขึ้นศาลราบรื่น โต้กระแสวิ่งเต้นมติ 5:4

ในการเรียก น.ส.แพทองธารให้เข้ารับการไต่สวน ศาลฯมีถ้อยคำต่อท้ายว่า หากไม่มาถือว่า ไม่ติดใจ ซึ่งมองว่า หากไม่มาคาดว่า มติอาจจะออกมาที่ 9 :0 และหากจะสู้ก็ต้องมา

ผศ.ปริญญา ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่ออ่านเอกสารชี้แจงของ น.ส.แพทองธาร ก็มองว่ายังไม่ได้ตอบคำถามหลายอย่าง ซึ่งตามคำร้องของผู้ร้องนั้นร้องใน 2 ประเด็น คือ การมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ เพราะเป็นคณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) อีกเรื่องคือ พฤติกรรมที่ทำไปฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (5)

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ

ขณะที่ กรณีที่ว่า คลิปเสียงดังกล่าวเป็นคลิปจริงหรือไม่ ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ยอมรับแล้วว่าเป็นคลิปจริงแต่ในคลิปเสียงความยาวทั้ง 17 นาที น.ส.พทองธาร ได้พูดข้อความใดที่จะทำให้เกิดคำถามว่า ไม่ซื้่อสัตย์สุดจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่หรือฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งกรณีศาลฯจะวินิจฉัยให้พ้นตำแหน่งนั้นเข้าเพียง 1 ข้อเดียว ก็จะพ้นตำแหน่งนายกฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับเสียงข้างมากของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ

ผศ.ปริญญา ยังประเมิน ผลการวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.นี้ นั้นต้องประเมินว่า เลขาฯ สมช.จะช่วยแก้ได้ในข้อไหนใน 2 ข้อ ซึ่งน่าจะอยู่ที่ ข้อ 6 คือ การรักษาเกียรติภูมิของประเทศ บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคง เพราะผู้เป็นนายกฯจะต้องพิทักษ์สิ่งเหล่านี้ คาดว่าศาลฯจะถามในสิ่งเหล่านี้โดยถามว่า กระทบต่อความมั่นคงหรือไม่ กระทบเกียรติภูมิประเทศหรือไม่ และความขัดแย้งที่ลุกลามจนเกิดเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เกิดมาจากคลิปเสียงหลุดหรือไม่

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เข้ารับการไต่สวนกรณีคลิปเสียง

แต่อีกข้อ คือ การขาดคุณสมบัติด้านความซื่อสัตย์สุจริต คุณฉัตรชัยจะไปช่วยแก้ได้หรือไม่ ซึ่งมองว่า น.ส.แพทองธาร ต้องแก้ด้วยตนเอง คือกรณีนี้ ซึ่งตามเอกสารที่ น.ส.แพทองธาร ชี้แจงยืนยันว่าทั้งหมดที่พูดเป็นเทคนิคการเจรจา

กรณีพูดว่า อังเคิลต้องการอะไร เดี๋ยวจัดการ น.ส.แพทองธารบอกว่า เป็นเทคนิค บอกว่าให้อีกฝ่ายพูดมาว่าต้องการอะไรแต่จะให้หรือไม่อยู่ที่เรา หรือ การพูดว่า อย่าไปฟังแม่ทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นคนฝ่ายตรงข้าม ก็เป็นเทคนิคการเจรจา โดยแนวทางบนกระดาษตามที่ชี้แจงเป็นแบบนี้ แต่ศาลฯก็คงจะไต่สวนเพิ่ม

ผศ.ปริญญา คาดว่า สิ่งที่ศาลฯจะถามว่า หากทราบว่าฮุนเซนจะอัดเสียง น.ส.แพทองธาร จะยังพูดแบบนี้หรือไม่ ซึ่งต้องดูว่า น.ส.แพทองธาร จะตอบอย่างไรหากตอบตามกระดาษ คือ เป็นเทคนิคการเจรจา หรืออาจพูดว่า เป็นเพราะฮุนเซนหรอก ซึ่งอาจนำมาสู่การที่ศาลให้เข้าชี้แจง สรุปคือจากนี้ไปต้องรอดูว่า คำถามศาลหนักแค่ไหน ก็จะทำให้พอเห็นทิศทางการวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.นี้ หรือ หากศาลฯถามเบา แต่ประเด็นสำคัญคือ เมื่อถูกคำถามหนัก น.ส.แพทองธาร ตอบได้หรือไม่ หรือ ตอบอย่างไร ซึ่งก็จะมีข่าวออกมาแน่นอนและพอจะประเมินแนวโน้มการวินิจฉัยในวันที่ 29 ส.ค.นี้ได้

อย่างไรก็ตาม แม้ น.ส.จะมีการเก็งข้อสอบกรณ๊ที่ศาลฯจะไต่สวนหรือเอกสารที่ชี้แจงจำนวน 81 หน้า ที่เชื่อว่า มีบุคคลอื่นเขียนให้เพราะมีภาษาและข้อความที่ไม่เนียนสนิท ซึ่งในการเข้ารับการไต่สวน น.ส.แพทองธาร ต้องตอบด้วยตนเอง และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ศาลฯเรียกเพราะอยากรู้ว่า เขียนเองหรือเข้าใจตามเอกสารที่ชี้แจงอย่างไร ซึ่งคาดว่าทีมทนายความ น.ส.แพทองธาร เขียนให้

ถ้าจะช่วย (น.ส.แพทองธาร) ที่เสนอไป 5 คน ต้องมีอย่างน้อย 3 คน และนี่เรียกไปคนเดียว และหากจะเอาคนที่พูดเกิดประโยชน์ ก็น่าจะเป็นคนอื่น แม้คุณฉัตรชัย จะถูกแต่งตั้งสมัยรัฐบาลเพื่อไทย แต่เป็นคนในเป็นเลขฯ สมช.มาก่อน ไม่ใช่คนนอก ที่ถูกหยิบมาเป็นเลขาฯ และอายุเกษียณอีก 2 ปี ขณะที่รัฐบาลไม่แน่ใจว่า จะอยูอีกนานแค่ไหน เชื่อว่า คุณฉัตรชัยจะตอบกลางๆ ตามเนื้อผ้า หรือต่อให้ตั้งใจจะช่วยก็ช่วยได้ข้อเดียวว่า คำพูดของคุณแพทองธารไม่กระทบความมั่นคง และฮุนเซนวางแผนไว้หมดแล้ว แต่เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ น.ส.แพทองธาร ต้องชี้แจงด้วยตนเอง

ผศ.ปริญญา ยังประเมินว่า การเมืองหลังจากนี้ หากศาลวินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร พ้นตำแหน่ง ก็คาดว่าจะเลือกนายกฯคนใหม่ ก่อนวันที่ 9 ก.ย.ก่อนจะวินิจฉัยคดีชั้น 14 คาดว่า มติของศาลรัฐธรรมนูญ หากไม่รอดเก็งว่ามติจะอยู่ที่ 9 : 0 ขณะที่หากรอดจะอยู่ที่ 5 : 4

นายสมชาย แสวงการ อดีต สว.

แต่อย่างไรก็ตาม ผศ.ปริญญา ก็เชื่อว่า ไม่ช้านาน น.ส.แพทองธาร จะยุบสภา และคาดว่า การเลือกตั้งไม่น่าจะเกินช่วงกลางปีหน้า เพราะหลายสิ่งรุมเร้า และขณะนี้พรรคเพื่อไทยจะต้องทำอย่างไรก็ตามให้ฟื้นให้ได้ และยังคงต้องเป็นรัฐบาลในช่วงก่อนเลือกตั้ง และหากเป็นที่ 1 ไม่ได้ ก็ต้องเป็นที่ 2 ซึ่งต้องรักษาคะแนนเอาไว้ให้ได้

อ่านข่าว : "แพทองธาร" ถึงศาล รธน.ไต่สวนคดีคลิปเสียง "ฮุนเซน"

นายกฯ ยังเลี่ยงตอบ หลังสื่อถาม 21 ส.ค.นี้ ไปศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่

เปิดคำร้อง 36 สว.ปมคลิปเสียง "แพทองธาร-ฮุนเซน" แจงยิบผิดจริยธรรมข้อใด