ศาลอินเดียสั่งย้ายหมาจรจัดออกจากเมืองหลวง
นิวเดลี 13 ส.ค. – ศาลสูงอินเดียสั่งย้ายสุนัขจรจัดออกไปนอกเมืองหลวงและปริมณฑลภายในเวลา 8 สัปดาห์ หลังพบว่าสุนัขกัดผู้คนจนทำให้มีผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าสูงขึ้นมาก รวมถึงเด็ก ๆ ด้วย
ศาลสูงอินเดียออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ในกรุงเดลี ให้เริ่มนำสุนัขจรจัด 5,000 ตัวออกไปจากพื้นที่เสี่ยงสูง จัดการทำหมันก่อนพาพวกมันไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ถาวร ศาลระบุว่า ผู้คนทั่วไปโดยเฉพาะเด็ก ๆ ไม่ควรตกเป็นเหยื่อของโรคพิษสุนัขบ้า พวกเขาควรได้ใช้ชีวิตอย่างมั่นใจโดยที่ปราศจากความหวาดกลัวว่าจะถูกสุนัขกัด
รัฐบาลอินเดียเผยเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า มีรายงานสุนัขกัดคนทั่วประเทศเกือบ 430,000 กรณีในเดือนมกราคม ขณะที่ตลอดปี 2024 มีเหตุสุนัขกัดราว 3.7 ล้านกรณี ข้อมูลจากโรงพยาบาลพบว่า มีคนถูกสุนัขกัดเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในกรุงนิวเดลีเกือบวันละ 2,000 กรณี เป็นตัวเลขที่อันตรายและน่ากังวลมาก ขณะที่ข้อมูลจากหน่วยงานสำรรวจสุนัขจรจัด พบว่า อินเดียมีสุนัขจรจัดราว 52.5 ล้านตัว ในจำนวนนี้ราว 8 ล้านตัวที่อยู่ในสถานสงเคราะห์สัตว์แล้ว คาดว่าเฉพาะในกรุงนิวเดลี อาจมีสุนัขจรจัดมากถึง 1 ล้านตัว จึงไม่น่าแปลกใจที่มีสุนัขกัดเด็กในเมืองหลวงมากขึ้นเรื่อย ๆ และหลายกรณีมีอาการร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม มีเสียงเรียกร้องมากขึ้นว่าให้ทำหมันพวกมันเพื่อป้องกันการขยายพันธุ์ แต่การทำเช่นนั้นยังไม่อาจยับยั้งโรคพิษสุนัขบ้าได้ทั้งหมด และยังมีเสียงวิจารณ์เรื่องการย้ายถิ่นสุนัขจรจัดเหล่านี้ ว่าจะนำไปไว้ที่สถานสงเคราะห์แห่งใด หรือที่ไหนที่จะสามารถรองรับในปริมาณมาก ๆ ได้ ขณะที่บางคนแสดงความเห็นว่าควรต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าครั้งใหญ่และการทำหมันหมู่ ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่มีมนุษยธรรมและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถลดปัญหานี้ลงได้.-815.-สำนักข่าวไทย