“คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์” ขึ้นแท่นตัวเต็งนั่งเก้าอี้ “ประธานเฟดคนใหม่” ในยุครัฐบาลทรัมป์
คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในผู้ท้าชิงอันดับต้น ๆ ที่ทีมประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ หลังวาระของเจอโรม พาวเวล จะสิ้นสุดในปี 2569
วันที่ 8 สิงหาคม 2568 เวลา 00.29 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า แหล่งข่าวระบุว่า นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ (Christopher Waller) ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) กำลังกลายเป็นตัวเต็งอันดับต้น ๆ ที่ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พิจารณาเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนต่อไป แทนนายเจอโรม พาวเวล เมื่อวาระของพาวเวลล์สิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม 2569
ที่ปรึกษาของทรัมป์ประทับใจในท่าทีของวอลเลอร์ที่ยินดีขยับนโยบายตามการคาดการณ์ล่วงหน้า มากกว่าจะยึดตามข้อมูลเศรษฐกิจปัจจุบัน และชื่นชมความรู้ลึกซึ้งของเขาต่อระบบของเฟดโดยรวม แม้ว่าวอลเลอร์จะยังไม่ได้พบกับทรัมป์โดยตรง แต่มีรายงานว่าเขาได้หารือกับทีมงานของประธานาธิบดีแล้ว
ผู้ท้าชิงคนอื่น ๆ ได้แก่นายเควิน วอร์ช อดีตเจ้าหน้าที่เฟด และ นายเควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเช่นกัน
นายคุช เดไซ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์จะเสนอชื่อผู้ที่มีความสามารถและประสบการณ์มากที่สุด …แต่หากไม่ได้ออกจากปากของประธานาธิบดีเอง ข้อมูลเรื่องบุคลากรล้วนถือว่าเป็นการคาดเดา”
ผลงานโดดเด่นของวอลเลอร์
สตีเฟน มิราน ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทำเนียบขาว กล่าวกับ Bloomberg ว่า “วอลเลอร์มีผลงานน่าประทับใจตลอดสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการคาดการณ์เงินเฟ้อและแนวโน้มการปรับนโยบายที่แม่นยำ”
ทรัมป์กล่าวเมื่อวันพุธว่ารัฐบาลได้ลดตัวเลือกตำแหน่งประธานเฟดเหลือ 3 รายชื่อ โดยมีรัฐมนตรีคลัง สก็อตต์ เบสเซนต์, รองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ และรัฐมนตรีพาณิชย์ โฮเวิร์ด ลัทนิก เป็นคณะกรรมการสรรหา
ด้านแฮสเซตต์ เคยพบกับทรัมป์เพื่อหารือเรื่องตำแหน่งนี้แล้ว ขณะที่วอร์ช เคยสัมภาษณ์รับตำแหน่งประธานเฟดในปี 2560 แต่ไม่ได้รับเลือก และเคยถูกพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีคลังในปี 2566
ในขณะเดียวกันรัฐบาลยังอยู่ระหว่างหาผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการเฟดชั่วคราว แทนที่ อาเดรียนา คูเกลอร์ ที่จะลาออกเร็ว ๆ นี้ และจะเสนอชื่อผู้ว่าการเฟดวาระ 14 ปีอีกหนึ่งรายในต้นปี 2569 ซึ่งทรัมป์อาจเลือกผู้ที่สนับสนุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ
วอลเลอร์กับมุมมอง “สวนกระแส” ภายในเฟด
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วอลเลอร์เป็น 1 ใน 2 ของสมาชิกบอร์ดเฟดที่ลงมติคัดค้านการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดยเขาและมิเชล โบว์แมน ซึ่งได้รับการเสนอชื่อโดยทรัมป์เช่นกัน เห็นว่าควรลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เนื่องจากมีสัญญาณอ่อนแอในตลาดแรงงาน
หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน รายงานการจ้างงานของสหรัฐก็สะท้อนภาพการเติบโตของการจ้างงานที่ชะลอตัวลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งสนับสนุนมุมมองของวอลเลอร์และโบว์แมน
ในขณะที่พาวเวลและสมาชิกบอร์ดคนอื่น ๆ ยังคงมองว่าตลาดแรงงานยัง “แข็งแกร่งในภาพรวม” และต้องการรอข้อมูลเพิ่มเติมก่อนปรับดอกเบี้ย ซึ่งเป็นจุดยืนที่ทำให้ทรัมป์ไม่พอใจและวิจารณ์พาวเวลล์อย่างต่อเนื่องว่าขึ้นดอกเบี้ยช้าเกินไป
ประวัติและจุดยืน
วอลเลอร์เป็นนักเศรษฐศาสตร์ระดับปริญญาเอก ทรัมป์เสนอชื่อเขาเข้าดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเฟดในปี 2563 ก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นรองประธานและผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ วุฒิสภาสหรัฐให้การรับรองเขาด้วยคะแนน 48 ต่อ 47
ในปี 2565 เขาเคยโต้แย้งกับนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำ เช่น ลาร์รี ซัมเมอร์ส โดยเชื่อว่าเฟดสามารถลดเงินเฟ้อหลังโควิดได้โดยไม่ทำให้การว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งเขาก็พิสูจน์ว่าสมมติฐานนั้นถูกต้อง เงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 3% โดยที่อัตราการว่างงานไม่เคยเกิน 4.2%
แม้จะได้รับการจับตามองจากทรัมป์ แต่เมื่อเดือนที่แล้ว วอลเลอร์บอกกับ Bloomberg Television ว่าเขายังไม่เคยได้รับการติดต่อโดยตรงจากประธานาธิบดี
“ถ้าประธานาธิบดีติดต่อผมและบอกว่า ผมต้องการให้คุณรับตำแหน่งนี้ ผมก็จะรับ” เขากล่าว“แต่จนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้ติดต่อมา”
วอลเลอร์ยังกล่าวเมื่อเดือนเมษายนว่า “ความเป็นอิสระของเฟด เป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการทำงานของเศรษฐกิจสหรัฐ และยังย้ำว่าใครไม่อยากถูกวิจารณ์ ก็ไม่ควรมารับตำแหน่งนี้”
อ้างอิง : bloomberg.com