“ครูป่าไม้” ปลูกจิตสำนึกเยาวชน ส่งเสริมการอนุรักษ์ เรียนรู้สนุก เข้าใจง่าย เยาวชนมีส่วนร่วมดูแลป่าอย่างเห็นผล
โครงการครูป่าไม้ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สำนักงาน กปร. และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เดินหน้าปลูกฝังแนวคิดการอนุรักษ์ให้เยาวชน ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งในห้องและนอกห้องเรียน มุ่งเน้นเรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า ระบบนิเวศ ภัยธรรมชาติ และแนวพระราชดำริด้านการอนุรักษ์ สามารถลดจำนวนการเกิดไฟป่าได้ต่อเนื่องอย่างเป็นนัยสำคัญ เด็กนักเรียนยืนยัน เรียนสนุก เข้าใจง่าย นำไปใช้ได้ โดยไม่สร้างไฟป่า ช่วยดูแล เจอไฟป่าแจ้งผู้ใหญ่ช่วยดับไฟ
นางศิริลักษณ์ ทัสนารมย์ ที่ปรึกษาด้านการประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะเจ้าหน้าที่ สำนักงาน กปร. ลงพื้นที่ติดตามโครงการครูป่าไม้ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งปี2566โดยคัดเลือกโรงเรียนในพื้นที่รอบป่าพรุควนเคร็งที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและรวมทั้งมีชุมชนที่มีวิถีชีวิตร่วมกับป่ากระจายอยู่โดยรอบ โดยไฟป่ายังคงเป็นปัญหาที่ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้ฝนทิ้งช่วงนานขึ้น ซึ่งโครงการครูป่าไม้ จะเป็นเครื่องมือเชิงป้องกันในการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้เด็กและเยาวชนช่วยดูแลรักษาป่า รวมถึงถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ไปสู่ผู้ปกครอง ครอบครัว และชุมชน เกิดเป็นเครือข่ายการอนุรักษ์ป่าและทรัพยาการที่ยั่งยืน
นางวารุณี นันทะปัตย์ ผู้อำนวยการส่วนศึกษาและพัฒนา สำนักสนองงานพระราชดำริ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยถึงโครงการครูป่าไม้ว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้จัดทำหลักสูตรการเรียนรู้นอกชั้นเรียนสำหรับระดับประถมศึกษา มี 6 บทเรียน 24 กิจกรรม ครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่ความรู้พื้นฐานเรื่องป่าและสัตว์ป่า ไปจนถึงภัยธรรมชาติ แนวพระราชดำริ และการลงมือปฏิบัติ เพื่อให้เด็กเกิดความรัก หวงแหน และพร้อมมีส่วนร่วมฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ
“ผลการประเมินผลโครงการฯ โดยสำนักงาน กปร. ร่วมกับคณะครุศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า เด็กนักเรียนมีความรู้และพฤติกรรมด้านการอนุรักษ์เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน จนนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้อย่างเหมาะสม ปัจจุบันไฟป่าที่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งถึง 49 ครั้งในปี 2567 ได้ลดลงเหลือ 2 ครั้งในปี 2568 ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือของชุมชนและเยาวชนร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่” นางวารุณี นันทะปัตย์ กล่าว
นายวิวัฒน์ นาคช่วย ผู้อำนวยการโครงการพระราชดำริและกิจกรรมพิเศษ กรมอุทยานแห่งชาติฯ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 จังหวัดนครศรีธรรมราช เผยว่า ในปี 2568 มี 8 โรงเรียนเข้าร่วมโครงการจำนวน 5 โรงเรียนอยู่รอบป่าพรุควนเคร็งได้แก่ โรงเรียนบ้านทุ่งไคร โรงเรียนบ้านปากควน โรงเรียนบ้านตรอกแค โรงเรียนบ้านขอนหาด และโรงเรียนวัดควนเคร็ง ซึ่งนักเรียนมีความรู้และเห็นความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และพร้อมถ่ายทอดสู่ครอบครัว ผลที่เกิดขึ้นคือเครือข่าย “ครูป่าไม้” และ “นักอนุรักษ์น้อย” ที่ช่วยดูแลป่า ลดทั้งปัญหาไฟป่าและการบุกรุกพื้นที่ อีกทั้งยังทำให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
เด็กหญิงณิฌาดา ด้วงแดง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านขอนหาด ตำบลขอนหาด อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เล่าถึงประสบการณ์เข้าร่วมในโครงการครูป่าไม้ว่า
“การเรียนสนุก เข้าใจง่าย ทำให้รู้ว่าป่ามีความสำคัญต่อการใช้ชีวิต ถ้าป่าสมบูรณ์ การใช้ชีวิตของชุมชนก็จะไม่ลำบาก มีพืชผักและสัตว์ในป่าพรุมากขึ้น เช่น มีปลาให้จับมากินได้ตลอดเวลาได้ รู้ว่าถ้าเกิดไฟป่าให้ออกห่างจากจุดนั้นก่อน แล้วไปบอกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านให้มาช่วยดับไฟป่า ช่วยหาน้ำมาดับไฟหรือขุดบ่อน้ำริมป่าเตรียมไว้ เพื่อตักน้ำมาดับไฟเวลาเกิดไฟป่า และต้องไม่ทำให้เกิดประกายไฟในพื้นที่ใกล้กับป่า” เด็กหญิงณิฌาดา ด้วงแดง กล่าว
โครงการครูป่าไม้จึงไม่เพียงสร้างองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์แก่เยาวชน แต่ยังจุดประกายให้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลต่อการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างยั่งยืน