โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

จี้อุตฯเร่งปรับตัวรับมือกม.โลกร้อน-CBAM ห่วงกระทบต้นทุนพุ่งฉุดความสามารถแข่งขัน

Manager Online

เผยแพร่ 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • MGR Online

สหภาพยุโรปเดินหน้าบังคับใช้มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนหรือ CBAM เข้มข้นขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลกระทบทำต้นทุนพุ่งต่ออุตฯส่งออกไทย และไทยเตรียมคลอดกม.ใหม่ “พ.ร.บ.โลกร้อน” บังคับใช้ปี 69 คุมเข้มรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมกำหนดภาษีคาร์บอนคาดส่งผลกระทบต่ออุตฯภายใต้การบังคับใช้ 3 เฟส คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.5 ล้านล้านบาท หรือ 37% ของ GDP แนะอุตฯเร่งปรับต้วรับมือกฎหมายใหม่

นายตรีเทพ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกลบอล คาร์บอน คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ GCC เปิดเผยว่า ตามที่สหภาพยุโรปได้ประกาศบังคับใช้มาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism หรือ CBAM) กับผู้ผลิตและส่งออกสินค้าใน 6 อุตสาหกรรมไปยังสหภาพยุโรปตั้งแต่ 1 ต.ค. 2566 ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย ไฟฟ้า และไฮโดรเจน ส่งผลให้บริษัทไทยที่ส่งสินค้าเหล่านี้ไปยังสหภาพยุโรปต้องรายงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพิ่มต้นทุนในการแข่งขันมากขึ้น และขีดความสามารถการแข่งขันลดลง เมื่อต้องเผชิญกับคู่แข่งชาติอื่นที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่า

ทั้งนี้ มาตรการ CBAM กำลังจะพ้นระยะเปลี่ยนผ่าน และก้าวสู่การบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 1 ม.ค.2569 นี้ ผู้ส่งออกจะต้องรับภาระเพิ่มเติมจากการช่วยจ่ายค่า “ใบรับรอง CBAM” ให้แก่ผู้นำเข้า ตามปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อย ขณะเดียวกัน ในช่วงปี 2569 ประเทศไทยน่าจะเริ่มประกาศใช้ พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (พ.ร.บ.โลกร้อน) เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานโลก ภายใต้ พ.ร.บ.ดังกล่าว จะส่งผลกระทบทางตรงแก่หลากหลายอุตสาหกรรมภายใต้การบังคับใช้ 3 เฟส คิดเป็นมูลค่าอุตสาหกรรมรวมกว่า 6.5 ล้านล้านบาท หรือ 37% ของ GDP

“พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จะเป็นกฎหมายฉบับแรกของไทยที่กำหนดหน้าที่ทางกฎหมายโดยตรงต่อผู้ประกอบการเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีทั้งข้อบังคับด้านการปล่อยก๊าซฯ กลไกด้านภาษี ตลอดจนการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและรองรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งที่น่ากังวลคือ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบและต้นทุนที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังไม่ได้เริ่มเรียนรู้วิธีการบันทึกคาร์บอน รวมถึงยังไม่ได้เตรียมมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิตของตัวเอง ซึ่งท้ายสุดจะส่งผลให้บริษัทเหล่านั้นต้องเสียภาษีคาร์บอนในอัตราที่สูง” นายตรีเทพ กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบภายใต้ 3 เฟส ได้แก่ เฟสที่ 1 (ปี 2569) ภาคขนส่ง พลังงาน สาธารณูปโภค โลหะและอโลหะ (เหล็ก อะลูมิเนียม) รวมมูลค่าอุตสาหกรรม 1.71 ล้านล้านบาท หรือ 10% ของ GDP เฟสที่ 2 อุตสาหกรรมปิโตรเลียม ยาง พลาสติก การขุดเจาะปิโตรเลียม เคมีภัณฑ์ เหมืองถ่านหิน กระดาษและเยื่อกระดาษ รวม 1.77 ล้านล้านบาท หรือ 10% ของ GDP เฟสที่ 3 อุตสาหกรรมเกษตรและปศุสัตว์ อาหารและเครื่องดื่ม คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ไฟฟ้า รวม 3.02 ล้านล้านบาท หรือ 17% ของ GDP และรวมถึงภาคอุตสาหกรรมการจัดการของเสีย ที่มีมูลค่ารวมโดยประมาณอีกหลายหมื่นล้านบาท

นอกจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบทางตรงแล้ว กลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เป็นซัพพลายเออร์ของอุตสาหกรรมเหล่านี้ ยังมีแนวโน้มจะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากกฎหมายฉบับใหม่ด้วย เนื่องจากวิธีการบันทึกการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จะคำนวณลงไปถึงห่วงโซ่อุปทาน ทำให้ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมจะต้องการปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากซัพพลายเออร์ รวมถึงมีมาตรการคุมเข้มอื่นๆ แก่ซัพพลายเออร์ เพื่อให้ต้นทุนภาษีคาร์บอนของตัวเองลดลง

“บริษัทต่างๆ ต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงภายใต้กฎหมายใหม่ดังกล่าว เพราะเป็นกฎหมายที่สอดคล้องกับทิศทางมาตรการดูแลสิ่งแวดล้อมของโลก ปัญหาใหญ่คือองค์กรในไทยยังขาดความรู้เรื่องกระบวนการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่วิธีการตรวจวัดและรายงานคาร์บอนฟุตปรินท์ ทั้งของสินค้าและขององค์กร แนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อลดต้นทุนภาษี เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน การเตรียมความพร้อมด้านต้นทุนและกลไกตลาด ตลอดจนปรับตัวและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” นายตรีเทพ กล่าว

ทั้งนี้ โกลบอล คาร์บอน คอร์ปอเรชั่น จัดตั้งขึ้นมาโดยมีเป้าหมายในการให้บริการจัดการก๊าซเรือนกระจกทั้งช่วงเปลี่ยนผ่านก่อนกฎหมายบังคับใช้ และหลังจากกฎหมายถูกบังคับใช้ไปแล้ว โดยมีบุคลากรพร้อมให้คำปรึกษา (GHG Consult) ให้คำแนะนำตั้งแต่ต้นน้ำเพื่อให้รู้ว่าองค์กรปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่าใด ไปจนถึงให้คำแนะนำในการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านบริการต่างๆเพื่อรับมือทั้งผลกระทบจากมาตรการ CBAM และกฎหมายใหม่ที่จะบังคับใช้ในปี 2569

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Manager Online

“รสนา” จี้รัฐบาลแสดงความจริงใจห่วงใยบ้านเมือง ต่ออายุราชการ "แม่ทัพกุ้ง" อย่างน้อย 6 เดือน-เชิญมาเป็น รมว.กลาโหม

57 นาทีที่แล้ว

ยังโหดได้อีก! กองทัพยิวประกาศเริ่มใช้แผนบุกกาซาครั้งใหม่ ขณะเนทันยาฮูเดินกลยุทธ์ขับชาวปาเลสไตน์ออกไป

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทัพรัสเซียเร่งบุกยึดพื้นที่ภาคตะวันออกยูเครน ก่อนหน้าซัมมิตปูติน-ทรัมป์ที่อะแลสกาศุกร์นี้

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เพื่อนดาราจัดคอนเสิร์ตระดมทุนค่ารักษา “จอย ทีสเกิ๊ต” สู้มะเร็ง “ยุ้ย” ชมจอยเข้มแข็งมาก ร้องไห้ครั้งเดียว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

5 บัตรเครดิตเข้า Lounge สนามบินฟรี ใบไหนดีในปี 2568

SMART SME

Pacamara Coffee เปิด 24ชม.ในรพ.จุฬาฯ ลด 50% สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

Manager Online

นบข.เคาะแจกเงินช่วยข้าวนาปี-นาปรัง ไร่ละ 1,000 บาท สูงสุด 10 ไร่ ช่วยเหลือเกษตรกรกว่า 8.5 แสนครัวเรือน

VoiceTV

POP MART เปิดแฟลกชิพที่ไอคอนสยาม ทุบสถิติขายวันเปิดร้านสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Manager Online

กรมบัญชีกลางต่อยอด New GFMIS Thai e - Tax ออกหลักฐานรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายแบบอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มใช้งาน 13 ส.ค. 2568

VoiceTV

‘วิทัย’ ว่าที่ ผู้ว่าการ ธปท. ขอบคุณธ.กรุงเทพ ลดดอกเบี้ย ดูแลภาคธุรกิจ-ประชาชน

เดลินิวส์

SAPPE ยันภาษีทรัมป์ไม่กระทบ งัดScenario Planning สู้ปัจจัยลบ

Manager Online

CPN ซื้อหุ้นคืนวงเงิน 5 พันล. เผยQ2/68 โกยกำไรเฉียด 4 พันล.

Manager Online

ข่าวและบทความยอดนิยม

ไทยออยล์ โชว์Q 2 กำไรพุ่งแตะ 6476 ล้านบาท หวั่นครึ่งปีหลังค่าการกลั่นวูบ

Manager Online

“เมฆินทร์ เพ็ชรพลาย”เข้าวินจ่อนั่งเก้าอี้ ซีอีโอ”บวท.” รอบอร์ดอนุมัติรับภารกิจ Aviation Hub

Manager Online

คณะผู้บริหาร บ. โตโยต้า มอเตอร์ ฯ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ณ ท้องสนามหลวงร่วมลงนามถวายพระพร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ฯ

Manager Online
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...