ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดตั้งแต่เกิดเหตุปะทะกระทบประชาชน 7.7 แสนชีวิต
รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดปกป้องอธิปไตย ดูแลความมั่นคงและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
20 ส.ค.2568 น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงความคืบหน้าการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดในการปกป้องอธิปไตย ดูแลความมั่นคงและเยียวยากับผู้ได้รับผลกระทบทุกคน ในส่วนของการเยียวยาเจ้าหน้าที่รัฐและประชนได้รับผลกระทบกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มีการเร่งจ่ายเงินเยียวยา แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกคน
ขณะที่กระทรวงมหาดไทยได้อนุมัติเงินทดลองราชการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติรวมแล้วกว่า 145,000,000 บาท ส่วนมาตรการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ ได้เพิ่มช่องทางการตลาดและการค้าชายแดนในการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ที่ได้ผลกระทบ
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า สิ่งที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ 1.เรื่องการดำเนินคดี ตามกฏหมายระหว่างประเทศต่อผู้ทำความผิด 2.เก็บกู้วัตถุระเบิดและตรวจสอบการใช้โดรนที่ผิดปกติ รวมถึงจัดพื้นที่ปลอดภัยสำหรับรองรับการเคลื่อนย้ายของประชาชนเมื่อมั่นใจว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว โดยหน่วยงานด้านความมั่นคงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิดอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันอันตราย พร้อมบังคับใช้กฎหมายต่อผู้กระทำความผิดกรณีผู้ที่ใช้โดรนหรือฝ่าฝืนข้อห้ามที่ทางราชการได้ประกาศไว้ โดยมีการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ล่าสุดกระทบประชาชน 779,000 คน
ส่วนการรายงานสถานการณ์ล่าสุดกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. มีประชาชนได้รับผลกระทบแล้วกว่า 7 จังหวัด 45 อำเภอ 336 ตำบล 4,081 หมู่บ้านรวม 262,551 ครัวเรือน หรือกระทบประชาชน ประมาณ 779,000 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 705 หลัง ซ่อมแซมไปแล้ว ประมาณ 331 หลัง คิดเป็นร้อยละ 46.9 ในด้านงบประมาณเพื่อการช่วยเหลือฉุกเฉิน
ขณะนี้รัฐบาลได้อนุมัติการใช้จ่ายเงินทดลองราชการไว้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว รวม 201 ล้านบาท ครอบคลุมค่าอาหารค่าที่พักพิง ค่าซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ค่ารักษาพยาบาล และการจัดการศพ
จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ส่วนการเยียวยาผู้ประสบภัย มีการดำเนินการแล้วรวม 17,675,559 บาท
นอกจากนี้ รัฐบาลสนับสนุนสิ่งของบรรเทาทุกข์ประมาณ 2,000,000 หน่วย ไม่ว่าจะเป็นอาหารกล่อง น้ำดื่ม ถุงยังชีพ เครื่องนุ่งห่ม เครื่องจักรกลสาธารณภัย เช่นรถกู้ภัยรถผลิตน้ำดื่ม และรถประกอบอาหารลงพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เยาวชน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลขอบคุณคณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ช่องอานม้า ตรวจสอบกรณีกัมพูชารุกเข้ามาตัดลวดหนาม
ทบ. แจงกระสุนฟอสฟอรัสขาวไม่ใช่อาวุธเคมี-กัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนข้อเท็จจริง
ทบ. แจงพื้นที่บ้านหนองจานอยู่ในเขตไทย เดิมเคยเป็นที่ช่วยเหลือชาวกัมพูชาลี้ภัย
กต. ชี้กัมพูชาไม่รับข้อเสนอร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด-ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รัฐบาลย้ำพื้นที่ “บ้านหนองจาน” เป็นของไทย 100% เตือนกัมพูชาอย่าใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์
- รัฐบาลขอบคุณคณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่ช่องอานม้า ตรวจสอบกรณีกัมพูชารุกเข้ามาตัดลวดหนาม
- สรุปสถานการณ์แนวชายแดนไทย - กัมพูชา พบโดรน 23 ลำ รถหลายคันวิ่งในพื้นที่
- เช็กรายชื่อ มติครม.แต่งตั้ง-โยกย้ายล็อตใหญ่ 25 ข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย
- รัฐบาลปฎิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง พร้อมใช้เวที RBC GBC เจรจาเพื่อรักษาอธิปไตย