โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ภูมิใจไทย–ประชาชน รับหนังสือ “รวมพลังแผ่นดิน” จี้สภาเปิดอภิปราย MOU 43–44

THE ROOM 44 CHANNEL

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภูมิใจไทย–ประชาชน รับหนังสือ “รวมพลังแผ่นดิน” จี้สภาเปิดอภิปราย MOU 43–44 หวั่นกระทบอธิปไตยท่ามกลางชายแดนตึงเครียด

วันที่ 21 ส.ค. 68 ที่ ลานประชาชน รัฐสภา นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย และ ส.ส.บุรีรัมย์ ได้ออกมารับหนังสือจากกลุ่มแกนนำ “รวมพลังแผ่นดิน” ซึ่งได้เดินทางเข้ายื่นข้อเสนอขอให้รัฐสภาจัดการ อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ เกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ในปี 2543 และ 2544 หลังจากทั้งสองเอกสารกลับมาเป็นประเด็นร้อนในสังคมอีกครั้ง ท่ามกลางความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ระบุว่า ความไม่สงบและเหตุการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนในช่วงที่ผ่านมา ได้จุดกระแสความกังวลในสังคมเกี่ยวกับเนื้อหาและผลกระทบจาก MOU ทั้งสองฉบับ โดยเฉพาะข้อห่วงใยเรื่องอธิปไตยของไทยในพื้นที่ทับซ้อนทั้งทางบกและทางทะเล

สำหรับ MOU ปี 2543 เป็นบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทย–กัมพูชา ซึ่งตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ยังคงมีพื้นที่พิพาทที่ไม่สามารถหาข้อยุติได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่วน MOU ปี 2544 เป็นบันทึกว่าด้วยความร่วมมือในการสำรวจและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ทางทะเลที่ยังไม่มีการแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน โดยเฉพาะพื้นที่ที่เชื่อว่ามีศักยภาพสูงด้านก๊าซธรรมชาติและพลังงาน ซึ่งมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล และถือเป็นประเด็นอ่อนไหวของทั้งสองประเทศ

นายไชยชนก กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยรับฟังข้อกังวลจากทุกภาคส่วนมาโดยตลอด และยืนยันว่าพร้อมจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะพรรคการเมืองที่ให้ความสำคัญกับความมั่นคงของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นอันดับแรก

“เราขอเสนอให้รัฐสภาจัดตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ MOU ทั้งสองฉบับอย่างรอบด้าน ทั้งในมิติด้านความมั่นคง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงต่อประชาชนในพื้นที่ชายแดน” นายไชยชนก กล่าว พร้อมชี้ว่า ผลการศึกษาที่ได้จะสามารถต่อยอดไปสู่การจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายที่รอบคอบ มีข้อมูลสนับสนุนครบถ้วน และสามารถเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส รวมทั้งยังควรเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนโดยตรง

นายไชยชนก ยังกล่าวอีกว่า ในท้ายที่สุด อาจมีการจัดทำ ประชามติ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องสำคัญของประเทศ พร้อมย้ำว่า “เรื่องนี้เกี่ยวพันกับชาติบ้านเมืองโดยตรง และควรได้รับการพิจารณาอย่างจริงจังจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือพรรคการเมืองใด ๆ ก็ตาม”

“เราขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมืองร่วมกันพิจารณาแนวทางนี้อย่างสร้างสรรค์ อย่ามองว่าเป็นเกมการเมือง เพราะนี่คือเรื่องของอนาคตประเทศและอธิปไตยของชาติ” นายไชยชนกย้ำ พร้อมทิ้งท้ายว่า พรรคภูมิใจไทยพร้อมสนับสนุนให้มีการอภิปรายในสภาอย่างเปิดเผย โปร่งใส และไม่จำเป็นต้องมีการลงมติ เพื่อให้ข้อเท็จจริงและข้อกังวลจากทุกฝ่ายได้ถูกหยิบยกมานำเสนออย่างตรงไปตรงมา

บรรยากาศการเคลื่อนไหวครั้งนี้ยังมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในระหว่างการยื่นหนังสือ เมื่อ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางมารับเรื่องต่อจากนายไชยชนก แต่ในขณะนั้น กลับมีประชาชนบางส่วนที่มาร่วมชุมนุมแสดงท่าทีไม่พอใจ ตะโกนขับไล่และแสดงออกถึงความไม่เชื่อมั่น ส่งผลให้แกนนำกลุ่มต้องออกมาประกาศขอให้ควบคุมสถานการณ์และรักษาความสงบเรียบร้อย

จากนั้น นายรังสิมันต์ ได้กล่าวปราศรัยต่อมวลชนว่า “ผมขอยืนอยู่ตรงนี้ในฐานะคนหนึ่งที่รักชาติ และเชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ ล้วนมีหัวใจเดียวกัน — หัวใจที่อยากเห็นประเทศของเรามั่นคง เป็นธรรม และมีอนาคตที่ดี”

นายรังสิมันต์ ย้ำว่า สิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมาในวันนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการมาร่วมชุมนุมหรือฟังคำปราศรัย แต่เป็นเสียงที่สะท้อนถึงความอึดอัด ความเจ็บปวด และความปรารถนาในการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตของประเทศ พร้อมประกาศว่า ตนเองมาในนามพรรคประชาชน ร่วมกับ สส.จากจังหวัดระยอง กรุงเทพมหานคร และภูเก็ต เพื่อแสดงจุดยืนชัดเจนว่า พรรคประชาชนให้ความสำคัญกับการปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และจะใช้ทุกกลไกที่ถูกต้องตามครรลองประชาธิปไตยเพื่อผลักดันเรื่องนี้ให้เกิดขึ้นจริง

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ในขณะนี้สภาผู้แทนราษฎรกำลังพิจารณาญัตติสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ MOU ทั้งสองฉบับ พรรคประชาชนเข้าใจดีถึงความห่วงใยของประชาชน จึงเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาเพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน พร้อมผลักดันให้ได้ข้อสรุปภายในวันพุธที่จะถึงนี้

“ผมทราบดีว่ามีประชาชนบางส่วนยังไม่ไว้วางใจพรรคประชาชน เราพัฒนา หรือแม้กระทั่งตัวผมเอง ผมเข้าใจ และจะไม่ใช้เพียงคำพูดสวยหรูเพื่อขอความเชื่อมั่น แต่จะขอใช้ ‘การทำงาน’ ของผมและเพื่อนสมาชิกเป็นเครื่องพิสูจน์” นายรังสิมันต์กล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคของตนยึดมั่นในความซื่อสัตย์ ไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน และพร้อมจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง ตรวจสอบตรงไปตรงมา และเสนอแนวทางแก้ไขที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน

นายรังสิมันต์ ยังย้ำว่า พรรคประชาชนพร้อมทำงานร่วมกับทุกฝ่ายเท่าที่จำเป็น แม้กระทั่งกับตัวแทนรัฐบาลหรือกองทัพ หากสิ่งนั้นจะนำไปสู่ผลประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติ เพราะสำหรับพรรคประชาชนแล้ว “ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ต้องมาก่อนผลประโยชน์ทางการเมือง”

“สุดท้ายนี้ ผมอยากย้ำกับพี่น้องทุกท่านอีกครั้งว่า ผมไม่ได้ต้องการชนะใจท่านด้วยวาทศิลป์ แต่จะชนะใจท่านด้วยการลงมือทำจริง และจะเดินหน้าต่อไปบนเส้นทางแห่งความจริงใจ โปร่งใส และความรับผิดชอบต่อประชาชน” นายรังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย

ทั้งนี้ ขณะที่สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชายังคงตึงเครียด และรัฐบาลยังไม่ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับจุดยืนต่อ MOU ทั้งสองฉบับ การเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาชน และกลุ่มรวมพลังแผ่นดินในครั้งนี้ ถูกมองว่าอาจเป็นจุดเริ่มต้นของแรงกดดันทางการเมืองระลอกใหม่ ซึ่งสะท้อนเสียงเรียกร้องของภาคประชาชนต่อความมั่นคงและอธิปไตยของชาติอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ ตัวแทนจากหลายพรรคการเมืองได้ขึ้นเวทีเพื่อรับหนังสือจากแกนนำผู้ชุมนุม ประกอบด้วย พรรคเป็นธรรม พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย และพรรคประชาชน ท่ามกลางเสียงปรบมือและการจับตามองจากประชาชนที่เข้าร่วมอย่างคึกคัก

นอกจากนี้ยังมีบุคคลสำคัญในตำแหน่งระดับสูงของรัฐสภา ได้แก่ นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 และ นายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ที่ได้ขึ้นเวทีมารับหนังสือจากแกนนำด้วย สะท้อนถึงความจริงจังในการรับฟังเสียงสะท้อนจากภาคประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนพรรคการเมืองที่ขึ้นเวทีในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็น พรรคฝ่ายค้าน ที่มีจุดยืนเห็นด้วยกับการยกเลิก MOU 43 และ 44 โดยสิ้นเชิง ขณะที่ “ไร้เงา” ตัวแทนจากพรรคฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะ พรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกผู้ชุมนุมจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจากมีบทบาทเป็นแกนนำรัฐบาล และ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีอุดมการณ์ร่วมกับขบวนการชุมนุมฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่กลับไม่ปรากฏตัวในวันนี้

แกนนำผู้ชุมนุม เปิดเผยว่า ในช่วงค่ำ ระหว่างเวลา 17.00–18.00 น. จะมีการขึ้นเวทีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง เพื่อประกาศจุดยืนและท่าทีของขบวนการต่อไป ซึ่งถูกจับตาว่าจะเป็นการยกระดับแรงกดดันทางการเมืองในรัฐสภา เนื่องจากในวันเดียวกันนี้ รัฐสภามีการบรรจุวาระการพิจารณาเรื่อง MOU 43–44 เข้าสู่การประชุม

การปรากฏตัวของพรรคฝ่ายค้านหลายพรรคในการรับฟังเสียงประชาชนครั้งนี้ จึงถูกตีความว่าเป็น “แรงกดดันรอบใหม่” ต่อรัฐบาลให้ต้องกำหนดจุดยืนที่ชัดเจนต่อบันทึกความเข้าใจทั้งสองฉบับ ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนที่ยังคงตึงเครียดและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมที่ขยายวงกว้างขึ้น

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE ROOM 44 CHANNEL

“สุทิน” บอก ขาเก๋า พท.ไม่หวั่นไหวคดีนายกฯ

25 นาทีที่แล้ว

ฝ่ายค้าน แท็กทีมถล่ม “ไชยา” ชิงปิดสภา หนีถกญัตติ MOU 43

39 นาทีที่แล้ว

งงทั้งห้องประชุม “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU43-44

42 นาทีที่แล้ว

จตช.เผย ไทยออกหมายจับ "ก๊กอาน" กับพวกชาวกัมพูชา 20 รายเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

"กรวีร์" สอนมวย "ภูมิธรรม-เดชอิศม์" ทำขึงขังสั่งเพิกถอนเขากระโดงด่วนใน 2 วัน

THE ROOM 44 CHANNEL

“ไชยา” รองประธานสภาฯ รับหนังสือกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน เรียกร้องยกเลิก MOU 43-44

สยามรัฐ

อ.คมสันต์เล่าบรรยากาศไต่สวน "แพทองธาร" ชี้แจงดีมีสะดุดเรื่องกฎหมาย

Thai PBS

‘กรรมาธิการนิรโทษฯ’ หาช่องช่วยคดี 112 นัดลุยโหวต 28 ส.ค.นี้

เดลินิวส์

“พลโทบุญสิน” ลั่น! ไม่ว่าแม่ทัพท่านใดมารับตำแหน่ง-ไม่มีการรื้อรั้วช่องอานม้า

WeR NEWS

“ธนกร” เชื่อ สว.โหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบฯ หลังลือมีบางกลุ่มจ่อคว่ำ ชี้ เป็นกฎหมายสำคัญ ฝาก ทุกฝ่ายไม่เล่นเกมการเมือง

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม